[ลงทุนกับบัง] Egon von Greyerz : ปี 2021 จะเป็นปีที่ดอลล่าร์ล่มสลาย เเละสกุลเงินใหม่ของโลกจะถือกำเนิดขึ้น? วันนี้ชายผู้กลายเป็นตำนานจากการคาดการณ์เรื่องการทำ QE และการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินและโลหะมีคำเตือนว่าในไ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

29 ก.ย. 2020 เวลา 13:17 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Egon von Greyerz :

ปี 2021 จะเป็นปีที่ดอลล่าร์ล่มสลาย เเละสกุลเงินใหม่ของโลกจะถือกำเนิดขึ้น?

วันนี้ชายผู้กลายเป็นตำนานจากการคาดการณ์เรื่องการทำ QE และการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินและโลหะมีคำเตือนว่าในไม่ช้าเราจะเห็นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

พังทลายลงและสกุลเงินใหม่ของโลกจะกำเนิดขึ้น

Egon von Greyerz :

ทางจีนนั้นเข้าใจเกมระยะยาวนี้ดีและพวกเขามีความอดทนไม่สิ้นสุด พวกเขารู้มาตลอดว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องโจมตีสหรัฐฯเลย ทั้งทางการเงินหรือทางทหารเพราะจีนรู้เเละเข้าใจมาตลอดว่าสหรัฐจะทำลายตัวเอง..

AUGUST 15 1971: NIXON CLOSES THE GOLD WINDOW AND DESTROYS THE CURRENCY SYSTEM

หลังจากที่ประธานาธิบดี Richard Nixon ได้ยกเลิกมาตรฐานทองคำออกไป นั่นคือการทำลายสกุลเงินดอลล่าร์ด้วยตัวของเขาเอง

มันไม่สำคัญว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง

เมื่อพูดถึงปัญหาการหยุดความล้มเหลวของเศรษฐกิจและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลล่าร์

แต่สิ่งที่สามารถการันตีได้คือนโยบายของ Biden นั้นจะทำให้อเมริกาล้มละลายเร็วกว่านโยบายของ Trump มาก พรรคเดโมแครตจะไม่สนใจหนี้ระดับหลายล้านล้าน พวกเขาจะเพิ่มการใช้จ่ายและลดภาษีให้มวลชน

ชาวจีนรอคอยช่วงเวลานี้อย่างอดทน พวกเขาคาดการณ์การล่มสลายของ

“ระบบการเงินทุนนิยมโดยมีดอลลาร์เป็นเสาหลัก” เมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้ว มันทำให้พวกเราเห็นว่าพวกเขามองการณ์ไกลได้อย่างเเม่นยำ

THE DAYS OF THE DOLLAR ARE COUNTED

มูลค่าของดอลล่าร์ลดลง 98% เมื่อเทียบกับทองคำ

ลดลง 78% เมื่อเทียบกับ Swiss franc

เรื่องนี้บอกอะไรกับพวกเรา ?

ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

เราจะเห็นนกอินทรีหัวล้านของสหรัฐฯตกลงสู่พื้นและนกฟีนิกซ์ในรูปแบบของสกุลเงินใหม่ของโลกปรากฏขึ้นเหมือนดั่งในบทความของ The Economist ในปี 1988

**เรื่องนี้ได้ถูกเอ่ยขึ้นมานานตั้งเเต่ปี 1988

การล่มสลายของดอลล่าร์มันเป็นเรื่องที่ยังไงก็ต้องเกิด

เเละการที่ Biden ชนะการเลือกตั้ง มันคือการเร่งกระบวนการนี้เท่านั้น

แต่ไม่น่าจะมีสกุลเงินใหม่ของโลกในระยะเวลาอันใกล้นี้ เมื่อค่าเงินดอลลาร์ตกลง

และเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถูกดึงลงไปด้วย

จีนจะค่อยๆมีอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเหนือกว่าสหรัฐและกลายเป็นมหาอำนาจใหม่

เเต่เรื่องนี้จำเป็นต้องใช้เวลา

ในระหว่างนั้นจะเกิดความวุ่นวายขึ้น

ระบบการเงินโลกจะมีปัญหา การล่มสลายทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ ความวุ่นวายทางการเมือง การจลาจลและสงคราม (คุ้นๆใช่มั้ยครับ)

BIDEN – A CATALYST FOR ACCELERATED US DECLINE

cnn

อย่างที่เราทราบกันนโยบายของ Biden จะเป็นการเร่งที่ทำให้อเมริกาล่มละลาย

เเต่ในช่วงเวลานี้การเเพร่ระบาดของ coronavirus

ได้เข้ามาเร่งปัจจัยนี้ให้เร็วขึ้นไปอีก

ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ผลกระทบจะเกิดขึ้นต่อสหรัฐเเละต่อโลก ถึงเเม้ว่าเราจะรู้ผลเเพ้ชนะหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น เเต่เราจะยังคงได้เห็นการ

ต่อสู้กันของผู้คนที่ต่างความคิดกัน ทั้งในศาล สื่อ media ท้องถนน หรือเเม้กระทั่งในครอบครัวกันเอง เเละเเน่นอนเรื่องการเมือง..

CHURCHILL – WE SHALL FIGHT ON THE BEACHES

azquotes

การต่อสู้ในทุกพื้นที่ ทุกหนทุกแห่งทำให้ผมนึกถึงสุนทรพจน์ของ Winston Churchill ในรัฐสภา เดือนมิถุนายน 1940

“we shall fight on the beaches, we shall fight on the landing grounds, we shall fight in the fields and in the streets, we shall fight in the hills”

เห็นได้ชัดว่าสุนทรพจน์ของเชอร์ชิลล์เป็นการรวมชาติและเตรียมประเทศให้พร้อม

สำหรับการทำสงครามครั้งใหญ่ในอนาคต แต่กลับกันผลลัพธ์ของผู้นำสหรัฐในตอนนี้จะส่งผลที่เเตกต่างกัน

ผลที่ตามมาของการเลือกตั้งสหรัฐจะสร้างความแตกแยกและสร้างความเสียหาย

อย่างมากสำหรับสหรัฐ ไม่ว่าใครคือผู้ชนะก็ตาม

ดังนั้นในปี 2021 นี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการตกต่ำหรือการล่มสลายของ

เศรษฐกิจที่รุนแรงและยาวนานสำหรับสหรัฐฯ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานของ

ความแตกแยกทางการเมือง สังคมและความไม่พอใจ..

latimes

ผมเพิ่งเข้าสู่ปีที่ 52 ของชีวิตการทำงาน แต่ผมจำชีวิตก่อนหน้านั้นได้อย่างชัดเจน ในฐานะเด็กหนุ่มในสวีเดนในปี 1950 นี่เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัว เเละสังคมมีการ

เคารพกฎหมายและระเบียบอย่างเคร่งครัด คุณเเม่อยู่ที่บ้านและดูแลเด็กๆ

vintageeveryday.wordpress.com

ค่าจ้างจากการทำงานของพ่อเพียงพอที่จะหาเลี้ยงครอบครัว มีคนจำนวนน้อยมากที่มีหนี้และเเน่นอนว่าในตอนนั้นไม่มีบัตรเครดิต สิ่งต่างๆส่วนใหญ่จ่ายเป็นเงินสด ตำรวจไม่มีอาวุธและมีความเคารพต่ออำนาจของตนอย่างเต็มที่

มีอาชญากรรมน้อยมากและแทบไม่มีอาชญากรรมที่รุนแรงเลย ผมจำได้ว่าไปเยี่ยมชมคริสตจักรในชนบทเเละเห็นประตูเปิดอยู่และเงินของโบสถ์จะวางอยู่บนชั้นวางโดยไร้ซึ้งการป้องกันโดยสิ้นเชิง

เด็กเล็กสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระโดยผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องกังวลอันตรายอะไร

น้อยคนนักที่จะไปเที่ยวต่างประเทศหรือมีรถยนต์หรือโทรทัศน์ เศรษฐกิจแข็งแกร่งโดยอาศัย real money เเละมีหนี้เพียงเล็กน้อย คุณภาพชีวิตดีกว่าวันนี้มาก ผมไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เป็นวัตถุ เเต่พูดถึงความรู้สึก

ผู้คนมีความสุขมากขึ้น มีความเครียดน้อยลงและเคารพรักเพื่อนมนุษย์

THE END OF AN ERA

ผมรู้ดีว่าทั้งหมดนี้อาจฟังดูเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังหวนระลึกถึงอดีต อาจมีความจริง

บางอย่างในคำวิจารณ์เหล่านั้น แต่ผมค่อนข้างเชื่อว่ายุคที่เราอยู่ในขณะนี้เป็นจุดสิ้นสุดของวงจรเมื่อพูดถึงคุณภาพชีวิต ค่านิยม อาชญากรรม ความซื่อสัตย์

เศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นด้วยหนี้ เเละหนี้ถูกสร้างมาจากเงินปลอม

นี่คือสาเหตุที่วงจรปัจจุบันต้องสิ้นสุดลงในไม่ช้า

โลกต้องการไฟป่าที่เหมาะสมซึ่งทำลายหนี้และทรัพย์สินฟองสบู่ทั้งหมดที่ได้รับการสนับสนุนจากเงินปลอมๆและหนี้ที่ไร้ค่า การล่มสลายของการแก้ไขหนี้ทั่วโลกที่กำลังจะมาถึงจะเป็นการบรรเทาทุกข์สำหรับโลก แต่เห็นได้ชัดว่ากระบวนการนี้จะกินเวลา แต่หลังจากฤดูใบไม้ร่วงนี้โลกจะสามารถเริ่มวงจรใหม่บนพื้นฐานของระบบการเงินที่มั่นคงซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของเงินตราที่แท้จริง(sound money)

ทั้งทางศีลธรรมและทางวัตถุ

กลับมาสู่การทำงานของผมในครึ่งศตวรรษหลัง

มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลก ตารางด้านล่างแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

หนี้ GDPและหุ้น ในช่วง51 ปีที่ผ่านมาผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดการเงินมาโดยตลอด(ระหว่างปี 1969 ถึง 2020) หนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐเพิ่มขึ้น 75 เท่า เเต่กลับกัน GDP เพิ่มขึ้นเพียง 20 เท่า ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังดำเนินไปอย่างว่างเปล่า ไม่มีการเติบโตเเต่จำเป็นต้องมีหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อให้ GDP เพิ่มขึ้นในแง่ที่กำหนดไว้

DEBT DEFAULT COMING

US debt to GDP เพิ่มขึ้นถึง 135% เทียบกับ 35%

ในปี 1969เเละกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระดับหนี้เหล่านี้ไม่ยั่งยืนสำหรับการเติบโตในอนาคต รายได้จากภาษีที่ลดลงและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมันจึงไม่มีโอกาสที่หนี้จะ

ลดลง และเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นสหรัฐฯจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ดังนั้นการผิดนัดชำระหนี้จึงมีแนวโน้มมากในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ในขณะที่ GDP ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 20 เท่าตั้งแต่ปี 1969 แต่ GDP ของจีนเพิ่มขึ้นถึง 175 เท่า มันจึงไม่เเปลกที่ข้อสงสัยที่ว่าจีนจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกต่อไปค่อยๆน้อยลง

ต้องการปฏิวัติในจีนเท่านั้นที่จะหยุดสิ่งความยิ่งใหญ่

นี้ได้..

ทองคำมูลค่าเพิ่มขึ้น 54 เท่าตั้งแต่ปี 1969 และดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้น 53 เท่า

เหตุการณ์เหล่านี้คือหลักฐานที่ชัดเจนว่าจีนเป็นฝ่ายถูกเพียงใด

“…..the seriousness of the US economic crisis and the decay and decline of the entire capitalist system.”

ความร้ายแรงของวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความเสื่อมโทรม รวมถึงการเสื่อมลง

ของระบบทุนนิยมทั้งหมด

“…..mark the collapse of capitalist monetary system with the US dollar as its prop…. Nixon’s new economic policy cannot extricate the US from financial and economic crisis.”

แสดงถึงการล่มสลายของระบบการเงินทุนนิยมโดยมีเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเสาหลัก นโยบายเศรษฐกิจใหม่ของ Nixon ไม่สามารถทำให้สหรัฐฯหลุดพ้นจากวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจได้

ดังนั้นจึงมีชาวจีนที่ฉลาดหลักแหลมที่มองเห็นเรื่องนี้ล่วงหน้ามามากกว่าครึ่ง

ศตวรรษ พวกเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเงินดอลลาร์ของสหรัฐและระบบทุนนิยม

และพวกเขาก็รู้ว่าจีนจะเป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก

แต่การทำลายสกุลเงินและการล่มสลายของประเทศไม่ใช่เรื่องใหม่ในหน้า

ประวัติศาสตร์อะไร

Von Mises กล่าวถึงปรากฏการณ์นี้เมื่อนานมาเเล้ว

"เราไม่มีทางหลีกเลี่ยงการพังทลายของการรุ่งเรืองอันเกิดจากการขยายตัวของเครดิตได้ ทางเลือกมีอยู่สองทางคือ วิกฤติจะมาเร็วขึ้นผ่านการเลิกให้เครดิต

ขยายตัว หรือประคองให้วิกฤติเกิดขึ้นทีหลัง

และจะทำให้ระบบการเงินพังทลายลงไปด้วย"

เพราะความรู้คือของขวัญที่ดีที่สุด📚

ติดตามบังผ่านทาง Fcaebook Fanpage