9 ต.ค. 2020 เวลา 02:39 • ปรัชญา
"งานเลี้ยงรุ่น"
2
มีใครบ้าง ที่ทำงานเกิน 30 ปี แล้ว แต่ยังโทรคุยหรือนัดทานข้าวกับเพื่อนสมัยเป็นนักเรียนอยู่เรื่อยๆ…ไม่ค่อยมีเลยเหรอ
1
งั้นถามใหม่ … มีใครเคยไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นประจำปี หรืองานคืนสู่เหย้าของโรงเรียนเก่าบ้าง ถามแบบนี้ ค่อยมีคนยกมือขึ้นนิดหน่อย…
ขอถามอีกข้อ…ใครที่ไม่เคยพลาดงานเลี้ยงรุ่นเลย แม้แต่ปีเดียว น่าจะมอบรางวัลเพื่อนแห่งชีวิตให้จริงๆ เพราะถ้าคุณไม่เคยขาดงานเลี้ยงรุ่นเลย แสดงว่าคุณให้คุณค่าและความหมายของความเป็นเพื่อนได้สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อนที่ทำหน้าที่เตรียมงานรุ่น คอยประสานงาน คอยโทรตามให้เพื่อนไปร่วมงานรุ่น โดยหาสารพัดกลยุทธ์การตลาดมาเพื่อการปลุกเร้า เชิญชวนให้เพื่อนไปงานรุ่นกันให้ได้ ให้ครบ
ถามว่า พวกที่เตรียมการต่างๆ เพื่อการเลี้ยงรุ่น คนเหล่านั้นได้อะไรตอบแทน นอกจากเหนื่อย เปลือง โดนเพื่อนบ่น - ไม่ไปหรอกงานรุ่นอะไรนั่นน่ะ มันเรื่องของเด็กๆ เราโตแล้ว หน้าที่การงานก็มากมาย มีเรื่องที่สำคัญกว่าตั้งมากมายก่ายกองต้องทำ มาชวนอะไร ไร้สาระ ว่างมากหรือไง ---
...น่าเสียดาย เพราะคุณกำลังสูญเสียช่วงที่ดีที่สุดของชีวิตไปอีกครั้งด้วยน้ำมือของคุณเอง
นั่นเพราะ เวลาแห่งการเลี้ยงรุ่น ทำให้เราได้นึกถึงอดีตร่วมกัน ไม่รู้ว่ามันเป็นเวทย์มนตร์ หรืออะไรสักอย่างที่ ทุกเรื่องราวจะพรั่งพรูออกมาเหมือนก๊อกของวันเวลาแตกทะลายลง เรื่องที่เคยสุข ก็ยิ่งสุขกว่า เมื่อมานึกย้อน ส่วนเรื่องทุกข์ เรื่องเศร้า เรื่องลอกการบ้านเพื่อน แล้วโดนดุ โดนตี โดนทำโทษ พอถึงวันเลี้ยงรุ่น เรื่องเหล่านี้กลายเป็นเรื่องขำฮากลิ้ง เก็บมาอำได้ไม่รู้จบ ทั้งที่ตอนนั้น กว่าจะผ่านมาได้แทบปางตาย
เพราะเหตุนี้หรือเปล่า โลกเราจึงมีงานเลี้ยงรุ่น เพราะเพื่อนคือสิ่งมีชีวิตที่แสนมหัศจรรย์ และจะปั้นแต่งก็แสนยาก
ทุกคนในงานเลี้ยงรุ่น มีหมวกเดียวกัน..."เพื่อน"เท่านั้น
โฆษณา