27 ก.ย. 2020 เวลา 14:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Emotional management
การจัดการอารมณ์เมื่อคุณลงทุนในตลาดหุ้น
ผมมีประสบการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นมาประมาณ 6 ปี เน้นการถือหุ้นบริษัทดี ลงทุนระยะยาว เติบโตไปกับกิจการ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมมีหุ้นตลอด กลยุทธ์ส่วนมากจะเป็นการเลือกหุ้น ซื้อและถือเฉยๆ รอจังหวะที่บางตัวตกหนัก จนถึงจุดที่ผมรอ ผมจะซื้อหุ้นตัวเดิมเพิ่ม ..
ผมมีวิธีจัดการกับอารมณ์ของตัวเองอย่างไร จึงสามารถลงทุนหุ้นระยะยาวได้ตามแผน วันนี้เราจะมีคุยเจาะลึกกันที่ประเด็นนี้ครับ
🚨 เมื่อราคาหุ้นตก : เกิดจากดัชนีโดยรวมถูกขาย หรือ หุ้นตัวที่เราถืออยู่ ถูกขายอย่างหนัก ผมแบ่งอารมณ์ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆสำหรับผู้ถือหุ้น เป็น 2 แบบ ได้แก่
👉🏻กลัว : กลัวว่า เงินของคุณที่อยู่ในหุ้นตัวนั้น มันจะลดลง .. คุณทนเห็นตัวเลขสีแดงเป็นจำนวนมากๆไม่ไหว เกินใจจะรับไหว .. ถ้าคุณขาดสติในจังหวะนี้ คุณอาจจะขายหุ้นนี้ทิ้งก็ได้ ด้วยความกลัวที่มันจะตกลงไปต่ำกว่านี้อีก ทั้งที่จริงๆแล้ว ตรงจุดนี้ เป็นจุดที่ " น่าซื้อ " จุดหนึ่งเลยทีเดียว เท่ากับเราทำผิดที่เราขายหุ้นดีทิ้ง ที่ราคาต่ำ
วิธีแก้ : เมื่อหุ้นที่คุณถืออยู่ ราคาตกลงมามากๆ คุณควรจะยึดติดอยู่กับเหตุผลว่า ทำไมคุณซื้อหุ้นตัวนี้ตั้งแต่แรก มันดีงามอย่างไร แล้วความดีงามนั้นยังคงอยู่มั๊ย ? ถ้าพื้นฐานหุ้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงแล้ว จริงๆ จุดนี้ เป็นจุดที่เราควรจจะพิจารณา
" ซื้อหุ้นดี " เพิ่ม ด้วยซ้ำ ... ทุกครั้งที่กลัว อยากขายหุ้นทิ้ง ให้นึกเสมอว่า ตั้งแต่วันแรก ทำไมเราซื้อหุ้นตัวนี้ ... ในชีวิตจริง เวลาเราเดินห้าง แผนกไหนขายของ sale ลดราคา เราแทบจะกระโดดเข้าใส่ แต่พอเป็นหุ้นดี sale ลดกระหน่ำ .. ทำไมเรากลัว จะเดินหนี แทนที่จะกระโดดเข้าใส่ ??
👉🏻โลภ : โลภเมื่อหุ้นตก แสดงว่า คุณได้ทำตามแผน คุณอยากได้หุ้นตัวนี้เพิ่มอยู่แล้ว mindset คุณถูกต้อง คือ หุ้นดีๆ ราคาตก เราต้องซื้อเพิ่ม ไม่ใช่ขายทิ้ง! ... โลภยังไง คือ ซื้อเร็วเกิน เช่น ราคาหุ้นตกลงมา ต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ยของคุณเพียง 5% คุณดันรีบซื้อเกินไป .. เมื่อซื้อแล้ว มันไม่ได้มีผลทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของคุณลดลงเลย เพราะ ราคามันห่างกันน้อยเกินไป โดยส่วนตัว ผมอยากให้มันลงสัก 10-20% ก่อนค่อยพิจารณาซื้อเพิ่ม มันจะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของเราถูกลงมาก
🍀 เมื่อราคาหุ้นขึ้น : เกิดจากดัชนีโดยรวมถูกซื้อ หรือ หุ้นตัวที่เราถืออยู่ ถูกซื้ออย่างหนัก แบ่งได้ 2 อารมณ์ เช่นกัน ได้แก่
👉🏻กลัว : กลัวจะขาดทุนกำไร รีบขายทิ้งเพราะได้กำไรแล้ว! ... พอขายปั๊บ ราคาพุ่งขึ้นต่อไปอีกไกล ลักษณะนี้เรียกกันว่า " ขายหมู " เป็นเพราะว่า เราทนรวยไม่ได้ เวลาหุ้นตก อมได้ตั้งนาน พอหุ้นขึ้น ดันทนรวยไม่ไหว กำไรนิดเดียว ก็เอาแล้ว ปิดสถานะ ขายทิ้งหมด ถ้าทำแบบนี้ ไม่มีทางรวย ... กลัวอีกแบบคือ กลัวว่า ราคาหุ้นจะตกลงมา ไม่ ไม่ ไม่ เราชอบสีเขียว เราไม่อยากเห็นมันแดงอีก ก็รีบขายทิ้ง ... มีเรื่องนึงที่มือใหม่นิยมทำ จริงๆมันเป็นเรื่องน่าเศร้า เรียกกันว่า " ตัตดอกไม้ทิ้ง ปลูกวัชพืช " แปลว่า ลงทุนมาสักระยะ ใน port มีหุ้นบางตัวเขียว บางตัวแดง ... ดันขายตัวเขียวทิ้งหมด ตัวแดงถือต่อ OMG เปิด port มา แดงปื้ดดด เพราะ ตัวกำไรขายทิ้งหมดแล้ว น่าเศร้ามากนะครับเรื่องนี้ ใครทำบ่อยๆ ผมทำนายให้เลยว่า คุณจะไม่รวยจากหุ้น ยิ่งลงยิ่งเจ๊ง เพราะ อะไร ... การที่คุณซื้อ และถือหุ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว เจอตัวที่ขึ้น สีเขียว มีกำไร แปลว่า นั้นคือ good stock ที่เราควรจะถือ เพื่อให้มันขึ้นไปเยอะๆ .. กลับกัน หุ้นแดง คือหุ้นที่ไม่ค่อยดี หรือจังหวะนั้นโดนข่าว หรือแรงขาย บางอย่างกดดัน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานอะไรใหญ่ๆ เราอาจพิจารณาขายทิ้งด้วยซ้ำ ... ถ้าทำถูกทาง port คุณจะเขียวสะพรั่ง สวยงาม ตัวแดงตัดทิ้ง มันต้องอย่างงั้น manๆ ใจใหญ่หน่อย
👉🏻โลภ : โลภ อยากได้กำไรจากหุ้นตัวนี้เยอะๆ ถือต่อไม่ยอมขาย ทำกำไรบางส่วน ... อันนี้เป็นเรื่องของรายละเอียดหุ้นละ สาย trader ควรมีเป้าหมายในใจว่า จะขายตรงไหน ตั้งแต่แรกเข้าแล้ว ... ส่วนสายพื้นฐาน จะทราบดีว่า ราคาใดที่ถือว่า แพงเกินมูลค่าของมันไปแล้ว นั่นเป็นราคาที่ควรพิจารณาขาย ... โลภคือ ราคาถึงเป้าแล้วแต่เราไม่ทำอะไร สุดท้ายราคาหุ้นดันร่วงกลับลงมา ตกลงไปอีกเป็นเวลานาน นี่คือเราผิดพลาดเพราะ ไม่ยอมทำตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่แรก แต่ดันโลภ อยากได้เงินมากขึ้นไปอีก .. ตลาดหุ้นก็พร้อมจะลงโทษคนโลภอยู่แล้ว โป๊ะเชะ
1
⭐️ ถ้าคุณจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ คุณจะอยู่ในตลาดหุ้นได้อย่างยาวนาน ... ผมชอบคำของเสี่ยยักษ์ประโยคนึง ท่านบอกว่า " คนเลิกเล่นหุ้นมี 2 คน คือ 1 คนตาย กับ 2 คนหมดตัว " 🤣
ส่วนคนไม่ยอมเลิกคืออะไร ... เพราะอยู่แล้วรวยไง อยู่แล้วกำไร ใครจะอยากเลิก จริงไหม ? ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่มา 6 ปี แล้วกำไร ก็ไม่อยากเลิกหรอกครับ มีแต่จะเติมเงินเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เพราะ เงินมันเติบโตงอกงามดีมาก มันช่วยเราแบ่งเบาการทำเงิน การงานที่เราทำใน real sector ได้
ผมจึงมาแชร์วิธีจัดการอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ในตลาดหุ้นได้อย่างยาวนาน ยิ่งอยู่ได้นาน ไม่เจ๊ง ยิ่งมีโอกาสรวย ... เหมือนต่อยมวยอะครับ มันไม่มีเสมอ มันไม่มีตรงกลาง มีแต่แพ้ กับ ชนะ
ในตลาดหุ้น ไม่มีตรงกลาง ในเมื่อเราไม่แพ้ ( เจ๊ง ) ... แปลว่า " เรารอวันรวย " ถูกไหม ?
อีกประเด็นที่อยากจะพูดถึง บางคนบอกถือหุ้นแล้วนอนไม่หลับ หรือ ไม่กล้าถือหุ้นผ่านวันเสาร์ อาทิตย์ กลัวจะเกิดอะไรไม่ดี โลกาสันวินาจ บลาๆๆ 😓
อันนี้เป็น mindset ของมือใหม่ ...
ผมอยากจะแนะนำแบบนี้ คิดตามผมนะครับ
🤗 บริษัทที่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น คือ บริษัทระดับ top ของประเทศ มีความแข็งแกร่ง มีความโดดเด่น มี connection ยิ่งใหญ่ มีรายได้ กำไร
บริษัทพวกนี้มั่นคงกว่าเงินเดือนของคุณอีก หรือมั่นคงกว่ากิจการที่คุณสร้างมากับมือด้วยซ้ำ และการที่เงินของเราบางส่วนไปอยู่ในหุ้นของบริษัทนั้น มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลย
เพราะ หุ้น คือ ความเป็นเจ้าของ ... ก็บริษัทเหล่านี้ เขายิ่งใหญ่กว่า ทั้งชีวิตของคุณอีก คุณจะกลัวอะไร ?
เป็นอะไร นอนไม่หลับ 🤔
สุดท้าย ภาพปลากรอบ คือ Ferrari รุ่น Laferrari Aperta ก็ไม่มีไร มันคือรถในฝันของผม และผมยังซื้อมันไม่ไหว ผมจึงซื้อบริษัทมันก่อน .. หุ้น $RACE จดตั้งในตลาดหุ้น USA
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อหาเล้ยยยย 🤩 แต่ผมชอบ🚀
😉 สอบถามเพิ่มเติม อยากคุยเรื่องหุ้น เม้นทได้เลยครับ ผมชอบคุยเรื่องหุ้น จัดไป
โฆษณา