1 ต.ค. 2020 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
Carlos Slim ชายที่มีความมั่งคั่งเป็น 5% ของ GDP ประเทศ
เม็กซิโกประเทศที่มี GDP ประมาณ 40 ล้านล้านบาท
เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของโลก
ใหญ่กว่า GDP ไทย 2.5 เท่า
แต่ที่น่าสนใจคือ มีชายชาวเม็กซิโกคนหนึ่ง
ที่มีทรัพย์สินประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท
คิดเป็นสัดส่วนกว่า 5% ของ GDP เม็กซิโก ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนที่สูงมาก
ชายคนนี้ชื่อ “คาร์ลอส สลิม (Carlos Slim)”
คาร์ลอส สลิม ทำอะไร ทำไมถึงร่ำรวยได้ขนาดนี้?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรื่องราวชีวิตของ คาร์ลอส สลิม เริ่มขึ้นในปี 1940
เขาเป็นลูกชายของครอบครัวชาวเลบานอน ที่อพยพเข้าไปอาศัยในประเทศเม็กซิโก
และเกิดที่กรุงเม็กซิโกซิตี เมืองหลวงของเม็กซิโก
คาร์ลอส สลิม ฝันอยากเป็นนักธุรกิจตั้งแต่เด็ก
และคุณพ่อของเขา ก็เป็นคนสอนเรื่องการทำธุรกิจให้
ตั้งแต่การฝึกทำบัญชีรายรับรายจ่าย ไปจนถึงการอ่านงบการเงิน
ทำให้เขาเป็นคนมีพื้นฐานเรื่องธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก
พออายุได้ 11 ปี เขาเริ่มลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาล
ซึ่งการลงทุนนี้ ทำให้เขาเริ่มรู้จักกับแนวคิดเรื่องดอกเบี้ยทบต้น
พออายุได้ 12 ปี เขาเริ่มรู้จักตลาดหุ้น ด้วยการซื้อหุ้นธนาคารในเม็กซิโกเป็นครั้งแรก
คาร์ลอส สลิม เลือกศึกษาต่อสาขาวิศวกรรมโยธาในมหาวิทยาลัยแห่งชาติเม็กซิโก แต่ด้วยความสนใจในเรื่องเศรษฐกิจและธุรกิจ เขาจึงเดินทางไปศึกษาเศรษฐศาสตร์ที่ชิลีเพิ่มด้วย
เมื่อเขาเรียนจบ ก็เริ่มทำงานเป็นนายหน้าซื้อขายหุ้น หรือ โบรกเกอร์
เขาตั้งใจทำงานอย่างหนัก ถึงขนาดที่ ทำงานถึงวันละ 14 ชั่วโมงอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งที่เขาทำงานหนักก็เพราะว่า เขาอยากมีเงินเก็บมากๆ เพื่อไปต่อยอดทำธุรกิจในอนาคต
Cr. Wealth-X
ในปี 1982 ในช่วงที่เขาอายุประมาณ 42 ปี
ก็ได้เกิดวิกฤติหนี้สินขึ้นในเม็กซิโก ทำให้ประเทศเจอกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก
นักลงทุนจำนวนมากต่างพากันตระหนก และขายสินทรัพย์ออกมาเพื่อถือครองเงินสดไว้กับตัว
แต่ คาร์ลอส สลิม กลับทำตรงข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ
ด้วยประสบการณ์ด้านธุรกิจและการลงทุน ที่เขาสะสมมาตั้งแต่เด็ก
ทำให้เขาพยายามมองหากิจการที่มีพื้นฐานดีหลายๆ แห่ง
ซึ่งในตอนนั้นมีแต่อยากจะขาย ทำให้ราคากิจการเหล่านั้นมีมูลค่าถูกมาก
บางกิจการที่เขาซื้อมา
ก็ถูกนำไปขายต่อถ้าได้กำไรในระดับที่น่าพอใจ
แล้วนำเงินที่ได้มาลงทุนซื้อกิจการอื่นต่อ
ขณะที่บางกิจการที่เขาชอบ ก็นำไปบริหารต่อ
ในปี 1980 เขาก็ก่อตั้ง Grupo Carso เพื่อรวบรวมธุรกิจต่างๆ ที่เขาเคยซื้อ มารวมอยู่ในบริษัทเดียวกัน
Cr. ONE Digital
ธุรกิจของ Grupo Carso กระจายอยู่ในหลายอุตสาหกรรม
ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต, การเดินทาง, บันเทิง, ค้าปลีก, พลังงาน, ก่อสร้าง, การให้บริการทางการเงิน
แต่ในธุรกิจทั้งหมด ธุรกิจที่ทำให้ คาร์ลอส สลิม ร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาล ก็คือ ธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารและโทรคมนาคม
ปี 1990 “Telmex” รัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้านกว่า 90% ในเม็กซิโก ถูกรัฐบาลเม็กซิโกทำการปฏิรูปให้กลายเป็นของเอกชน
Cr. mediotiempo
ซึ่งบริษัทที่เขาไปซื้อกิจการของ Telmex จากรัฐบาลในครั้งนั้น ก็คือ Grupo Carso ของ คาร์ลอส สลิม ซึ่ง
ต่อมา Telmex ถูกรวมเข้ามาเป็นบริษัทลูกของ América Móvil ที่เป็นบริษัทในเครือของ Grupo Carso
ปัจจุบัน América Móvil เป็นบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก
ซึ่งไม่เพียงแต่ให้บริการระบบเครือข่ายโทรศัพท์ในเม็กซิโก
แต่ยังรวมไปถึงในประเทศอื่นในแถบลาตินอเมริกา สหรัฐอเมริกา และในยุโรปอีกด้วย
Cr. Investor Latam
รายได้และกำไรของ América Móvil
ปี 2018 รายได้ 1.5 ล้านล้านบาท กำไร 75,000 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 1.4 ล้านล้านบาท กำไร 96,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน มูลค่าบริษัทของ América Móvil เท่ากับ 1.7 ล้านล้านบาท
ซึ่งมูลค่าดังกล่าวใหญ่กว่ามูลค่าบริษัท Advanced Info Service หรือ AIS บริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทยกว่า 3 เท่า
เมื่อรวมธุรกิจทั้งหมดที่ คาร์ลอส สลิม ถือหุ้น จะทำให้เขามีทรัพย์สินรวมกันกว่า 2.2 ล้านล้านบาท
ซึ่งมูลค่านี้ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 5% ของ GDP เม็กซิโกเลยทีเดียว
เรื่องนี้ทำให้ในปี 2019 คาร์ลอส สลิม ถูกจัดอันดับ ให้เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 5 ของโลก
และในช่วงปี 2010-2013 คาร์ลอส สลิม ยังเคยขึ้นแท่นเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก อีกด้วย..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน คนที่รวยที่สุดในโลก อ้างอิงจาก Bloomberg Billionaires Index
คือ เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ Amazon.com
ซึ่งมีทรัพย์สินประมาณ 5.9 ล้านล้านบาท คิดเป็นประมาณ 0.9% ของ GDP สหรัฐอเมริกา
ส่วนในประเทศไทย คนที่รวยที่สุดคือ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ที่มีทรัพย์สินประมาณ 482,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3% ของ GDP ประเทศไทย..
Cr. ThaiPublica
โฆษณา