เยอรมนีเตรียมคว่ำบาตรประเทศไทยอีกครั้ง !!
ก็อย่างที่ได้ทราบกันนะครับ ว่าเมื่อวานนี้มีข่าวหนึ่งมาจากประเทศเยอรมนี เกี่ยวกับ ส.ส. ในสภา Bundestag ที่ลุกขึ้นมาอภิปรายถึงองค์พระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทยอย่างฉะฉานเผ็ดร้อน จนกลายเป็นที่พูดถึงบนโลกออนไลน์มากมายในเวลาไม่นาน ทั้งใน Facebook และใน Twitter เลย
คือจริงๆแล้วที่ ส.ส. ในเยอรมนีเขาดึงเรื่องนี้ขึ้นมาพูดนั้น มันมีอีกประเด็นแอบแฝงหนึ่งครับ คือเรื่องรัฐบาลของไทย ทางเยอรมนีที่สังเกตการณ์การเมืองไทยมาตลอดตั้งแต่แรกนั้นค่อนข้างไม่พอใจที่ประเทศไทย และรัฐบาลไทยของประยุทธ์ จันทร์โอชานั้นได้ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ยุบพรรคอนาคตใหม่ขึ้น
ซึ่งทางเยอรมนีมองว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ศาลไม่ควรมีสิทธิเข้ามาก้าวก่ายการเมืองระดับชาติ และคดียุบพรรค คดีการเมืองที่พรรคอนาคตใหม่โดนนั้น สำหรับเยอรมนีแล้ว มันเป็นแค่เกมการเมืองที่อีกฝ่ายพยายามจะใช้เพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองเท่านั้น
ทาง ส.ส. เยอรมนีจึงเสนอต่อสภา Bundestag ว่า เยอรมนีควรหาทางในการลงโทษประเทศไทยและรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตยของไทยอย่างด่วนที่สุด โดยจะมีการส่งคำร้องต่อไปยังที่ทำการสหภาพยุโรป หรือ EU ด้วย เพื่อกระจายข่าวสาร แล้วโน้มน้าวให้ประเทศสมาชิก EU อื่นๆให้ร่วมมือในการลงโทษไทยตามเยอรมนี
โดยความเป็นไปได้หลักๆของวิธีการลงโทษที่เยอรมนีตั้งใจจะใช้ ก็คงเหมือนเดิมเมื่อครั้งปี 2014 นั่นแหละครับ คือ พยายามกดดันให้ประเทศเพื่อนบ้านในแถบยุโรปช่วยกันลงมติคว่ำบาตรประเทศไทย ด้วยการยกเลิกการเจรจาข้อตกลง EU-Thailand FTA นั่นแหละครับ
ตอนที่ไทยมีรัฐประหารใหม่ๆเมื่อช่วง 4-5 ปีก่อน เยอรมนีก็ใช้วิธีนี้ในการกดดันให้ไทยจัดเลือกตั้ง ถ้าปี 2020 หรือ 2021 เยอรมนีจะหาเรื่องลงโทษประเทศไทยกรณีการเมืองภายในประเทศไทยอีก ก็คงจะไม่พ้นวิธีเดิมนี้ หรือไม่ก็อาจจะแค่แกล้งชะลอ และเตะถ่วงเรื่องการเจรจาให้มันช้าไปเรื่อยๆ
แต่ยังไม่ต้องกังวลนะครับ อันนี้ยังเป็นแค่กระบวนการพูดคุยกันในระดับรัฐสภาเท่านั้น ยังไม่มีการส่งเรื่องไปยังสหภาพยุโรป หรือ ผู้บริหารของ EU แต่อย่างใด (เขาแค่กำลังคุยกันว่าจะส่งเรื่อง แต่ยังไม่ได้ส่งวันนี้หรือพรุ่งนี้หรอกครับ) อย่างเร็วก็คงภายใน 2-3 เดือนนี้
ในกรณีที่เขาส่งเรื่องขึ้นไป EU จริงๆ ไทยก็ควรเตรียมรับมือไว้ครับ เพราะไทยเรายังต้องพึ่งพา EU อยู่มาก ในฐานะที่ EU เป็นคู่ค้าลำดับสำคัญของประเทศไทย มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับ EU นั้นมีสูงถึงเกือบ 45,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบ 10% ของรายได้จากการค้าทั้งหมด
หากสงสัยว่า EU-Thailand FTA สำคัญขนาดไหน ให้ลองมองไปยังเวียดนามครับ หลังจากที่เวียดนามมี FTA กับ EU แล้ว โอกาสทางเศรษฐกิจของเวียดนามก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเลย นักลงทุนจากยุโรปแห่กันบินเข้ามาศึกษาลู่ทางลงทุนทำธุรกิจกันเพียบ การจะส่งสินค้าไปขายในยุโรปก็คล่องตัวสะดวกขึ้น
ดังนั้นไทยต้องดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังจริงๆครับ หลังจากนี้ไป เพื่อไม่ให้ถูกทางการของประเทศพันธมิตรในฝั่งยุโรปเพ่งเล็ง หรือจ้องจะหาทางกลั่นแกล้ง กดดันไปให้มากกว่านี้
Source: The Thai Enquirer
- 354
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
