7 ต.ค. 2020 เวลา 07:30
“ คนเราล้วนมีอะไร ๆ ที่ต้องลงมือกระทำ”
ลงมือสร้างสิ่งใดๆก็ตามแตกต่างกันไปครับ
และสิ่งเหล่านั้นเองเราก็อาจมีจุดประสงค์อยู่บนความชอบในเหตุผลส่วนตัวที่แตกต่างกันไปด้วยเช่นกันครับ
แต่ก็มีไม่น้อยที่เราปฏิเสธไม่ได้ครับว่า.....
สิ่งที่เรากระทำนั้นเราแค่เพียงอาจจะต้องการ
การยอมรับจากคนใกล้ชิด
( ครอบครัว พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หมู่เพื่อน )
รวมไปจนถึงคนหมู่มากในสังคม
หรือกระทั่ง ทำเพื่อให้ตัวเองนั้นแหละ
ให้ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองลงมือกระทำอยู่
ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ
มีไม่น้อยเลยที่ชีวิตอันเร่งรีบของเราในปัจจุบันนี้
เราเหนื่อยล้ามากกับการสร้างเนื้อสร้างตัว
เพื่อจะ....พิสูจน์ให้ใครๆได้เห็น
ถึงแม้ว่าความจริงในใจอาจสวนทางกับคำพูด
ที่เรานิยมพูดกันว่า....
#ฉันไม่สนใจใครทั้งนั้นแหละ
(ฉันทำเพื่อตัวฉันเพื่อครอบครัวของฉัน)
แต่ในความเป็นจริงเราสามารถมีชีวิตรอดโดย
การที่เราไม่พึ่งพาใครได้จริงๆ หรอครับ?
ผมขอลองยกตัวอย่างสักเรื่องก็แล้วกัน เช่น
ถ้าเราทำกับข้าวไม่เป็นเราก็คงต้องเดิน
หรือขับรถออกไปเพื่อซื้อข้าวกินต้อง
#พึ่งพาแม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง
ร้านข้าวราดแกง ,ร้านกั๋วยเตี๋ยว เพื่อซื้ออาหารกินสักมื้อ
แต่ฉันทำกับข้าวเองเป็นนะ!
( ไม่อ่ะฉันไม่พึ่งใครฉันซื้อวัตถุดิบมาทำเองได้ )
คำถามคือ : แล้ววัตถุดิบเหล่านั้นเกิดขึ้นมาเองดื้อๆเลยหรือป่าวครับ ? ก็คงเป็นไปไม่ได้จริงไหมครับ
วัตถุดิบเหล่านั้นต้องมีเกษตรกรในการปลูกพืชผัก
มีกรมปศุสัตว์ในการแปลรูปสัตว์ เพื่อส่งขายมา
ยังห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ จนถึงมือเราเพื่อจะได้เลือกซื้อมาทำกินเอง...เป็นต้นครับ
ผมลองยกตัวอย่างการพึ่งพาของคนเรา
ในเรื่องของอาหารคร่าวๆนะครับ
ยังมีอีกหลากหลายเรื่องที่เราต้องพึ่งพาอาศัยกัน
ทั้งแบบที่ตั้งใจและแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งแบบที่เรารู้ตัวและที่เราไม่รู้ตัว อีกมากมาย
#เกรงว่าถ้าเขียนจะยาวจนใครมาอ่านแล้วนั่งหาวก็เป็นได้...จึงคิดว่าพอก่อนจะดีกว่าครับ
#
บทสรุปของเนื้อหานี้ผม
อยากจะบอกว่าเรานั้นต้องพึ่งพาอาศัย
กันและกันเสมอครับแต่เมื่อใดก็ตาม
สิ่งที่เราลงมือทำอยู่นั้นมีเพียงแค่ไม่กี่คน
เท่านั้นที่มองเห็น และ ยอมรับให้กำลังใจเรา
#ช่วยเหลือเราพึ่งพาอาศัยกันกับเรา
ส่วนตัวผมเอง
ผมคิดว่าเราน่าจะหันมาโฟกัส
กับพวกเค้าเถอะครับถึงแม้ว่าอาจจะมีเพียงแค่คนจำนวนน้อยนิดในชีวิตเรา แต่เราจะไม่เครียดหรือเหนื่อยเลย
ถึงแม้ถ้าวันใดเกิดเราท้อเราก็ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้โดย
ไม่ยาก....
โดยเริ่มเปลี่ยนแปลงมุมมอง จาก
การทำเพื่อให้คนมากมายมาหันมายอมรับเรา
เป็น...มาทำเพื่อตอบแทนคนส่วนน้อย
ที่เราพี่งพาอาศัยกันและกันอยู่แม้จะเป็นเพียงไม่กี่คนในชีวิตเราก็ตามตรงนี้เองคือกำลังใจ...อย่างแท้จริง
ปรับเปลี่ยนจากการทำเพื่อเอาชนะ
เป็นทำเพื่อลดเพื่อละเพื่อตอบแทน
ถ้าเราพยายามโฟกัสกันแบบนี้ดีไม่ดีเราอาจจะได้
สังคมกลุ่มเล็กๆ ที่เกิดขึ้นหลายๆกลุ่ม ในโลก
และจะสามารถเชื่อมโยงกัน จนเป็นกลุ่มใหญ่ครอบคลุมกลุ่มเล็กๆได้ในที่สุด.....
สังคมแห่งการแบ่งปัญจะเกิดขึ้น
เพียงแค่เปลี่ยน #จุดโฟกัสที่หัวใจเรามองอยู่
จากการทำเพื่อเอาชนะใจคนหมู่มาก
มาทำเพื่อตอบแทนคนหมู่น้อยที่คอยอยู่เคียงข้างเรา
และสนับสนุนเราเสมอมาครับ ..........
#ขอบคุณจุดโฟกัสที่ควรมองของชีวิตผมด้วยนะครับ
“สบตากับความรู้สึก..”
โฆษณา