29 ก.ย. 2020 เวลา 13:17 • หุ้น & เศรษฐกิจ
3 วิธี #หาหุ้น สำหรับมือใหม่ [ยู ศิระ]
หุ้นไทยในตลาด มีอยู่เกือบ 800 ตัว สำหรับมือใหม่คงงง แล้วบ่นว่า “ฉันจะเริ่มหาหุ้นจากตรงไหนดีล่ะ?”
วันนี้ผมมี 3 วิธีหาหุ้น ให้คุณไม่ลอยเคว้งอยู่ในห้วงอวกาศ นั่นก็คือ..
1) หาจาก #สิ่งรอบตัว
2) หาจาก #เซียนหุ้น ที่ตรงจริต
3) หาจาก #เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์
www.facebook.com/HappyWithYuSira
1) หาจาก #สิ่งรอบตัว
วิธีนี้ คุณจะได้สัมผัสกับสินค้าหรือบริการ ของหุ้นตัวนั้นจริงๆ ทำให้รู้ว่า มันมีข้อดีข้อเสียอะไร ในมุมมองของผู้บริโภค
วิธีการก็คือ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน เห็นสินค้าหรือบริการอะไร ให้สังเกตข้อดีข้อเสียของมัน
เหมือนคุณเป็นเจ้าของอยู่ แล้วกำลังวิเคราะห์ธุรกิจตัวเอง ว่าอะไรคือจุดแข็ง และจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง
 
เช่น คุณเดินเข้าไปใน 7-11 แถวบ้าน คุณก็สังเกตได้แบบนี้..
- ตัวร้าน:
ความสะดวกในการเข้าถึง, ความสะอาด, ความน่าเข้าไปเดิน, ความเย็นของแอร์, ความสะดวกในการหาของ, ความน่าสนใจของสินค้า, ความหลากหลายของสินค้า, ลูกค้าเข้ามาเดินเยอะมั้ย? ความง่ายในการจ่ายตัง ฯลฯ
- พนักงาน:
.......บริการดีมั้ย?
.......ยิ้มแย้มหรือหน้าเป็นตูด?
.......แนะนำสิ่งดีๆ ให้คุณรึเปล่า?
........บริการช้าไปมั้ย?
.........มีพนักงานพอรึเปล่า? ฯลฯ
นอกจากนั้น..
พนักงาน คือ #คนใน ที่รู้ข้อมูลมากกว่าคุณ
เช่น ยอดขายรวม, ยอดขายสินค้าแต่ละอย่าง,
ค่าจ้างพนักงาน, ค่าเช่าร้าน ฯลฯ
ถ้าคุณตั้งคำถามเป็น จะล้วงความลับจากเค้ามาได้เยอะมาก..
- ลูกค้า:
คนอื่นชอบซื้ออะไรกัน? ลองแอบฟังเค้าคุยกันดู
เผื่อจะได้ข้อมูลดีๆ หรือถ้าคนไหนเฟรนลี่ ลองชวนเค้าคุยดูก็ได้
- สินค้า:
คุณรู้มั้ยว่า แค่ใน 7-11 อย่างเดียว ก็มีสินค้าที่เป็นของหุ้นในตลาด เพียบ!!
ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป,
เบเกอรี่, เครื่องดื่ม, แหนม!, น้ำมันพืช, ซอสปรุงรส, ครีมทาหน้า ฯลฯ
ถ้าคุณได้ลองสินค้าหรือบริการตัวไหนแล้วชอบ
ก็กูเกิ้ล ชื่อสินค้าหรือบริการ+คำว่า “หุ้น” ดู
ถ้ามันมีอยู่ในตลาดหุ้น กูเกิ้ลมันก็จะขึ้น #ชื่อย่อหุ้น
มาให้คุณเห็นแล้วล่ะ..
1
คำแนะนำเพิ่มเติม คือ คุณควร #เปรียบเทียบ สินค้าหรือบริการที่สนใจ กับ #คู่แข่งของมัน ด้วย ว่าถ้าคุณเป็นลูกค้า คุณจะซื้อของใคร ระหว่างของมัน หรือของคู่แข่ง
เช่น คุณสนใจขนมปัง ฟาร์มเฮ้าส์ (หุ้น PB)
ก็ลองเปรียบเทียบกับ เลอแปง ของ 7-11 ดูซิ
ว่าชอบรสชาติยี่ห้อไหนมากกว่ากัน
และการจัดเรียงสินค้าใน 7-11..
ฟาร์มเฮ้าส์ เสียเปรียบ เลอแปง มากมั้ย? เป็นต้น
2) หาจาก #เซียนหุ้น ที่ตรงจริต
หากคุณมีเซียนหุ้นไทย ในดวงใจอยู่แล้ว
ก็ลองกูเกิ้ลดู ว่าเค้าถือหุ้นไรอยู่บ้าง
พอได้รายชื่อหุ้นที่เค้าถืออยู่แล้ว
ค่อยเอาชื่อหุ้นพวกนั้น มาทำการบ้านต่อ
ส่วนตัวผม เซียนหุ้นที่ตรงจริต เช่น
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร, คุณนิติ โอสถานุเคราะห์ เป็นต้น
3) หาจาก #เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์
วิธีนี้ ผมแนะนำให้คุณเริ่มจากหุ้นใน SET50 ก่อน จะได้ไม่งง
เพราะถ้าเริ่มจากหุ้นทั้งหมดเกือบ 800 ตัวในตลาด
คุณอาจไปไม่เป็น
มันจะมีทั้งหุ้นดี หุ้นแย่ หุ้นกำไร หุ้นใกล้เจ๊ง ปะปนกันมั่วไปหมด แล้วสำหรับมือใหม่อย่างคุณ ก็มีโอกาสสูงมาก ที่จะเลือกหุ้นผิด
หุ้นจาก SET50 คือ หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ 50 ตัว จากหลายประเภทธุรกิจ ที่ผ่านการคัดคุณภาพมาดีในระดับนึงแล้ว
วิธีการคือ:
1) ให้คุณเข้าไปในเว็บไซต์ settrade.com
2) จากนั้น กดตรงคำว่า “SET50”
3) พอเข้าไปแล้ว เอาเม้าส์เลื่อนลงมา คุณจะเห็น ชื่อย่อหุ้นเรียงกันลงมา 50 ตัว
4) จากนั้น คุณก็ไล่กดดู ที่ชื่อย่อของหุ้นแต่ละตัวได้เลย
5) พอกดตรงชื่อหุ้นเข้าไปแล้ว ก็จะมีข้อมูลของหุ้นตัวนั้นมากมาย ให้คุณศึกษา
เช่น ราคาหุ้น, ราคาย้อนหลัง, ข้อมูลของหุ้นตัวนั้น, กรรมการบริษัท, ผู้ถือหุ้นรายใหญ่, งบการเงิน, ประวัติการจ่ายเงินปันผล, อันดับในอุตสาหกรรม, ข่าวบริษัท, Factsheet ฯลฯ
งงใช่มั้ยล่ะ? ข้อมูลเยอะแยะ จะเริ่มจากตรงไหน..
ผมแนะนำให้คุณดูที่ #Factsheet อย่างเดียวก่อน เพราะมันสรุปข้อมูลทุกอย่างของหุ้นตัวนั้น ให้คุณแบบย่อ จบในหน้าเดียว ดูง่ายมาก
คุณจะได้รู้คร่าวๆ ว่า หุ้นตัวนั้นมันทำธุรกิจอะไรบ้าง
(ดูตรง #ลักษณะธุรกิจ ซีกซ้าย เลื่อนลงมานิดนึง)
ส่วนตัว ผมใช้ทั้ง 3 วิธีในการหาหุ้นที่สนใจ
หากคุณชอบวิธีไหน ก็เอาไปปรับใช้กันได้ตามสะดวกเลยครับ
แต่อย่าลืมว่า พอได้หุ้นที่สนใจมาแล้ว อย่าเพิ่งซื้อนะ! ต้องทำการบ้านต่อนะครับ
นี่เป็นแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น พอได้รายชื่อหุ้นที่สนใจแล้ว คุณต้องเอาพวกมันมาวิเคราะห์ ให้มั่นใจว่า
หุ้นที่คุณสนใจพวกนี้ มันดีจริง ถึงค่อยซื้อ..
ปล. ส่วนเทคนิคการวิเคราะห์หุ้น ผมจะค่อยๆ แชร์ในบทความต่อๆ ไปนะครับ เพราะรายละเอียดมันเยอะ ทั้งวิเคราะห์ ความสามารถในการแข่งขัน,
คุณภาพธุรกิจ, งบการเงิน, ราคาที่ควรเข้าซื้อ ฯลฯ
 
*** หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ช่วย #แชร์ มันให้เพื่อนๆ ด้วยครับ ***
ติดตามเพจ:
โฆษณา