7 ต.ค. 2020 เวลา 02:37 • การศึกษา
สรุปวิธีการทำงานแบบ Agile
Agile คืออะไร และแบบไหน ที่คนชอบเข้าใจผิด
คำยอดฮิตสำหรับวิธีการทำงานในยุคนี้ ก็คือ "Agile"
แล้วทำไม Agile ถึงสำคัญกับการทำงานในยุคนี้?
SEAC จะสรุปให้ฟัง
เรามาทำความเข้าใจนิยามของคำว่า Agile กัน
Agile มาจากคำว่า Agility
ที่แปลตรงๆ ว่า “ความคล่องแคล่วว่องไว”
ถ้าพูดคำนี้ ในมุมมองของการทำงาน ก็จะหมายถึง
แนวคิด วิธีการ ที่จะทำให้การทำงานเกิดความคล่องแคล่วรวดเร็ว
แล้วทำไม การทำงานในยุคนี้ ถึงต้องรวดเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน?
ก็เพราะว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ เปลี่ยนแปลงเร็วมาก
และเพื่อให้สามารถตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเร็วได้ทัน
การทำงานให้รวดเร็วแบบ Agile ก็เลยเป็นคำตอบของเรื่องนี้นั่นเอง
โดยหลักการของการทำงานในแบบ Agile
สามารถสรุปได้ 4 ข้อหลักๆ คือ
1.ดึงคนจากหลายแผนกมานั่งทำโปรเจกต์ร่วมกัน ทำให้การประสานงานทำได้ง่ายขึ้น ทุกคนรับรู้ปัญหาและช่วยกันแก้ได้อย่างรวดเร็ว
2.ทีมงานที่ทำงานร่วมกัน จะมีอำนาจในการตัดสินใจ โดยไม่จำเป็นทำตามขั้นตอนเดิมที่ล่าช้าขององค์กร
3.ส่งมอบงานครั้งละไม่มากชิ้น เพื่อทดสอบ รับฟีดแบค เรียนรู้ และปรับปรุงไปเรื่อยๆ
4.ทุกคนในทีมจะต้องสื่อสารและรับรู้ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในโปรเจ็กต์ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
จากหลักการทั้ง 4 ข้อ จะสังเกตได้ว่า
หัวใจสำคัญของการทำงานแบบ Agile
คือการย่อยขั้นตอนใหญ่ๆ ให้เล็กลง แล้วค่อยๆ ทำไปทีละขั้น
รับรู้ปัญหาให้เร็ว และนำมาเรียนรู้ ปรับปรุงและพัฒนา จนบรรลุผลสำเร็จ
ดังนั้นข้อดีของวิธีการทำงานแบบ Agile ก็คือ
1.ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง แก้ปัญหาได้เร็ว ลดความเสียหาย
2.ทีมงานสามารถตัดสินใจได้เอง ไม่ต้องผ่านกระบวนการที่ยุ่งยาก
3.เมื่อมีการทำงานร่วมกัน ความคิดสร้างสรรค์หรือแนวทางใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย
ซึ่งการทำงานแบบ Agile จะตรงข้ามกับวิธีการทำงานอีกแบบ ที่เรียกว่า “Waterfall”
การทำงานในรูปแบบ Waterfall
จะมีระบบการทำงานแบบ Top-to-Down
คืองานจะถูกสั่งการจากผู้มีอำนาจลงมา
และการฟังฟีดแบคจากการทำงานของคนใต้บังคับบัญชาจะเกิดขึ้นได้ยาก
เหมือนกับการไหลของน้ำตก ที่มีแต่จะไหลลงมา ไม่ไหลกลับขึ้นไป
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบแบบง่ายๆ คือ
บริษัทหนึ่งกำลังคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าตลาด
ถ้าทำงานแบบ Agile คือ ค่อยๆ วางแผนทดลองตลาด
แล้วปรับปรุงผลิตภัณฑ์ตามปัญหา และฟีดแบคที่ได้รับในแต่ละครั้ง
สุดท้าย ก็จะได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในที่สุด
แต่ถ้าทำงานแบบ Waterfall
การออกแบบผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิต จะถูกกำหนดมาตั้งแต่ก่อนเริ่มโปรเจ็กต์ แล้วค่อยไปทดสอบผลลัพธ์เอาทีเดียวในตอนสุดท้าย ซึ่งการทำงานแบบนี้ จะเสียทั้งเวลาและงบประมาณอย่างมาก ถ้าสุดท้ายแล้วผลิตภัณฑ์นั้น ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม ในหลายๆ ครั้งก็เกิดการเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Agile
ซึ่งแบ่งออกเป็นสองประเด็นที่น่าสนใจ คือ
1.Agile ไม่ได้ทำให้เราทำงานได้รวดเร็วขึ้นเสมอไป
การใช้แนวคิด Agile ไม่ได้รับประกันว่า เราจะทำงานได้รวดเร็วขึ้นเสมอไป
แต่หัวใจสำคัญของการทำงานแบบ Agile คือ การรับรู้ปัญหาให้เร็วในทุกขั้นตอน
ซึ่งจะส่งผลให้แก้ปัญหาได้รวดเร็ว และช่วยลดความเสียหายได้มาก
2.Agile จำเป็นต้องวางแผนในการทำงานด้วย
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า Agile คือการคอยตามแก้ไปตามฟีดแบคที่ได้รับ โดยไม่ต้องวางแผนล่วงหน้า
แต่จริงๆ แล้ว การทำงานแบบ Agile ยังคงต้องวางแผนว่าใครทำอะไร เสร็จสิ้นเมื่อใด
มีการวัดผลอย่างไร แต่จะยึดทำตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์
ซึ่งปัญหานี้ แก้ไขได้ด้วยการให้โอกาสคนในองค์กรได้ลองลงมือปฏิบัติจริง
เพื่อทุกคนจะได้เข้าใจในหลักการที่แท้จริง ของคำว่า Agile
โดยสรุปแล้ว การทำงานให้มีประสิทธิภาพในยุคสมัยนี้
เคล็ดลับที่สำคัญ คือ การทำงานแบบ Agile
คือการรับรู้ปัญหาให้เร็ว แล้วนำมาแก้ไขและพัฒนา
เพื่อให้การทำงานเรื่องนั้นๆ ดีขึ้นต่อๆ ไป
ซึ่งก็หมายความว่า Agile คือสิ่งสำคัญ ของการทำงานในยุคนี้ นั่นเอง..
#SEAC #lifelonglearning #YourNextU #essentialskills #upskill #reskill #OutwardMindset #AgileMindset #agility #InwardMindset #ทักษะแห่งอนาคต
โฆษณา