28 ก.ย. 2020 เวลา 03:46 • การศึกษา
เรียนอย่างไร ถึงพูดได้เร็ว
พูดถึงการเรียนภาษาอังกฤษในบ้านเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะหาแหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ยากมาก นอกจากการเรียนจากคาบภาษาอังกฤษในโรงเรียนแล้ว มีไม่กี่แหล่งหรอกที่เราจะสามารถค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเราเอง
แหล่งเรัยนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมของผู้เขียนก็คือหอสมุด คำวลีทึ่ใช้ในการสทนาภาษาอังกฤษที่ได้มาจากการไปห้องสมุดตั้งแต่เรียนมัธยมต้น ก็คือ คำว่า I beg your pardon. Beg your pardon. และ Pardon me จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ 30 ปีผ่านไป ผู้เขียนก็ยังคงจำได้ดี จำได้แม่น และยังได้นำมาใช้ในการสนทนากับชาวต่างชาติเป็นประจำ
เวลาทึ่ผู้เขียนฟังไม่เข้าใจหรือฟังไม่ทันเพราะชาวต่างชาติพูดเร็วเกินไป ผู้เขียนก็จะพูดว่า I beg your pardon. หรือ Beg your pardon. หรือ Pardon me. เลือกเอาคำวลีใด คำวลีหนึ่งครับ คำวลีทึ่ติดปากผู้เขียนมากที่สุดก็คือ Pardon me. ลองนำไปใช้ดูนะครับ
เมื่อก่อนกับปัจจุบันมันช่างแตกต่างกันซะเหลือเกิน ในปัจจุบันแหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษติดอยู่ที่ปลายนิ้วเรานี่เอง แค่จิ้มปั๊บ ก็เจอแหล่งเรียนรู้เต็มหน้าจอไปหมด มีสารพัดสื่อ
การเรียนภาษาอังกฤษให้เราได้เลือกเรียนตามใจชอบ จากหน้าจอมือถือ
ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนัง ข่าวภาษาอังกฤษ โฆษณาการสอนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะโฆษณาการสอนภาษาอังกฤษจะมีเยอะมาก เยอะสุด ๆ มีทั้งคนสอนที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติ ถ้าเป็นสถาบันต่างชาติและคนสอนเป็นชาวต่างชาติ ราคาค่าเรียนก็จะสูงหน่อย ส่วนถ้าเป็นสถาบันคนไทยและครูสอนเป็นคนไทย ราคาค่าเรียนก็จะถูกกว่าของต่างชาติ
This is a book.
ผู้เขียนเคยเห็นโฆษณาสอนสนทนาภาษาอังกฤษอยู่เจ้าหนึ่ง มักจะติดโฆษณาไว้ตามเสาไฟฟ้า และใช้คำโฆษณาว่า พูดได้ ภายใน สามเดือน
รู้สึกแปลกใจและสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า เป็นไปเหรอ เรียนสนทนาภาษาอังกฤษสามเดือนพูดได้เลย ผู้เขียนจึงพูดอย่างติดตลกกับเพื่อน ๆ ว่า น่าจะเป็นไปได้มั้ง เพราะอาจจะพูดได้จริง พูดเอง ฟังเอง คนอื่นฟังไม่รู้เรื่อง ช่างมัน 555555
อย่างไรก็แล้วแต่ การเรียนภาษาอังกฤษทั้งหลายทั้งปวงนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนเอง ไม่ว่าผู้เรียนจะจ่ายค่าเรียนแพงหรือถูกแค่ไหน ถ้าผู้เรียนไม่หมั่นฝึกฝน ไม่ฝึกพูด ไม่ฝึกออกเสียง ไม่ฝึกฟัง ไม่ยอมอ้าปากพูดเลย เรียนไปก็ไร้ประโยชน์ พูดไม่ได้เหมือนเดิม
ไม่มีหรอกทางลัด ทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งนั้นครับ
โฆษณา