นักรบบราเดี่ยว สู้ด้วยนมข้างเดียว
หนังสือ The Histories เล่าเรื่องราวแสนสะพรึง ยิ่งกว่านิยายแฟนตาซี อันปรากฎนักรบสาว นมข้างเดียวคว้าธนูพร้อมปลิดชีพศัตรูผู้รุกราน ความโหดของเธอ ถึงขนาดถลกหนังหัวคู่ต่อสู้ อย่างไม่ยี่หระ ใครจะไปเชื่อ ว่านี่คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ในยุคก่อนประวัติศาสตร์จริง ๆ เรื่องราวเป็นยังไง ผู้เขียนจะแรงค์ให้ฟัง ใน 15 ข้อ ต่อไปนี้ครับ
1 หนังสือถูกเล่าด้วยผู้เขียนชื่อ เฮอรอโดทัส ที่กล่าวถึงเรื่องราวของนักรบหญิง อเมซอนผู้เกรี้ยวกราด รวมเข้ากับชาแมน หรือกะเทยแปลงเพศ ยังมีการถลกหนังหัวของศัตรูออกมาด้วย แล้วยังมีมนุษย์หมาป่า กับเหล่านกยักษ์กริฟฟินบินได้อีก ต้องบอกเลยว่าแฟนตาซีสุด ๆ
2 ตามตำนาน นักรบหญิงอเมซอนนั้น จำเป็นต้องมีหน้าอกเพียงข้างเดียว พวกเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่เรียกว่า ไซเชีย (Scythia) กับเซาโรมาเทีย (Sauromatia) ซึ่งปัจจุบัน คือยูเครน และตอนใต้ของรัสเซีย อาจมีบางส่วนติดอนาโตเลีย และลิเบียด้วย
3 เชื่อว่าถึงตรงนี้หลายคนแย้งขึ้นมาว่า อเมซอนไม่ได้อยู่แถบอเมริกาใต้หรอกเหรอ บอกเลยว่าใช่ครับ แต่ชื่อนี้ ถูกนำไปใช้ในตอนหลัง โดยก่อนหน้านี้ หญิงนักรบอเมซอน ไม่ได้อยู่ไกลถึงอเมริกาใต้ แต่หากอยู่ใกล้ และเป็นปรปักษ์กับพวกกรีกโบราณต่างหาก
4 ดินแดนแห่งนี้ ประกอบไปด้วยแม่น้ำดอน (Don River) ตะวันตกของแม่น้ำ คือดินแดนไซเชีย ส่วนทางตะวันออกของแม่น้ำ คือเซาโรมาเทีย เรื่องนี้ โยฮันน์ ยาค็อบ บาคโฮเฟน เคยเขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่ง ช่วงในศตวรรษที่ 19 และนั่นทำให้ชื่อเสียงของสาวอเมซอน เลื่องลือไปไกล
5 ในศตวรรษที่ 16 ยุคล่าอาณานิคม ชาวโปรเกตุซึ่งขณะนั้น รบราอยู่กับเผ่าพื้นเมืองแถว ๆ บราซิล ก็ไปเจอเข้ากับผู้หญิงชาวป่า ที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด อย่างสุดความสามารถ พวกเขาเลยตั้งชื่อป่าฝน ที่มีแม่น้ำไหลผ่านสายนี้ว่า อเมซอน และชื่อนี้ก็ถูกเรียกมาจนถึงปัจจุบัน
6 ด้านประวัติศาสตร์ คำว่าอเมซอน มีที่มา ที่ไปอย่างไร ไม่มีใครชี้ชัดได้ แต่ก็มีการสันนิฐานกันไปต่าง ๆ นานา เช่น มันไปใกล้เคียงกับศัพท์กรีกโบราณ คำว่า อะมาโซส หรือ a-mazos ที่แปลว่า without abreast หรือปราศจากนมหนึ่งข้าง
7 ส่วนอีกคำ คือคำว่า ha-mazan เป็นคำศัพท์โบราณของชาวอิหร่าน ที่หมายถึง นักรบ โดยจะว่าไปแล้ว สองคำนี้ มีความคล้ายคลึง และเป็นไปได้มากที่สุด อีกทั้งมันยังดูเข้ากัน กับหนังสือของ คุณปู่ เฮอรอโดทัส
8 หากจะอ้างจากหนังสือ The Histories ที่เล่าถึงหญิงสาว วัยเจริญพันธุ์ พวกหล่อนที่เข้าสู่เส้นทางสายนักรบ จะต้องถูกนำมาเข้าพิธีคว้านหน้าอกข้างหนึ่งออก เพื่อประสิทธิภาพ ในการขึ้นคันศร ยิงธนูขณะควบอยู่บนหลังอานม้า เรื่องนี้จะจริงเท็จแค่ไหน คงมีแต่สาวอเมซอนเท่านั้นที่รู้
9 หนังสืออีกเล่ม ที่เขียนโดย ฮิปโปเครตีส (Hippocrates) เคยกล่าวถึงสาวนักรบ ผู้สวมบราเดี่ยวของชนเผ่านี้ว่า พวกเธอจะต้องฆ่าศัตรู แล้วถลกหนังหัวออกมาให้ได้สามคนก่อน ถึงจะได้ออกเหย้า ออกเรือน หรือมีทายาทตามปกติ
10 ชนพื้นเมือง เรียกสาวพิฆาตเหล่านี้ว่า Oiorpata ซึ่งแปลว่า Slayers of Men หรือนักสังหารบุรุษ แน่นอนว่าชายใด ต้องการหลอนเป็นแม่ศรีเรือน อาจจะรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กันบ้าง ยกเว้นเสียแต่ว่า พวกเธอจะไม่มุ่งหวังการสืบสายพันธุ์เสียมากกว่า
11 มีเรื่องเล่าตอนหนึ่ง เกี่ยวกับการสู้รบเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำดอน ระหว่างนักรบชาวไซเชีย กับนักรบอเมซอน สุดท้ายนักรบไซเชีย เป็นผู้ชนะ หลังจากเปิดเกราะออก พวกเขาจึงได้รู้ว่า คู่ต่อสู้คือสาวบราเดี่ยวชาวอเมซอน และทำให้หนุ่ม ๆ ไซเชีย ล้มเลิกการสู้รบ และอยากเป็นทองแผ่นเดียวกับพวกเธอ
12 ต่อมานักรบไซเชีย แอบซุ่มจับนักรบสาวอเมซอนยามพลบค่ำ เรื่องราวดำเนินไปคล้าย ๆ กับละครจำเลยรัก (กำกับโดย พิศาล อัครเศรณี) กลายเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ ฉันชู้สาว ของนักรบสองกลุ่ม และเป็นจุดกำเนิดของภาษาไซเชียสําเนียงแปลกๆ เรียกกันว่า ภาษาแบบกึ่งไซเชีย
13 ปัจจุบันมีการค้นพบ หลุมศพของนักรบหญิงหลายแห่ง ในแถบเทือกเขาคอเคซัส ตามที่เฮอรอโดทัสเคยเขียนไว้ในหนังสือ ซึ่งนักโบราณคดีก็ให้เครดิตไปว่า อาจเป็นหลุมศพของ นักรบสาวอเมซอน จริง ๆ
14 เหตุที่ชี้ชัด ๆ ได้ก็เพราะ ในหลุมฝังศพเหล่านั้น เต็มไปด้วยเกราะ ธนู มีด และอาวุธต่างๆ ถึงแม้จะนับย้อนไป ไกลไม่ถึงช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่เราก็พอรู้ว่า มีการสืบทอดประเพณี นักรบหญิงต่อกันมาจริงๆ
15 สิ่งที่ยังเหลือเป็นปริศนา และยังหาคำตอบไม่ได้ คือเราไม่รู้ว่า แท้จริงแล้ว นักรบหญิง สวยพิฆาตเหล่านั้น มีหน้าอกข้างเดียวจริง ๆ หรือเปล่า นั่นก็เพราะร่างกายที่เน่าสลายไปตามกาลเวลา และยังหาอะไรมาพิสูจน์ไม่ได้ แม้ว่าเราจะหานักรบบราเดี่ยวไม่ได้ แต่ปัจจุบัน เรามีนักรบสายเดี่ยวเพียบเลย
กดไลค์หากถูกใจ
แชร์หากเห็นว่ามีประโยชน์
คอมเมนท์เพื่อแนะนำติชม
พูดคุย และทักทายผ่านอีเมลล์หรือ HangOut ที่
แหล่งข้อมูล ภาพ และสื่อประกอบ
หนังสือ ประวัติศาสตร์ใต้สะดือ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
