30 ก.ย. 2020 เวลา 03:24 • ข่าว
#ศาลจีนตัดสินประหารชีวิต
#ครูจีนวางยาพิษเด็กอนุบาล25คน
เครดิตภาพ Bignewsnetwork.com
ช่วงนี้บ้านเรากำลังมีข่าวครูผู้ช่วย โรงเรียนเอกชนเครือดัง ทำร้ายเด็กอนุบาลในห้อง จนผู้ปกครองรับไม่ได้ ต้องรวมตัวกันแจ้งความ และเรียกร้องความรับผิดชอบจากโรงเรียน
มาวันนี้มีข่าวว่า ที่จีนมีคำพิพากษาคดีดังสะเทือนขวัญผู้ปกครองอีก 1 คดี นั่นก็คือ คดีครูอนุบาลสาววางยาพิษในโจ๊กเด็ก เป็นเหตุให้มีเด็กเคราะห์ร้ายถึง 25 คน และเสียชีวิต 1 คน
เครดิตภาพ Chinadaily
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนอนุบาลเหมิงเหมิง ในเมืองเจียวจั้ว มณฑลเหอหนาน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา มีครูสาวหนึ่ง ชื่อ หวัง หยุน มีปัญหาทะเลาะวิวาทกับครูคนอื่นในโรงเรียน เรื่องที่ว่าใครดูแลเด็กในห้องได้ดีกว่ากัน
1
เขม่นกันแรงมาก ถึงขนาดที่ครูหวังตัดสินใจสั่งซื้อสารไนไตรท์จำนวนหนึ่งจากทางออนไลน์ แล้วแอบเอามาใส่ในหม้อโจ๊กรวมสำหรับเด็กนักเรียนของห้องครูคู่อริ
เครดิตภาพ CNN
หลังจากที่เด็กนักเรียนกินโจ๊กหม้อรวมเข้าไป ก็อาเจียนจนเป็นลมกันแทบยกห้องกว่า 25 คน จนโรงเรียนต้องรีบโทรแจ้งผู้ปกครอง
ผู้ปกครองบางคนที่เข้าไปเห็นเหตุการณ์ต่างก็ตกใจ เพราะเด็กอาเจียนหนักมาก จนราดรดเสื้อผ้า นองพื้น เด็กหลายคนหมดสติ และหลายคนอาการหนักหน้าซีดจนไม่มีสีเลือด
เครดิตภาพ Shanghai Daily
สารไนไตรท์ เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตปุ๋ย หรือวัตถุระเบิด หากบริโภคเข้าไปจนเกินขนาด ก็จะเป็นพิษร้ายเนื่องจากสารตัวนี้จะเข้าไปกีดกั้นการดูดซึมอ็อกซิเจนเข้าสู่เซลล์ร่างกาย และทำให้เสียชีวิตได้
เครดิตภาพ Global Time
นับเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก เพราะนอกจากครูหวัง จะเป็นคนก่อคดีวางยาในโรงเรียนแล้ว เธอยังเคยผสมสารไนไตรท์ชนิดเดียวกันให้สามี เมื่อหลายปีก่อน หลังจากที่ทะเลาะกันหนักเพราะปัญหาในครอบครัว
เมื่อศาลจีนพิจารณาหลักฐานแล้ว ก็ตัดสินใจไม่เอาไว้ ลงโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตในข้อหาวางยาฆ่าคน
เครดิตภาพ China Daily
ผลจากคดีนี้ ทำให้ผู้ปกครองในจีนถกประเด็นกันอย่างกว้างขวางไม่แพ้บ้านเราทีเดียว เพราะที่จีนก็มีปัญหาครูทำร้ายเด็กในโรงเรียนเยอะมาก อาจจะเยอะกว่าบ้านเราด้วยซ้ำ
เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้ปกครองร้องเรียน จนถึงขั้นดำเนินคดีหลายแห่ง ที่พบว่าลูกของตนถูกทารุณกรรมในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการทุบตีทำโทษหรือใช้เข็มแทงตามร่างกาย และคิดว่าน่าจะมีการตรวจสอบ และลงโทษครูที่ทำผิดมากกว่านี้
เครดิตภาพ The Hindu
ฟังแล้วก็สยองแทนคนเป็นพ่อ เป็นแม่ เลยนะคะ มาเจอเรื่องแบบนี้ ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของการพัฒนาทางสมอง และบุคลิกภาพ ที่หากไม่ช่วยกันเข้มงวด ตรวจสอบ ก่อนจะถึงชั้นประถมก็อาจจะสายเสียแล้วนะคะ
แหล่งข้อมูล
โฆษณา