Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
HappyEverySingleDay : เพราะทุกวันคือวันสุข
•
ติดตาม
5 ต.ค. 2020 เวลา 13:55 • ไลฟ์สไตล์
หลายครั้งคนเราตัดสินใจผิดพลาด ไม่ว่าจะเพราะ
เป็นขาดประสบการณ์ชีวิตมากพอ
หรือใช้ชีวิตคนเดียวบ่อยเลยไม่ได้ขอคำปรึกษาใครๆ หรือ
เพราะขาดข้อมูลความจริงที่มากเพียงพอใช้ประกอบ
ในการเลือกตัดสินใจอะไรสักอย่าง จะดีเพียงแค่ไหน
9 สัญญาณ บอกได้ว่า มีความจริงซ่อนอยู่ในคำพูดใครคนนั้น
ถ้าคนเรามีทักษะมากพอที่สังเกตได้ว่า
ข้อมูลที่ได้มามีความจริงหรือความเท็จเพียงใด
ฝึกฝนใช้วิจารณญาณดูสัญญาณย้อนแย้งที่สังเกตได้ว่า
มีความจริงอื่นที่สำคัญซุกซ่อนอยู่ภายในเนื้อหาเรื่องนั้น ๆ
ที่สื่อสารกันออกมาหรือไม่ อยู่ในเรื่องนั้น
สัญญาณที่สังเกตได้ว่ามีความจริงอื่นซ่อนอยู่ในสิ่งที่พูดออกมานั้น มี ดังนี้
1. ทุกครั้งที่พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนั้น
จะไม่สามารถบอกเล่าถึงรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์
และเป็นเหตุเป็นผลต่อเนื่องกัน เพราะเรื่องโกหกสร้างได้ยาก
ถ้าไม่ใช่เกิดจากเรื่องจริงที่ประสบด้วยตนเอง
ทำให้ยากต่อการให้ข้อมูลสอดคล้องกับการตีความเรื่องราวที่เป็นไปได้
* แต่ถ้าเรื่องนั้นผ่านสร้างเรื่องโกหกมาแล้วหลายครั้ง
อาจทำให้ชำนาญจนดูเหมือนจริง การสอบถามในรายละเอียดให้มากขึ้น
แล้วสังเกตภาษากายควบคู่ไปด้วยว่าย้อนแย้งกับสิ่งที่ตอบคำถามหรือไม่ก็จะช่วยทำให้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ได้
2. ยอมรับความจำผิดบ่อย ๆ คนที่พูดความจริงจะไม่มีปัญหาในการจดจำเหตุการณ์สถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง พวกเขาผ่านเหตุการณ์นั้นมาด้วยตนเอง
ดังนั้นมันจึงค่อนข้างง่ายสำหรับพวกเขาที่จะบอกเล่า
อย่างไรก็ตามคนที่ไม่พูดความจริงในเรื่องนั้นจะให้“ ข้ออ้าง”
กับตัวเองว่ามีความจำไม่ดีก็เป็นได้
*อาจต้องแยกแยะเพิ่มเติมด้วยว่า
โดยปกติแล้วเขาเป็นคนขี้ลืมอยู่แล้ว หรือ ความจำไม่ดีในหลายเรื่องด้วยหรือเปล่า
3. เปลี่ยนแปลงเนื้อหา หรือ แก้ไขเรื่องนั้นๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยๆ
เนื่องจากถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ความจริง คนเราจำเป็นต้องสร้างเรื่องโกหกขึ้นมา
การพูดคุยในเรื่องเดิมหลายครั้ง อาจทำให้เกิดความสับสน จำได้บ้าง
ไม่ได้บ้างถึงเรื่องที่สร้างขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องนับจำนวนที่แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในคำพูดของคน ๆ หนึ่ง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมากี่ครั้ง
แต่ถ้าบ่อยครั้งมากพอที่คุณจะสังเกตเห็นได้ถึงความย้อนแย้งวกวนได้
*ความจริงมีเพียงเรื่องเดียว ที่อาจมีได้หลายมุมมองขึ้นอยู่กับผู้เล่าเรื่อง
ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องเล่ากี่ครั้งก็ไม่น่าจะผิดเพี้ยนไปเยอะจากเดิมที่เคยเล่าได้
4. ทำให้สั้นและคลุมเครือ ยิ่งมีความยาวสมบูรณ์และสะกดเรื่องราวได้มากเท่าไหร่
ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นจริงมากขึ้นเท่านั้น
อีกทั้งการโกหกต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเพราะนั่นหมายความว่า
คุณต้องสร้างสถานการณ์ทั้งหมดออกมาจากหัวของคุณ
* พิจารณาเนื้อหาที่เล่ายาวสักนิดว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนด้วย
บางคนมีความเชี่ยวชาญในการเล่าความเท็จมาก
เนื้อหาที่ดูสมบูรณ์แบบมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นก็ได้
ขอให้ฟังอย่างกลั่นกรองให้ดี
5. ไม่สมเหตุสมผลและเต็มไปด้วยความย้อนแย้ง ถึงตอนนี้ถ้าคุณจับใจความได้
ก็ควรชัดเจนว่าเรื่องจริงจะอยู่ร่วมกันได้ดีกว่าเรื่องโกหก
เช่น กลับมาที่กรณีของเสื้อเชิ้ตมีโอกาสมากที่เสื้อผ้าจากร้านที่แพงกว่าจะดูแพงกว่า หากสิ่งที่คุณเห็นไม่ตรงกับสิ่งที่คุณรู้ว่าเป็นในกรณีนี้มีโอกาสมาก
ที่คุณจะไม่ได้รับการบอกความจริง
* การฟังเสียงสัญชาตญาณลึก ๆ ในใจของคนเราให้เป็น
และรู้จักนำสัญญาณเตือนเหล่านั้นมาเช็คทุกครั้งที่มี
มันจะทำให้คุณไม่พลาดข้อมูลสำคัญหลายอย่างที่จำเป็น
ต่อการตัดสินใจทางเลือกที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
6. ดูเหมือนจะคิดหนัก หากผู้พูดของคุณดูเหมือนจะไม่แน่ใจหรือแย่กว่านั้น
คือ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการคิดเหตุการณ์ที่เป็นไปได้
นี่เป็นเงื่อนงำที่ภาระทางความคิดของเขาหรือเธอเพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่าคนที่พูด
ความจริงอาจมีปัญหาในการจดจำเหตุการณ์ในอดีต
แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นนานมาแล้ว
และมีความสำคัญบางอย่างดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ควรจะเหนื่อยล้า
กับทุกประโยคที่เกี่ยวข้อง หากคุณถามคู่ของคุณว่าความสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายของเขาหรือเธอจบลงอย่างไรคน ๆ นั้นควรจะมีเหตุผลพอสมควร
เมื่อเวลาผ่านไปคู่รักที่โกหกเกี่ยวกับการเลิกรานั้น
จะต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อให้รายละเอียดสอดคล้องกับสิ่งอื่น ๆ
ที่คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตนั้น
7. เป็นกังวลเครียดและอยู่ไม่สุข เรื่องโกหกต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
ที่จะสามารถดึงความเท็จออกมาได้โดยไม่ต้องกังวลแม้แต่น้อย
ทำให้จะมีอาการภายนอกหลายอย่างที่มักเกิดขึ้นให้เห็นได้ เช่น พูดตะกุกตะกัก
หรือ แม้กระทั่งหลบสายตาเวลาเล่าเรื่องเหล่านั้นได้ เว้นแต่ว่าการโกหก
เป็นส่วนหนึ่งเป็นนิสัยที่ติดตัวคนนั้นไปแล้ว จนเคยชิน
คนที่พูดความจริงจะดูผ่อนคลาย - อาจจะไม่มีความสุข
แต่อย่างน้อยก็ไม่อึดอัดเป็นพิเศษโดยถือว่าเรื่องที่พวกเขาเล่านั้นไม่ได้เจ็บปวด
ต่อการปกปิดความจริงบางอย่างที่จะบอกเล่าออกไป
8. ตำหนิหรือแสดงความคิดเห็นเชิงลบในเรื่องนั้นบ่อยๆ
สิ่งนี้ดูเหมือนจะสวนทางกัน แต่มันก็สมเหตุสมผลที่คนที่พยายาม
สร้างความประทับใจที่ดีก็อยากจะคิดบวก
คนที่มีความปรารถนาที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้อื่นพยายามปกปิดปฏิกิริยาเชิงลบของตนเอง
ดังนั้นคุณจะชอบพวกเขา (และเชื่อพวกเขา) และการแสดงความคิดเห็นเชิงลบ
หรือแม้กระทั่งตำหนิเมื่อพูดคุยเรื่องนั้นเกือบทุกครั้ง
เป็นไปได้ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่
ในเรื่องนั้นที่มี
*ควรสังเกตควบคู่ไปด้วยว่า
โดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่พื้นฐานมีทัศนคติในด้านลบอยู่กับทุกเรื่องอยู่แล้ว
หรือ เฉพาะเรื่องนี้ทุกที
9. พูดช้าผิดปกติ คำพูดของผู้บอกความจริงเป็นเรื่องปกติ
แต่คนที่โกหกมักจะใช้เวลานานกว่าเล็กน้อยในการแก้ไขเนื้อหา
หรือเรื่องเล่าเหล่านั้น เพื่อพยายามทำให้สอดคล้องกัน
จนเนียนดูเป็นเรื่องจริงที่เป็นไปได้
และ เราได้ยินเกี่ยวกับ“ พนักงานขายที่พูดเร็ว” ซึ่งแปลว่า
เขาไม่โกหก หารู้ไม่ว่าพนักงานขายอาจพูดได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อท่องเรื่องโกหกที่มีการซ้อมมาอย่างดีก็เป็นไปได้
แต่คนรักที่โกหกอาจจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ในการเล่าเรื่องสมมติในอดีตของเขาหรือเธอ
หรือไม่ก็ ตอบได้รวดเร็วอย่างกับท่อง หรือ ตอบโกหกมาแล้วหลายครั้ง
จนชำนาญก็ได้
* ควรพิจารณาแยกแยะด้วยว่าเป็นการนึกคิด
เพราะเรื่องราวผ่านมานานแล้วหรือเปล่า และ
เนื้อหาบริบทที่บอกเล่าสอดคล้องหรือย้อนแย้งตามการใช้เวลาคิดก่อนเล่าหรือเปล่า ควบคู่กับการสังเกต ภาษากายไปด้วยในระหว่างที่บอกเล่า
จะทำให้เราสามารถประเมินเรื่องราวที่เล่าได้มากขึ้นว่า
มีสัดส่วนเป็นเรื่องจริงหรือเท็จในส่วนใดบ้างจากเนื้อหาทั้งหมดที่มีได้
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ควรสังเกตประกอบกันไปด้วยคือ พฤติกรรม นิสัย
หรือ การแสดงออก โดยปกติพื้นฐานของแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไรด้วย
เพื่อช่วยในการแยกแยะได้ว่า สิ่งที่ใครคนนั้นทำมันผิดปกติไปหรือว่า
เป็นธรรมชาติแท้จริงของเขาแบบนั้นจริง ๆ ซึ่งช่วยให้เราวิเคราะห์แยกแยะ
เรื่องจริง กับ เรื่องโกหกได้ดีขึ้น
แล้วเราจะได้ไม่ถูกปกปิดความจริงที่ควรรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจว่า
เรื่องที่ฟังอยู่ทั้งหมดที่บอกเล่ามา มีจริงเท็จประการใด
การเรียนรู้ที่จะรู้จักแยกแยะ เรื่องจริง เรื่องโกหก จากเรื่องเล่าของใครสักคน
จะช่วยทำให้เราสามารถเลือกไว้ใจ เชื่อใจคน ได้อย่างเหมาะสม
และไม่ถูกหลอกหลวงจากเรื่องไม่จริงได้อีกต่อไป
อ้างอิง : Psychologytoday
ภาพ : Unsplash
#สัญญาณ #ความจริง #โกหก #ความสัมพันธ์ #จิตวิทยา #ประสบการณ์ชีวิต #อยู่คนเดียว #ใช้ชีวิตคนเดียว #สังเกตคนโกหก
บันทึก
1
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย