30 ก.ย. 2020 เวลา 21:18 • การศึกษา
"ความโศกเศร้าหลังจากเลิกรานั้น สามารถผลักดันให้คนธรรมดาคนนึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกได้" เมื่อความสัมพันธ์ที่หอมหวานต้องสิ้นสุดลง เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะเห็นคนอกหัก ลุกขึ้นมาเปลี่ยนทรงผม
ตัดใจกับตัดผม ตัดอะไรง่ายกว่ากัน?
การตัดใจนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาเป็นตัวแปรต้นสำหรับการทำใจ เพราะเมื่อเราได้เป็นเจ้าหรือได้รู้สึกผูกพันกับอะไรบางอย่างแล้ว การที่จะทำใจยอมรับกับความสูญเสียหรือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างกะทันหันนั้นยากที่จะรับมือมากกว่าแน่นอน แต่สำหรับการตัดผมนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เราตัดผมกันโดยเฉลี่ย 1-3 เดือน ต่อ1 ครั้ง
กุมภาพันธ์ ปี 2007 Britney Spears เดินเข้าร้านทำผมและโกนผมของเธอ ซึ่งตอนนั้นตัวของเธอเองนั้นกำลังมีปัญหาเรื่องการหย้าร้างอยู่เช่นกัน
Britney Spears on the front cover of Daily Mirror newspaper following her infamous hair shaving incident. Photo / Supplied
พฤษภาคม 2013 มินามิ มิเนกิชิ นักร้องสาวสมาชิกวง AKB48 ตัดสินใจโกนผมยาวสลวยทิ้ง เพื่อเป็นการลงโทษตนเองที่ละเมิดกฎของต้นสังกัดและเป็นการขอโทษแฟนคลับ ความรู้สึกของการถูกตัดหรือโกนผมอาจจะเป็นวิธีหนึ่งในการปลดปล่อยตัวเองจากความทุกข์ทรมาน
มินามิ มิเนกิชิ AKB48
จากการศึกษาใหม่ของ TYME ร่วมกับ YouGov จากผู้หญิงในสหรัฐอเมริกา 680 คน พบว่า 20% รายงานว่าพวกเค้าเคยร้องไห้จากการตัดผมที่พวกเธอไม่ชอบ ในขณะที่ผู้หญิง 1 ใน 6 คน กล่าวว่าพวกเธอไม่มั่นใจที่จะต้องออกไปในที่สาธารณะ หากมีบางอย่างผิดปกติกับทรงผมของพวกเธอ
Rebecca Newman นักจิตอายุรเวท จากฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "เมื่อเราต้องผ่านช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงที่เจ็บปวดที่มากกว่าสถานการณ์ปกติ เรามักจะเลือกตัดสินใจใช้วิธีที่ช่วยบรรเทาเราได้ทันที"
สิ่งนี้อาจจะเกิดจากความรู้สึกของคุณเองที่อยากจะกำจัดความรู้สึกแย่ๆ พวกนั้นออกไป ทำให้เรานั้นบุ่มบ่ามขึ้นมาได้ เช่น การของที่ไม่รู้เราจะซื้อมาทำไม หรือตัดสินใจที่จะตัดผมสั้นหรือโกนผมอาจจะเรียกได้ว่าขาดสติไปช่วงหนึ่ง
และด้วยวิธีนี้เอง Rebecca Newman กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ทางกายภาพของเรา อาจจะทำให้เรารู้สึกคล้ายกับการผลัดเซลล์ผิวเสียออกจากผิวหนัง แต่อย่างไรก็ตามการตัดผมนั้นไม่สามารถกำจัดอาการอกหักหรือความทุกข์ใจของเราได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงภายนอกไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดภายในของเราได้นั้นเอง
เส้นผมอาจจะช่วยให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น แต่มันไม่ใช่พลังวิเศษที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด เส้นผมไม่มีพลังในการสร้างทัศนคติที่มีต่อโลกใบนี้ให้กับเรา สิ่งสำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญมากกว่าเส้นผมคือ เราต้องตระหนักว่า ถึงแม้ว่าเราจะมีอิทธิพลต่อสถานการณ์บางอย่างในชีวิต สิ่งเดียวที่สามารถจัดการได้คืออารมณ์และปฏิกริยาของเรา
อย่างไรก็ตามในบางสถานการณ์ การที่คุณตัดสินใจเลือกเปลี่ยนตัวเองด้วยทรงผมใหม่ๆ หรือเปลี่ยนลุคใหม่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ก็ย่อมมีข้อดี อย่างน้อยที่สุดก็จะทำให้เราได้ค้นพบและได้ทดลองสไตล์ใหม่ๆ เตรียมพร้อมสำหรับวันที่ตัวคุณเองจะลุกขึ้นมา นำเสนอตัวตนต่อโลกทั้งใบ ให้โลกจำจดคุณในแบบที่เป็น
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา