10 ต.ค. 2020 เวลา 02:42 • ท่องเที่ยว
วัดต่อมาที่เราเดินทางไปในครั้งนี้ ได้แก่
“วัดถ้ำพระโพธิสัตว์”
วัดถ้ำพระโพธิสัตว์
ซึ่งเป็นวัดสายวิปัสสนา ปฎิบัติธรรม เข้ามาถึงจะเจอกับ
ศาลาธรรมเจดีย์ทรงลังกา เลยเข้ามาจะเจอกับทางขึ้นที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
บรรยากาศวัดถ้ำพระโพธิสัตว์
เมื่อเดินบันไดขึ้นไป (ประมาณ 370 ขั้น) แต่วิวใน
ระหว่างการเดินสวยงาม อากาศเย็น สบาย ไม่ร้อน เนื่องจากมีภูเขาล้อมรอบทั้ง 3 ด้าน
สุดทางจะพบกับถ้ำพระโพธิสัตว์
บันไดสำหรับขึ้นถ้ำพระโพธิสัตว์
ถ้ำพระโพธิสัตว์หรือถ้ำพระงาม หรือถ้ำเขาน้ำพุ เป็นถ้ำที่อยู่กึ่งกลางเขาน้ำพุ
วิวขณะเดินบันไดสำหรับขึ้นถ้ำพระโพธิสัตว์
ด้านในถ้ำมีบนผนังมีภาพแกะสลัก
นูนต่ำศิลปะสมัยทวาราวดี(พุทธศตวรรษที่ 13-14)
ถ้ำพระโพธิสัตว์
มีการสันนิษฐานว่าภาพจำหลักนี้ มีอายุมานาน
ไม่น้อยกว่า 1,600 ปี มีลักษณะเป็นภาพแกะสลัก
พระโพธิสัตว์ปางประทับบาท ล้อมรอบด้วยเทวดา
และเทพเจ้าฮินดู
ถ้ำพระโพธิสัตว์
ทางกรมศิลปากรได้มีการประกาศขึ้นทะเบียนเป็น
โบราณสถานเรียบร้อยแล้ว
ถ้ำพระโพธิสัตว์
ยิ่งกว่านั้นภายในถ้ำยังเต็มด้วยหินงอก หินย้อยหลายรูปร่าง ช้าง เต่า สิงโต พร้อมแสงประกายคล้ายเพชร
(จากธาตุซิลิกา) ซึ่งขึ้นกับจิตนการของผู้ชมเลยว่าจะ
จิตนาการว่าเป็นรูปใด
หินงอกหินย้อยภายในถ้ำพระโพธิสัตว์
นอกจากถ้ำพระโพธิสัตว์แล้วยังประกอบไปด้วย ถ้ำอื่นๆ ได้แก่ ถ้ำธรรมทัศน์, ถ้ำสงัดเจดีย์, ถ้ำลุมพีนีสวนหิน
ภายในถ้ำธรรมทัศน์
และภายในวัดมีน้ำตกไหลผ่านอีกด้วย ช่วยให้ร่มรื่นขึ้น
ไปอีก
น้ำตกภายในวัดถ้ำพระโพธิสัตว์
อีกจุดที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดในการเยี่ยมชมวัดนี้ได้แก่ รอยแกะสลักอักษรพระปรมาภิธัย จ.ป.ร. ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) ที่ได้สลักอักษรไว้ในการเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2493 บริเวณถ้ำธรรมทัศน์
รอยแกะสลักอักษรพระปรมาภิธัย จ.ป.ร.
ที่ตั้ง: ชุมชน บ้าน น้ำพุ หมู่ 10 ตำบล ทับกวาง อำเภอแก่งคอย สระบุรี 18260
ช่องทางติดต่อ: https://www.facebook.com/Watthamprapothisat/
โฆษณา