30 ก.ย. 2020 เวลา 07:16 • ข่าว
จีนกำลังวางแผนที่จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน AI และ Big Data เพื่อช่วยตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้พิพากษา
source : Wikimedia Commons
ประเด็นเรื่องการใช้ AI ในการทำงานเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันอย่างมากในปัจจุบัน ในจีนก็มีการพูดคุยอย่างดุเดือดเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าและเทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ ในเชิงรุก อย่างการเฝ้าระวังสาธารณะภัย หรือการรักษาเสถียรภาพทางสังคม โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเฝ้าระวังชาวมุสลิมอุยกูร์ในภูมิภาคซินเจียง
หลังมีการประกาศแคมเปญกวาดล้างการทุจริต ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จึงมีแผนจะใช้สมาร์ตเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลฝ่ายบังคับใช้กฎหมายและฝ่ายตุลาการ
กัว เซิงคุน เลขาธิการคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายกลาง กล่าวว่าการตรวจสอบถ่วงดุลที่ไม่เพียงพอ การบังคับใช้กฎหมายที่หละหลวม ความอยุติธรรม และการคอร์รัปชั่นถือเป็น “ข้อบกพร่องอันร้ายแรงที่สุด” ของระบบรักษาความปลอดภัย
คณะกรรมาธิการที่กำกับดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ศาล และเรือนจำ กล่าวว่าจะทำการพัฒนาระบบอัตโนมัติโดยใช้ Big Data เพื่อระบุการละเมิดขั้นตอนในการสืบสวน การสอบสวน และงานบังคับใช้กฎหมาย โดยประมวลผลจากบันทึกคดีจำนวนมากที่เกิดขึ้นในทุกวันทั่วประเทศ
ระบบเตือนภัยล่วงหน้าแบบอัจฉริยะ จะใช้ส่วนการเรียนรู้ของเครื่อง ซึ่งถูกใช้งานเสมือนเป็นสมองของ AI ร่วมกับการการวิเคราะห์โดยคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบความเบี่ยงเบนหรือความผิดปกติใด ๆ ในคำพิพากษา รวมไปถึงประโยคคำตัดสินจากผู้พิพากษา
คณะกรรมาธิการยังกล่าวอีกว่าจะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อระบุรูปแบบและวิธีการจัดการต่อบางกรณีของผู้บังคับใช้กฎหมายไปจนถึงเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม รวมถึงทนายความในกรณีเหล่านั้น เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวังการถ่ายโอนผลประโยชน์ผิดกฎหมาย
อีกทั้งแทนที่จะอยู่ภายใต้การตรวจตราของประชาชน ศาลและสำนักงานอัยการของประเทศจะถูกวางไว้ภายใต้ระบบการกำกับดูแลแบบดิจิทัลแบบ “เรียลไทม์” อย่างครอบคลุม ซึ่งจะบังคับใช้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน
คณะกรรมาธิการไม่ได้กล่าวไว้ในแถลงการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวระบบใหม่เมื่อใด แต่เสริมว่านอกจากนั้นยังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ของศาล
นอกจากการเฝ้าระวังด้วยเทคโนโลยีระดับสูงแล้ว คณะกรรมาธิการยังกล่าวอีกว่าจะปรับปรุงการตรวจสอบระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และองค์กรตุลาการ ในกระบวนการกำกับดูแลภายใน รวมทั้งการกำกับดูแลสาธารณะ แต่เน้นย้ำว่าการกำกับดูแลที่สำคัญที่สุดจะมาจากทางพรรคคอมมิวนิสต์
มีกรณีที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทุจริตในศาลช่วงปลายปี 2018 ศาลประชาชนสูงสุดได้ตกเป็นศูนย์กลางของเรื่องอื้อฉาวระดับชาติ เมื่อหนึ่งในผู้พิพากษา Wang Linqing อ้างว่าเอกสารทางกฎหมายในคดีสิทธิการทำเหมืองที่เป็นกรณีพิพาทมาอย่างยาวนานได้หายไปจากที่ทำงาน
ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงโดยมีคนตั้งคำถามว่ามีการแทรกแซงในคดีนี้หรือไม่ หลายเดือนต่อมา Wang สารภาพผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่าเขาเองคือผู้อยู่เบื้องหลังการหายไปของเอกสาร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา