รีวิวหนัง Greenland
หนังแนวภัยพิบัติเป็นหนึ่งในแนวหนังที่ผู้ชมชาวไทยให้การต้อนรับอย่างดีเสมอมา กับเนื้อเรื่องที่เล่าง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน เน้นขายฉากความวินาศสันตะโร กับสถานการณ์ที่ทำให้เราได้ลุ้นได้ตื่นเต้นไปตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งจะว่าไปเราก็ไม่ได้ดูหนังแนวนี้มาสักระยะ นั่นทำให้ Greenland นาทีระทึก..วันสิ้นโลก มีแต้มต่อในใจที่กระตุ้นให้เราอยากดูหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ
หนังเริ่มต้นเมื่อโลกต้องต้อนรับการมาของดาวหางคลาร์ก ที่ทางดาราศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์แหล่งที่มาที่ไปของมันได้ แต่ก็ประเมินว่าดาวหางนี้ไม่น่าจะทำอันตรายร้ายแรงให้กับโลกมากนัแ แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เศษดาวหางเริ่มพุ่งชนโลกหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ เวลาของโลกเหลือน้อยลงทุกที เมื่อลูกที่ใหญ่ที่สุดกำลังจะพุ่งเข้าชนในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ทำให้รัฐบาลเริ่มปฏิบัติการปกป้องมนุษยชาติ ด้วยการคัดเลือกผู้เหมาะสมที่จะอยู่รอดเพื่อพาไปยังหลุมหลบภัย ซึ่งครอบครัวของจอห์น แกริตี้ (เจอร์ราด บัตเลอร์) ได้รับเลือก แต่หนทางไปสู่การรอดชีวิตนั้นไม่ง่าย เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับความโกลาหล ความสับสน และความเห็นแก่ตัวของคน ที่ทุกชีวิตต้องการอยู่รอด..
แม้หน้าหนังของ Greenland นาทีระทึก..วันสิ้นโลก จะทำให้นึกถึงหนังแนวโลกาวินาศ (Apocalyptic) เหมือนหนังเรื่องอื่น ๆ แต่เนื้อแท้แล้วนี่คือหนังแนวเอาชีวิตรอด (Survivor) เสียมากกว่า เพราะหนังเน้นไปที่ชีวิตของ จอห์น แกริตี้ ที่แม้ชีวิตการงานจะดี แต่ชีวิตครอบครัวกลับอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เมื่อมีเรื่องหมางใจกับภรรยา ในขณะที่ลูกก็มีโรคประจำตัว แต่ก็ทุ่มเทหาทางปกป้องครบอครัวให้รอดพ้นจากภัยพิบัตินี้
หนังถ่ายทอดมุมมองของคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ต้องการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดและปกป้องครอบครัวจากหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น ความสนุกของเรื่องจึงไม่ได้อยู่ที่ฉากวินาศอลังการ แต่มันอยู่ที่คนสู้กับคนนี่แหละ ที่หนังก็นำพาเหตุการณ์ชุลมุนสารพัด ที่บีบคั้น และตั้งคำถามกับคนดู ว่าถ้าเราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ตรงนั้นเราจะเอาตัวรอดอย่างไร เราจะยอมละทิ้งความเป็นมนุษย์ ลืมเลือนศีลธรรม เพื่อเอาชีวิตรอดหรือไม่
ด้วยเหตุนี้หนังจึงต้องพึ่งพาพลังของนักแสดงในการดึงคนดูให้ติดตาม ซึ่ง เจอร์ราด บัตเลอร์ (นอกจากแสดงนำแล้วยังมีชื่อเป็นผู้อำนวยการสร้างอีกด้วย) ทำหน้าที่ในหนังเรื่องนี้ได้ดีมาก แฟน ๆ อาจไม่ได้เห็นฉากแอ็คชันในแบบ Olympus Has Fallen แต่ก็ได้เห็นบทบาทของคุณพ่อและสามีที่ต้องทำการหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อชดเชยสิ่งต่าง ๆ ที่เขาเคยทำพลาดไป
อีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ โมเรนา แบคคาริน นักแสดงสาวชาวบราซิลที่หลายคนคงคุ้นหน้ากับบท วาเนสซา แฟนของ Deadpool ในบทของแม่และภรรยาของ เจอร์ราด บัตเลอร์ ก็มีหลายฉากที่ทำให้ลุ้นและเอาใจช่วยเธอ ซึ่งพลังทางการแสดงของทั้ง 2 ช่วยยกระดับเรื่องราวให้น่าติดตามมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนตัวชอบดราม่าครอบครัวที่นำเสนอมากเป็นพิเศษ ซึ้ง สะเทือนใจ จนบางคนอาจมีน้ำตาซึม
เมื่อพาร์ทดราม่าโดดเด่นขนาดนี้ ด้านฉากวินาศสันตะโรจึงกลายมาเป็นพระรอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังจะไม่เอาใจแฟนหนังภัยพิบัติที่อยากเห็นฉากหายนะมัน ๆ ที่ทำให้เลือดลมต้องสูบฉีดระหว่างดู หนังยังคงมีให้ในแบบค่อยเป็นค่อยไป ไต่ระดับตั้งแต่เล็ก ๆ ไปจนถึงระดับสิ้นโลกในตอนท้าย แม้อาจไม่ได้มีฉากเหล่านี้มากมาย เมื่อเปรียบเทียบกับหนังภัยพิบัติเรื่องอื่น ๆ แต่ก็มากเพียงพอให้ลุ้นและตื่นเต้นไปกับสถานการณ์ของเรื่อง
ผู้กำกับ ริก โรมัน วาฟ ที่เคยร่วมงานกับ เจอร์ราด บัตเลอร์ ใน Angel Has Fallen กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในแนวหนังที่ต่างกันออกไป แต่ผลที่ได้ก็นับว่าเป็นหนังแนวภัยพิบัติที่น่าพอใจ อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ความสมจริง สมเหตุสมผลที่หนังมอบให้ ก็ทำให้หนัง Greenland นาทีระทึก..วันสิ้นโลก จะเป็นหนังแนวหายนะภัยพิบัติที่ให้ความบันเทิงกับทุกคนที่ไปตีตั๋วดูหนังเรื่องนี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
