ความล้มเหลว ของผู้นำปีศาจ
ผู้นำปีศาจแดงในปัจจุบัน ole gunnar solskjaer และ ed woodward
แม้อันดับในตารางของ แมนยูฯ ในฤดูกาลที่แล้วนั้นจะจบด้วยอันดับที่ 3 ก็จริง ตัวเลขในตารางอาจดูสวย เพราะทีมสามารถเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ แต่หากใครได้ดูเกมในหลายๆเกมที่แข่งขัน ก็จะเห็นพ้องป้องกันด้วยว่าสไตล์หรือวิธีการเล่นต่างๆ ของแมนยูฯ นั้นยังคงด้อยกว่าหลายๆทีม ในกลุ่ม Top 6 อยู่อย่างพอสมควร
ด้วยปัญหาใหญ่นี้เหล่าแฟนบอลทั้งไทยและทั่วโลกนั้นต่างเห็นพ้องต้องกันว่า แมนยูฯ จำต้องเสริมทัพผู้เล่นระดับท๊อป เพื่อเพิ่มขนาดทีมและพัฒนาให้ทีมมีโอกาสได้ยึดพื้นที่หัวตารางไว้ เนื่องจากหลายๆทีม (เช่น เอเวอร์ตัน) ได้จัดการคว้าตัวนักเตะระดับท๊อปๆ รวมถึงโค้ชอย่าง “อันเช่” นั่นยิ่งทำให้เป้าหมายสูงสุดของทีมอย่างการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ยิ่งดูยากและเลือนรางขึ้นทุกที
แต่กลับกัน ทั้งตัวผู้จัดการทีมอย่างโซลชา รวมถึงCEOอย่าง(ไอ้)เอ็ด และเจ้าของทีมคือตระกูลเกลเซอร์ กลับไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจใดๆกับการเสริมทัพ ซึ่งต่างจากทีมอย่างเชลซีและแชมป์เก่าอย่างลิเวอร์พูลที่จัดการดึงตัวผู้เล่นเวิร์ลคลาสมาไว้เพื่อเสริมทัพ ทำให้เกิดคำถามมากมายสำหรับในช่วงการซื้อขายครั้งนี้ เราลองมาวิเคราะห์กันดูครับว่าสาเหตุใด แมนยูฯ ถึงมีปัญหาด้านการซื้อขายนักเตะมาโดยตลอดตั้งแต่โอเล่ เข้ามาทำงานกับทีม
ความเด็ดขาดและการตัดสินใจในฐานะผู้นำ
Ole Gunnar Solskjaer ผู้นำคนปัจจุบันของปีศาจแดง Credit : https://www.essentiallysports.com
แรกเริ่มเเดิมทีนั้น โอเล่ นั้นถูกดึงเข้ามาในฐานะกุนซือขัดตาทัพ แต่ด้วยผลงานที่ดีเกินคาดบวกกับการที่เจ้าตัวคือหนึ่งในตำนานนักเตะของปีศาจแดง นั้นจึงทำให้สโมสรได้มอบสัญญาให้กับเจ้าตัวเพื่อเข้ามาคุมทีมอย่างเต็มตัว แต่ทว่าหลังจากที่เจ้าตัวเข้ามาคุมได้สักระยะ ก็เกิดคำถามจากกลุ่มแฟนบอล รวมถึงนักวิเคราะห์ วิจารณ์ทั่วโลกว่า “โอเล่” กึ๋นดีพอหรือเปล่าสำหรับทีม
เนื่องจากหลายๆครั้งที่ทีมเกิดตามหลัง หรือเกมกำลังตึงๆโซลชาร์เองไม่ได้โชว์การแก้เกมในรูปแบบต่างๆให้ได้เห็นเลย แต่มักจะใช้แผนการเล่นเดิมๆซ้ำๆ รวมถึงรีแอคชั่นของโซลชาในฐานะผู้นำซึ่งไม่ได้แสดงออกทั้งเวลาเกมนำหรือเกมตาม กลับกันเจ้าตัวเลือกที่จะนั่งเฉยๆในซุ้มมานั่ง ไม่ได้ออกมาสั่งการหรือทำอะไรข้างสนามอย่างที่หลายๆคนชอบทำกัน และแผนการเล่นบางครั้งก็ไปหวังพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะซะส่วนใหญ่ โดยดูได้จากการเข้ามาของ บรูโน่ เฟอร์นันเดซ ทีมต้องพึ่งบรูโน่ซะเป็นส่วนใหญ่ จึงจะเห็นได้ว่าท้ายๆของฤดูกาลที่แล้วนั้น บรูโน่เองก็ได้แสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้าอยู่มากพอสมควร
ความเด็ดขาดในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแผนการเล่น หรือการสั่งการในสนามเพียงอย่างเดียว มันยังรวมถึงความเด็ดขาดในการซื้อขายตัวผู้เล่นด้วย แน่นอนว่าแมนยูฯ คือหนึ่งทีมที่มีข่าวในการซื้อขายผู้เล่นอยู่บ่อยครั้งในทุกตลาดนักเตะ แต่ทว่าร้อยละ90 ก็มีแต่เพียงข่าวลือให้สื่อและแฟนบอลได้ไปตามและลุ้นเอาเองเสียมากกว่า
ซึ่ง ณ จุดนี้เองโอเล่ควรจะต้องมีแผนการเล่นหรือรูปแบบการเล่นในใจอยู่ รวมถึงรู้ซึ้งถึงจุดอ่อนของทีมก่อนการที่จะเสริมทัพนักเตะในจุดต่างๆ แต่ทว่า เจ้าตัวเลือกที่จะเฉยกับการซื้อขาย แม้จะสัมภาษณ์บอกให้รอดูว่ามีเซอร์ไพรซ์ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้มีวี่แววใดๆเพิ่มเติม ซึ่งตรงนี้เองที่โอเล่ควรเข้าไปคุยกับ เอ็ด วูดเวิด เพื่อชัดเจนในแนวทางการทำทีมว่า เค้าต้องการใครเพื่อเข้ามายกระดับและช่วยทีมให้ดียิ่งขึ้น
Director Of Football สิ่งสำคัญที่แมนยูฯควรมี
Edvin Van Der sar Director Of Football คนปัจจุบันของ Ajax Amsterdam Credit:https://www.dailymail.co.uk/
เนื่องด้วยความจริงแล้วนั้นภาระหน้าที่งานของผู้จัดการทีมนั้นค่อนข้างจะเยอะพอสมควรอยู่แล้ว
หลายๆสโมสรจึงอยากให้ตัวผู้จัดการทีมนั้นโฟกัสไปที่เรื่องในสนามมากที่สุด ทำให้ ณ ปัจบันทีมชั้นนำหลายๆทีม มีคนที่จะมาทำงานช่วยผู้จัดการทีมซึ่งเป็นเหมือน “ตัวกลาง” ระหว่างผู้จัดการทีมเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระต่างๆ
โดยในตำแหน่งนี้ จริงๆแล้วอาจมีความคล้ายลึงกันกับ Technical Director หรือ Sporting Director ทั้งนี้ก็อยู่ที่ทีมหรือสโมสรต่างๆ จะเรียกกัน โดยสิ่งที่คนในตำแหน่งนี้ทำนั้นหลักๆคงหนีไม่พ้นการเจรจาซื้อขายตัวผู้เล่น ประสานงานระหว่างผู้จัดการทีมและประธานสโมสร รวมถึงอาจควบคุมหรือช่วยจัดการในการเป็นแมวมองได้อีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ช่วงที่บ้านมาแมนยูฯ มีข่าวกับนักเตะอย่าง จาดอน ซานโช่ ผู้จัดการทีมนอกจากจะต้องมาคอยตามเรื่องราวต่างๆเอง พร้อมพูดคุยกับสโมสร ไหนจะต้องนำทีมซ้อมเพื่อลงแข่งอีก แต่การมี DOF นั้น ก็จะมาช่วยในส่วนนี้ เพียงผู้จัดการทีมบอกว่าต้องการ ก็อาจจะให้ทาง DOF ดำเนินการ พร้อมรายงานจบจบ หรือจนกว่าจะได้ตัวมา
แน่นอนว่าในปัจจุบัน สโมสรชั้นนำหลายๆสโมสรได้มีตำแหน่งนี้เพื่อคอยช่วยเหลือผู้จัดการทีม เช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ , ลิเวอร์พูล , ปารีส แซงต์ แชร์กแมง , อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เป็นต้น
ซึ่ง ณ จุดจุดนี้ น่าคิดที่ว่า แมนยูฯ จะสามารถคิดและปรับตัวได้หรือไม่ ถือว่าเป็นคำถามตัวใหญ่ๆ ให้แก่ เอ็ด วูดเวิด และ โซลชาร์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
