4 ต.ค. 2020 เวลา 00:10 • ไลฟ์สไตล์
ผมได้เจอแซม Sam ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยน ทำงานในตำแหน่งTream Leader เป็นการพบแซมครั้งแรก ในวันที่สองของการทำงาน สิ่งที่แซมถามผมเมื่อครั้งดจอกันครั้งแรก"ทำงานที่นี่เหรอ" แซมอยู่อังกฤษมาเป็นสิบๆปี แต่ภาษาอังกฤษไม่ได้ต่างจากผมมาก...ผมนึกในใจ ทำไมถามคำถามโง่ๆแบบนี้ ถ้าไม่ทำที่นี่จะมายืนตักอาหารได้ยังไง? ผมตอบไปว่า"ใช่ ผมเพิ่งเริ่มงานเมื่อวานนี้วันแรก" แว้บแรกที่เห็นแซม ผมมีลางสังหรณ์แปลกๆ ว่าคนๆนี้เหมือนจะไม่ชอบเรา ผมเป็นเอเชียคนเดียวที่ทำงานในทีม จะมีอีกคนนึงที่มาจากมาเลเซีย แต่เป็นนักศึกษาทำงานแค่อาทิตย์ละวัน แซมมองผมแบบไม่เป็นมิตร เวลาคุยจะไม่สบตา เค้าจี้ผมไล่ให้ผมออกจากหน้าเคาเตอร์ ให้ไปช่วยเก็บจานบนโต๊ะ และทำความสะอาด ทั้งๆที่ผมต้องประจำอยู่หน้าเคาเตอร์ตามที่Supervisorเป็นผู้จัด...แต่ไม่เป็นไร เค้าเป็นหัวหน้าเราก็ต้องทำตาม
ขณะที่กำลังเก็บจานและเช็ดโต๊ะอยู่นั้น ผมก็ได้พบกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ เธอชื่ออแมนดา Amanda เธอเป็นคนน่ารัก แม้จะอายุใกล้60 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังก็ยังคล่องตัว เป็นมิตน คุยสนุก อแมนดาเป็นคนอังกฤษ ประวัติของเธอน่าสนใจ เธอเคยรับราชการ ดูแลด้านการงบประมาณ แต่สิบกว่าปีก่อน เธอถูกเลิกจ้าง ชีวิตต้องดิ้นรน เธอทำงานตามร้านอาหาร ผับ ทำงานทุกอย่างที่ได้เงิน เธอน่ารักมากๆ
เพื่อนร่วมงานบางส่วนที่เคยทำงทนด้วย Cr:ภาพจากSussex Food
ระหว่างเช็ดโต๊ะและพูดคุยกับ อแมนดา แซมยังคงตามมาไม่ยอมปล่อยผมไปง่ายๆ เค้าบอกให้ผมหยุดมือและเข็นรถที่วางจานที่ใช้แล้วไปข้างใน...ไม่รู้นะครับว่าเค้าไม่ชอบเรามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเพิ่งเจอเค้าวันแรก และยังไม่ถึงหนึ่งชั้วโมงด้วยซ้ำ ผมสัมผัสว่า เเซมมีอคติกับผม แอบอดนึกไม่ได้ว่าหรือเค้าจะไม่ชอบคนเอเชีย...ยังไม่ทันที่จะได้เข็ยรถจานกองใหญ่ที่วางเป็นชั้นๆเข้าด้านใน เบคกี้ Backy ซึ่งเป็น Supervisor เดินผ่านมาแล้วพูดต่อหน้าแซมว่า "หน้าที่ของเธอ ไม่ใช่มาเก็บจานตรงนี้นะ ชั้นให้เธอประจำอยู่หน้าเค้าเตอร์อาหาร"
แซมรีบพูดแทรกทันที "ผมเห็นว่าที่floor มันยุ่งเลยให้มาช่วย" ผมจับใจความได้ประมาณนั้น
"ชั้นเป็นคนจัดคนลงแต่ละส่วน floor ก็มีหลายคนแล้วที่ดูแล ทำไมภึงให้สรยุทธมาลงตรงนี้" เบคกี้หันหน้ามาหาผมแล้วให้ผมกลับไปทำจุดเดิม เราไม่เกี่ยงเรื่องงานอยู่แล้ว ตรงไหนก็ทำได้หมด
ผมเดินกลับมาประจำจุดเดิม แจ็คกี้ เพื่อนร่วมงาน คนที่สอนงายให้ผมตั้งแต่วันแรก ถามว่าเกิดไรขึ้น เพราะเห็นหน้าแซมที่เพิ่งเดินผ่านมาเหมือนจะโมโห ผมก็เล่าให้นางฟัง แจ็คกี้บอกไม่ต้องไปใส่ใจแซม เพราะคนที่นี่เค้ารู้ระบบการทำงานของแซมดีว่า ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถ้าตอนไหนที่เบ็คกี้กลับไปแล้ว หรือtream leader คนอื่นกลับไปแล้ว แซมจะหายไปเลย ปล่อยให้พนักงานคนอื่นทำงานกันเอง ถ้ามีใครโทรตามจะรีบกระหืดกระหอบมาเลย อ้างว่าขึ้นไปเช็คstock บ้างล่ะ ขึ้นไปปริ้นงานบ้างล่ะ แต่ไม่ใช่ครับ แซมจะแอบไปอู้หรือไม่ก็จะไปจีบสาวที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย อันนี้แจ็คกี้เล่าให้ฟัง...และก็เป็นจริงครับ ยิ่งทำงานนานเข้ายิ่งเห็นว่าคนๆนี้ เป็นอย่างที่หลายคนพูด
เพื่อนผม กอนซาโลที่อยู่ตำแหน่งเดียวกันกับแซม จะเข้ากะสวนกันบ้าง เจอกันบ้างไม่กี่ชั่วโมง ทุกครั้งที่เจอกันก็จะถามไถ่เรื่องการทำงานอยู่ประจำ ว่างๆผมกับกอนซาโล และดาเนียลล่า จะไปกินข้างกัน หรือไปดื่มกาแฟกันเป็นประจำ และจะพูดคุยกันเรื่องงานต่าง ๆ
ยิ่งทำงานกันนานขึ้นผมก็สนิทกับเพื่อนร่วมงานหลายคน พวกเชฟต่างก็เริ่มไว้ใจผมมากขึ้น ให้ผมเป็นคนดูและประสานงานตอนออกอาหารจากครัว สู่เคาเตอร์ ตรงข้ามกับแซม ที่นับวันจะยิ่งแสดงออกว่าไม่ชอบผม โดยที่ผมเองก็ไม่รู้สาเหตุ ....วันนึงขณะที่ผมกำลังนั่งทานอาหารกลางวัน ซึ่งทางบริษัทจะให้อาหารกับเครื่องดื่มฟรี ผมชอบทานของหวานอยู่แล้วเลยซื้อเค้กมาชิ้นนึง ไม่ลืมเก็บใบเสร็จไว้ด้วยเพราะเผื่อมีปัญหา กำลังทานอาหานได้ไม่กี่คำ แซมเดินเข้าบอกผมว่า นี่ถ้ากินเสร็จแล้วไปจัดหน้าเคาเตอร์เพื่อเอาดินเนอร์ออกด้วยนะ....ผมอยากด่าบอกครับ เราทำงานเพิ่งนั่งพักไม่ถึง5นาทีเดินเข้ามาสั่งงาน และไม่ใช่ครั้งแรกทึ่เป็นแบบนี้"ชั่นกำลังเบรกอยู่ จริงๆแล้วถ้าจะให้ทำอะไร ทำไมไม่รอให้กินก่อนล่ะ"
"ชั้นไม่รู้ ชั้นคิดว่ายูกินกำลังเสร็จ" แซมไปได้น้ำขุ่นๆ
"อาหารเต็มจานอยู่เลย แล้วอีกอย่างยูก็เห็นนี่ว่าชั้นเพิ่งเดินมานั่ง"
"โอเค โอเค....ยูก็กินไป แล้วอย่าลืมที่ชั้นสั่งล่ะ" พูดจบทำเหมือนจะเดินไปไม่ฟังที่เราจะพูดต่อ แซมหันมามองที่เค้กในถาด
"นี่ยูจ่ายค่าเค้กเงินหรือเนี่ย"....เชื่อมั้ยครับ ภาพในความคิดผมในตอนนั่น คือกระโดดถีบไอ้คนมี่พูดไปแล้ว ไม่อยากเชื่อหูเลย สีหน้าน้ำเสียงนี่ดูถูกผมมากเลย ผมยิ้มนะครับทั้งที่ในใจนี่โมโหสุดๆ
"ใบเสร็จก็อยู่ในถาดนี่ไง...เค้กชิ้นละ2 ปาวด์ 50 คนอย่างชั้นซื้อได้แซม แพงกว่านี้ชั้นก็จ่ายได้...ขอโทษนะตอนนี้เป็นเวลาเบรก ชั้นอยากมีความสุขกับอาหารและขนมตรงหน้า ถ้ามีอะไรไว้ค่อยคุยกัน หลังจากที่ชั้นกินเสร็จนะ...ขอบคุณ" ผมจะเจอแบบนี้บ่อยมาก การดูถูกจากหัวหน้างานคนนี้ ผมระบายให้กอนซาโล ฟังนะครับ เค้าบอกจะให้คุยกับแซมมั้ยว่ามีปัญหาอะไร ผมบอกว่าไม่ต้อง เพราะผมไม่ต้องการให้เพื่อนต้องมาเดือดร้อนเพราะผม และอีกอย่างดราไม่เคยทำอะไรผิด งานผมก็ทำเต็มที่ ผมจะอดทนให้ถึงที่สุด
ผมทำงานมาได้ไม่ถึง 2 เดือน ก็ได้มาทำแคชเชียโดยมีเพื่อนร่วมงานที่ชื่ออเล็กซ์ เป็นคนสอนงานให้..งานเริ่มเดินหน้าไปด้วยดี ได้รู้จักเพื่อนร่วมงานเพิ่มขึ้น ทั้งจากหน่วยอื่น ที่ต้องนำเงินมาเก็บในเซฟชั้นบน พอเจอหน้ากันก็ทักทายกัน...แผนกFinance ก็จะอยู่ที่นี่ มีห้องเงินสดอยู่ชั้นล่าง ทุกเช้าก่อนเปิดให้บริการ ทุกๆร้านในมหาวิทยาลัยจะต้องมาเบิกเงินที่ห้องเงินสด โดยจะมีพนะกงานทำอยู่ในห้องนั้นเพียงคนเดียว เธอชื่อเอมมี่ Amemy ...ซึ่งเธอคนนี้จะมีบทบาทอย่างมาก ในช่วงการทำงานของผม
แซมยังคงเลือกปฏิบัติกับผมอย่างเห็นได้ชัด ดูเค้าจะไม่ชอบผมเอามากๆ...ผมรู้สึกอึดอัดนะครับแต่ในใจหวังว่าเค้าจะเปิดใจยอมรับผม ผมพยายามปรับปรุงและมองตัวเอง ว่าเราทำให้เค้าไม่พอใจมั้ย ทุกงานที่ได้รับมอบหมายเราก็ทำอย่างเต็มที่....เรื่องความขี้เกรียจและไม่รับผิดชอบต่องาน ดังหนาหูขึ้นเรื่อยๆ คนหลายๆคนเอือมระอา เค้าทำงานที่นี่มา 7-8 ปีแล้ว เพื่อนร่วมงานเก่าๆที่เริ่มทำมาพร้อมกับแซม ค่างพูดเป็นเสียงเดียวกัยว่า " แย่"
2 เดือนกว่า มีบางสิ่งเกิดขึ้นครับ ปัญหาต่างๆ เริ่ม ก่อตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งดีๆ และโอกาสก็มีให้เห็นสำหรับบางคน ไว้คราวหน้ามาเล่าให้ฟังต่อนะครับ😃
โฆษณา