11 ต.ค. 2020 เวลา 03:16 • การศึกษา
EP12….My Dirty Little Secret..
*คำเตือน..คดีนี้เนื้อเรื่องค่อนข้างยาวเพราะมีตัวละครหลายคน**
Gulfport เป็นชุมชนเล็กๆ ที่อยู่ติดกับชายหาดทิวทัศน์งดงาม มันเป็นเมืองที่เงียบสงบในใจกลางของรัฐฟอริด้า ผู้คนที่นี่มักจะรู้กันเป็นอย่างดี
Karen Gregory แฟนสาวของ David Mackey สองคู่รักย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ในปี 1984 David ทำงานเป็นนักบำบัดให้กับสัตว์แพทย์ชาวเวียดนาม พวกเขาทั้งสองคนรู้จักกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในตอนนั้น Karen ยังเป็นพนักงานเสิรฟ์ในร้านนี้ ก่อนจะหันเหมาทำงานด้านกราฟฟิคดีไซน์
พวกเขาเดทกันมา หนึ่งปีก่อนจะตัดสินใจย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน เพื่อจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแบบจริงจัง แต่ว่าการใช้ชีวิตคู่ของพวกเขาก็อยู่ได้แค่เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น
วันหนึ่ง David ต้องเดินทางไปประชุมต่างเมือง เขาบอกกับ Karen ว่าเมื่อถึงที่หมายเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะติดต่อเธอมาในทันที ในวันเดียวกันเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก David เดินทางไปแล้ว เขาก็ถึงห้องพักในช่วงค่ำ เขาโทรหาพ่อแม่ของเขาตามปกติที่เคยทำ จากนั้นเขาจึงติดต่อ Karen แต่ก็ไม่ได้รับสายใด ๆ เขาพยายามติดต่ออยู่เป็นชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่า Karen จะมารับโทรศัพท์แต่อย่างใด
สุดท้ายจึงได้โทรหา Barbara เพื่อนของเขาให้ช่วยไปเช็ค Karen ที่บ้านหน่อย เพื่อจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น Barbara รับปากว่าจะไปที่บ้านของ David ในเช้าวันรุ่งขึ้น บ้าน
ของเธออยู่ไม่ห่างจากบ้านของพวกเขามากนัก
David Mackey และ Karen Gregory
เช้าวันรุ่งขึ้น Barbara เดินทางไปที่บ้าน Karen ระหว่างขึ้นบันไดไปบนบ้าน ประตูปิดเงียบเชียบ ไม่มีวี่แววของคนอยู่อาศัย เธอเดินไปเกือบถึงประตูบ้าน พบเศษกระจกตกเกลื่อนหน้าประตู แต่ก็ยังมองไม่เห็น Karen อยู่ดี ข้างในออกจะมืดนิดหน่อย พลันสายตาเหลือบไปเห็นมุ้งลวดข้างประตู มันโดนกรีดยาวอย่างผิดปกติ เธอเอียงคอเหลือบไปผู้หญิงนอนอยู่บนติดกับโซฟา แต่ว่าเลือดท่วมตัวไปหมด
ผู้หญิงคนนั้นคือ Karen...
Barbara เรียกรถตำรวจทันที เมื่อตำรวจมาถึงก็พบร่างไร้วิญญาณของ Karen จมอยู่กับกองเลือด มองปราดเดียวก็รู้ว่าเธอโดนแทงหลายแผล เมื่อตรวจจากร่างกายก็พบว่าเธอโดนข่มขืนทางเพศอีกด้วย
ในห้องน้ำมีรอยเท้าบนพื้นอยู่บ้าง เมื่อฉีดสาร Luminor ก็พบกับรอยเท้าเปล่าทั่วห้องน้ำ ไปจนถึงห้องนั่งเล่นที่พบศพ รอยเท้านั่นเป็นทางไปมาระหว่างตัวศพกับห้องน้ำ
ตำรวจพอจะเดาออกว่าน่าจะเป็นของคนร้าย พวกเขายังพบรอยนิ้วมือในบ้านอีกด้วย อีกทั้งรู้ว่า Karen พยายามดิ้นรนต่อสู้กับคนร้ายสังเกตได้จากเศษข้าวของเครื่องใช้ที่ตกอยู่ในบ้าน
บ้านของ David และ Karen
การจับตัวหาฆาตกรคงไม่ยากเท่าไหร่...ตำรวจส่งรอยเท้าไปตรวจสอบต่อที่แล็ป
ร้อยโท Larry Tosi เป็นหนึ่งในตำรวจที่รับคดีนี้ เขาได้ลองสอบถามเพื่อนบ้านละแวกนั้น เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือน่าสังเกตบ้างไหม ส่วนใหญ่บอกว่าได้ยินเสียงกรีดร้อง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะบ้างคิดว่าเป็นเสียงเด็กร้อง หรือเป็นเสียงแมวบ้าง พวกเขาบอกว่าถ้าได้ยินอีกรอบก็คิดว่าน่าจะเป็นเสียงคนแล้วถึงจะแจ้งความ แต่เสียงนั้นก็เงียบไป
1
หนึ่งในเพื่อนบ้านที่สอบถามคือ George Lewis ซึ่งเป็นอาสาสมัครที่ถูกคัดเลือกเพื่อทำตำแหน่งนักดับเพลิงในเมืองและเขาก็คอยเป็นหูเป็นตาให้กับชุมชนในทุกๆ เรื่อง หากใครต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไร George มันจะเป็นอันดับต้นๆ ที่พวกเขาคอยนึกถึงและพึ่งพา
George เป็นเพื่อนกับ Tosi มานาน ต่างคอยช่วยเหลือกันและกันเป็นอย่างดี Tosi มักจะไปหา George ที่บ้านเพื่อสังสรรค์บ่อยๆ สำหรับงานนี้ Tosi ก็ต้องพึ่ง George ด้วยเช่นกัน เพราะบ้านของเขาอยู่ตรงข้ามกับ David และ Karen อาจจะมีอะไรที่พอจะเข้าท่าได้มั่ง
ร้อยโท Larry Tosi ในปัจจุบัน (ซ้าย)
เขาบอกว่าได้ยินเสียงร้องเบาๆกลางดึกวันเกิดเหตุ แต่ก็ไม่ได้พบอะไรผิดปกติ แต่ในฐานะที่เขาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือชุมชน เขาคงต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย
Tosi ยินดีกับการช่วยเหลือของเขา และขอให้เขาช่วยเป็นหูเป็นตา เผื่อคนร้ายจะกลับมาดูที่เกิดเหตุอีกรอบ ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่อีกคน พบรถของ Karen จอดอยู่หน้าบ้านมีโน้ตติดแปะเอา มันเขียนว่า
“หวัดดี Karen ชั้นมาหาเธอแหนะ แต่ไม่เห็นเงาของเธอเลยนะ ........ Peter”
ใครคือ Peter แล้วทำไมต้องเขียนในลักษณะนั้นด้วย ตำรวจลองสอบถามเพื่อนอีกทีว่ามีใครชายผู้นี้บ้าง เพื่อนบ้านบางคนบอกว่า มีชายคนหนึ่งขับรถมาจอดรถหน้าบ้านของ David และ Karen แต่ไม่ทันได้เห็นหน้า เขาเคาะประตูบ้านสักพัก แล้วก็ดูรอบๆหน้าต่าง จากนั้นก็ขึ้นรถกลับไป
1
แอบส่องในบ้านจะไม่เห็น Karen นอนจมกองเลือดเลย
เหรอ...มันฟังดูแปลกๆ..
ตำรวจต้องการเจอ Peter ผู้นี้ซะแล้ว ระหว่างทำการตรวจสอบภายในบ้าน Tosi ได้รับสายโทรศัพท์โทรมาที่บ้านของ Karen ปลายสายบอกว่าเขาชื่อ Peter
Tosi ซักรายละเอียด ชายผู้นี้ชื่อว่า Peter Kumble ซึ่งเป็นอดีตคู่รักของ Karen เขาบอกว่าเขาแค่มาทักทาย Karen เนื่องด้วยงานเขาต้องมาดูพื้นที่บ้านในละแวกนั้นแค่นั้นเอง
Tosi จึงเชิญเขาเข้ามาคุยเพิ่มเติมที่โรงพัก ระหว่างการสอบถาม Tosi เห็นมือของเขาพันแผล และตามแขนก็มีรอยข่วนบ้างนิดหน่อยจึงได้เอ่ยถาม Peter บอกว่า เขาซ่อม
รั้วบ้านแล้วลวดก็บาดมือเขา
แล้วโน๊ตที่เขียนถึง Karen ล่ะ Peter บอกว่า เขาอยากเจอ Karen และ Karen เอง ก็ชวนเขาทานมื้อเย็นในฐานะเพื่อนที่ดีคนหนึ่งก็แค่นั้น แต่ Tosi รู้สึกแปลกใจที่ Karenมาชวนอดีตคู่รักมาทานมื้อเย็นที่บ้านในระหว่างแฟนของเธอไม่อยู่เนี่ยนะ
Tosi เดาว่าเป็นไปได้ว่า Peter ยังคงคิดถึง Karen เขาอยากกลับมาคืนดีกับเธอ และแน่นอนว่าคงจะต้องโดนปฏิเสธ สุดท้าย Peter ทำใจไม่ได้ จึงก่อเหตุขึ้น
นั่นก็เป็นการคาดเดาของเขาแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ต่อให้คิดเป็นจริง เมื่อไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า Peter ทำแน่ๆ พวกเขาก็ทำได้แค่ขอให้ Peter พิมพ์ลายนิ้วมือและเท้า และปล่อยตัวไป
ทุกคนมักจะชื่นชมความสวยของ ​Karen
แต่ไม่พบร่องรอยทั้งสองอย่างจาก Peter ส่วนเป็นของ David และ Karen เอง ในคดีนี้ ตัด David ออกไปได้เลย เพราะ Karen ถูกฆ่าระหว่างที่เขากำลังเดินทางไปประชุมที่ Road Island เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมาทันในช่วงเวลานั้น
งานที่เคยคิดว่าหมูๆ มันไม่หมูอย่างที่คิดแล้ว หลักฐานที่มีอยู่ผูกมัดใครไม่ได้เลย ..
Peter กลับมาบ้าน 2-3 อาทิตย์ให้หลัง เขาพบกับ Tosi คราวนี้เขาโดนเข้าเครื่องจับเท็จ แต่เขาก็ผ่านมาได้ด้วยอีกเช่นกัน Tosi จึงต้องตัด Peter ออกจากการเป็นผู้ต้องสงสัยอีกคน
ระหว่างที่ยังมืดแปดด้านกับคดี George แวะเข้ามาพบ Tosi เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าในคืนเกิดเหตุ เขาจำได้ว่ามีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินไปมาแถวบ้าน Karen พร้อมให้สเก๊ตภาพของชายคนดังกล่าว มันไปตรงกับชายที่ชื่อว่า Peeping
1
Tom ซึ่งมีประวัติเหยียดผิว เขาเคยถูกรายงานจากหญิงสาว อเมริกัน-แอฟริกันว่า Tom มาแอบดูหน้าต่างบ้านเธอเป็นประจำ เขาอาจจะเป็นคนลงมือสังหาร Karen ก็เป็นได้ เพราะ David มีเชื้อสายอินเดียแดง-แอฟริกัน ในขณะที่ Karen ซึ่งเป็นคนอเมริกัน สิ่งนี้อาจจะไม่ถูกใจ Tom ก็เป็นได้
George Lewis
แต่เมื่อมีการตรวจสอบหลักฐานพยานเพิ่มเติมก็พบว่า Tom ได้ออกเรือประมงไปพร้อมกับเพื่อนในช่วงเกิดเหตุ เขามีหลักฐานชัดเจน นั่นจึงต้องตัด Tom ออกไปจากผู้ต้องสงสัยอีกราย
งานนี้จึงต้องกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง....
Tosi เริ่มมึนตึบกับการหาคนร้าย เขาแวะไปหา George เผื่อได้ข้อมูลอะไรในแถวบ้านบ้าง แต่ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมจากเดิม George บอกข่าวดีว่าเขากำลังจะแต่งงานกับแฟนสาวของเขา และขอให้ Tosi เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานเขาอีกด้วย Tosi ยินดีกับเพื่อน อย่างน้อยก็มีข่าวดีบ้างในช่วงนี้
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ แต่ความคืบหน้าในคดีนี้ก็ยังไม่มี..
คืนหนึ่ง Tosi ได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วยของเขาว่า เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านของ Karen ไปถึงสี่บล็อกด้วยกัน ถึงได้ยินเสียงกรีดร้องของ Karen แต่ในขณะที่ Georgeอยู่บ้านตรงกันข้ามกับ Karen แถมยังออกมากลางถนน กลับบอกว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
Tosi ตัดสินใจลองเรียก George เข้ามาคุยรายละเอียด แต่ Tosi กลับถูกปฏิเสธพร้อมกับข้ออ้างว่าติดธุระ Tosi ติดต่อไปอีกสองสามครั้งแต่ก็ต้องมีเหตุที่โดนปฏิเสธทุกครั้ง
สุดท้าย George มาที่โรงพักพร้อมบอกว่าเขาเคลียร์งานเรียบร้อยแล้ว Tosi ให้เพื่อนเจ้าหน้าที่อีกคนเป็นคนซักถาม George แทน และขอพิมพ์ลายนิ้วมือและเท้าเขาไปด้วย ขณะเดียวกันก็ลองสอบถามเพื่อนบ้านเกี่ยวกับ George ทุกคนยืนยันว่าเขาเป็นคนดี คอยช่วยเหลือ และมีน้ำใจมาก
Tosi ในสมัยยังคงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่มีอยู่คนหนึ่งบอกว่าจริงๆ แล้ว George ก็มีด้านมืดอยู่เหมือนกัน เขาดูน่ากลัวและทำตัวแปลกๆ วันหนึ่งในขณะที่เขาและ George นั่งอยู่หน้าบ้าน Karen เดินออกมาพร้อมกับชุด
บิกินี่ เธอทักทายคนทั้งสองและไปที่สนามบ้านเพื่อปูเสื่อและอาบแดด
เพื่อนบ้านคนนี้บอกว่า George ได้เอ่ยมาว่า เขาฝันถึง Karen มาตลอดอาทิตย์ และแอบบ่นว่าเสียดายที่ต้องมาอยู่กับไอ้งั่งผิวดำ เขายังแอบจินตนาการว่าถ้า Karen เปลือยกายจะเป็นยังไง
1
เห็นได้ว่า George มีควาดเกลียดชังคนสีผิว Tosi ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาจากอดีดภรรยาของ George ถึงพฤติกรรมของเขาอีกว่า George มีอารมณ์ค่อนข้างแปรปรวน และอารมณ์รุนแรงก้าวร้าว นั่นคือเหตุผลที่เธอขอหย่ากับเขาหลังจากแต่งงานกันไม่ถึงปี
Tosi ตัดสินใจส่งลายนิ้วมือและเท้าไปที่ควอนติโก แล็ปที่มีความพร้อมมากกว่าเพื่อมั่นใจว่าไม่มีการผิดพลาด เขาเป็นห่วงเพื่อนแต่ในขณะเดียวกันเขาเองก็อยากยืนยันว่าสิ่งที่เขาคิดว่าอาจจะไม่เป็นจริง
George ถูกเรียกไปเข้าเครื่องจับเท็จ ผลปรากฎว่าเขาไม่ผ่าน Tosi ซักถามเขาเพิ่มเติมและพบว่าเขาโกหกเรื่อง Peeping Tom
คราวนี้ George กลับลำบอกว่า เขาเห็นชายคนนั้นก็จริงแต่มันคล้ายกับ Peeping Tom ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่สามารถยืนยันได้
100 เปอร์เซ็นต์ว่าใช่หรือไม่ อีกเรื่องคือ เขาต้องการปกป้องครอบครัวของเขา เพราะชายคนนั้นใช้มีดขู่ว่าถ้าเขาบอกตำรวจ ครอบครัวเขาจะเป็นอันตราย
2
Tosi เริ่มไม่เชื่อเพื่อนแต่ต้องปล่อยตัวเขาไป เพราะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดว่าเขาคือฆาตรกร ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Tosi ได้รับรายงานผลลายนิ้วมือและเท้าของ George
1
ผลยืนยันว่ามันเป็นของ George...
George ในวันขึ้นศาล
Tosi เสียใจกับการกระทำของเพื่อนอย่างมาก เขาเรียก George ไปซักถามพร้อมกับหลักฐาน คราวนี้ Georgeยอมรับว่า เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของ Karen จริง เขาจึงเข้าไปในบ้าน และพบว่า Karen ตายไปแล้ว เขาไม่รู้จะทำอย่างไร เขาจึงเข้าไปห้องน้ำเพื่อล้างเลือดของ Karen ที่เปื้อน และเขาก็กลัวว่าฆาตรกรจะกลับมาเล่นงานเขาเพราะเขาเห็นศพ Karen
แต่เรื่องของเขาไม่มีใครเชื่อ George เขาถูกจับในข้อหาเป็นผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม Karen Gregory
Tosi โดนเพื่อนบ้านในละแวกนั้นต่อว่าๆ จับกุมผิดคน
เมื่อขึ้นศาล George สารภาพว่าเขาเป็นคนฆ่า Karen ในคืนเกิดเหตุ เขาทะเลาะกับภรรยา เพราะการแต่งงานไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เขาดื่มเหล้าเมามายหน้าบ้าน และเหลือบไปเห็น Karen จากทางหน้าต่าง เขาตรงไปเคาะประตู และบอกว่าภรรยาเขาปวดหัวอย่างหนัก จะมาขอยาไปให้เธอ
แต่เมื่อเข้าไปในตัวบ้าน เขาข่มขืน Karen แน่นอนว่าเธอต่อสู้ และจะเอาเรื่องเขาไปฟ้องตำรวจ George เกิดกลัวว่าชื่อเสียงของเขาจะหายไป เขาหยิบมีดและแทงเธอไป 21 แผล
Karen สิ้นใจทันที..
กลุ่มคนที่เคยเข้าข้าง George ออกมาถือป้ายให้เขาเข้าคุก
ลูกขุนใช้เวลาตัดสินไม่นาน George ถูกตัดสินจำคุกไม่ต่ำกว่า 25 ปี แต่เขาใช้เวลาในคุกเพียง 27 ปีก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี 2014...
George ในตอนวัยแก่ เขาตายในคุกด้วยโรคมะเร็งในปี 2014
เครดิตเรื่องต้นฉบับ / the perfect murder
ภาพ: google/youtube
**ติดตามคดีที่สืบจากนิติวิทยาศาสตร์ได้ทุกวันอาทิตย์ค่ะ****
***ถ้าชอบฝากกดไล์ค กดติดตามและแชร์ด้วยนะคร่า****
โฆษณา