ซีรีส์ . . . เดินตามรอยเท้าพ่อ
ตอน ความทรงจำ (1)
🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏
ผ่านไปอีกปีแล้วซินะ ...
วันที่ 12 ตุลาคม 2559
วันนั้นเมื่อหลายปีก่อน ฉันไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ ข่าวหลายกระแสเริ่มแพร่ออกมาเรื่อย ๆ เกี่ยวกับองค์พ่อหลวงของเรา กระทั้งว่าพระองค์ทรงสวรรคตแล้วก็มี
แม้จะไม่เชื่อในข่าวลือนั้น แต่ใจคอฉันก็ไม่ปกติเลย ไม่ว่าจะพยายามไม่คิดซักเท่าใด ในที่สุดฉันตัดสินใจกลับเข้ากรุงเทพฯ
.
.
คนมากมายที่สวมเสื้อสีชมพูบ้าง สีเหลืองบ้างไปรวมตัวกัน เพื่อสวดมนต์บทโพชฌังคปริตรและทำสมาธิ เพื่อถวายพระพรให้กับองค์พ่อหลวง ที่ลานหน้าพระรูปพระบิดา และบริเวณรอบ ๆ อาคารเฉลิมพระเกียรติ สายตาของพวกเขามองขึ้นไปบนชั้น 16 อันเป็นที่ประทับขององค์พ่อหลวงเป็นครั้งคราว
เพื่อนฉันหลายคนตามมาสมทบในตอนเย็นหลังเลิกงาน เราได้แต่มองตากัน โดยไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก ต่างคนต่างเข้าใจความรู้สึก
เราแยกย้ายกันกลับบ้านเกือบสี่ทุ่มในคืนนั้น และตั้งใจจะมาอีกในวันรุ่งขึ้น
.
.
วันรุ่งขึ้นวันที่ 13 ตุลาคม 2559
ฉันออกจากบ้านเพื่อไปที่โรงพยาบาลศิริราชประมาณหลังเที่ยง การจราจรไม่เป็นใจนัก ฉันยืนอยู่บนรถท่ามกลางการจราจรที่ติดขัดอยู่แถวถนนราชดำเนินนอก
. . . . . อีกไม่ไกลแล้วฉันจะได้ไปหาพ่อ
ระหว่างนั้นมีรถตำรวจคล้ายรถนำขบวนเปิดสัญญานไซเรนผ่านมา เสียงสัญญานนั้นช่างโหยหวลเหลือเกิน ฉันใจสั่นขาสั่น น้ำตาพาลจะไหลโดยไร้สาเหตู ใจร่ำร้องว่า “พ่อจ๋า พ่อรอหนูด้วย” ฉันช่างคิดร้ายมาก ๆ
.
.
ฉันมาถึงโรงพยาบาลศิริราชก่อนบ่ายสามโมง
วันนี้มีคนมากมายกว่าเมื่อวาน สายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ ทำให้ต้องย้ายมานั่งเบียดเสียดกันภายใต้อาคาร เรายังคงสวดมนต์บ้าง ร้องเพลงเทิดพระเกียรติบ้าง เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” บ้าง
ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน กว่าจะสังเกตุเห็นว่าเริ่มมีผู้คนที่จับกลุ่มคุยกัน เช็คข่าวกันวุ่นวาย โดยเฉพาะกลุ่มนักข่าวทั้งในและต่างประเทศที่ตั้งกล้องอยู่ไม่ไกล
ช่วงเวลาอันสับสนนั้นเหมือนนานชัวกัปชั่วกัลป์ ฉันพยายามเช็คข่าวบ้าง แต่โทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมหมุนติ้ว ๆ อยู่อย่างนั้น
.
.
จากนั้นไม่นาน เราเริ่มได้ยินคนพูดในสิ่งที่เราทุกคนต่างหวาดหวั่น
ทั้งที่พยายามเตรียมใจ เมื่อถึงเวลานั้นจริง
จึงรู้ว่า “ใจนั้น .. ไม่ได้เตรียม”
.
.
เสียงผู้คนที่เคยเปล่งว่า “ทรงพระเจริญ” กลับกลายเป็นเสียงกรีดร้องร่ำไห้ ระงมไปทั่วบริเวณ
ฉันจำได้ว่า พวกเราที่อยู่ในที่นั้น ต่างโผกอดกัน . . .
ร้องไห้ ความอ้างว้างวิ่งเข้าจับขั้วหัวใจ
“พ่อจ๋า ไม่มีพ่อแล้ว ลูกจะอยู่กันอย่างไร”
.
.
เรานั่งอยู่ที่นั้นจนค่ำ ปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาโดยไม่ต้องเก็บกลั้นอีกต่อไป พรุ่งนี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร ..
ฉันกลับมาบ้าน พร่ำบอกตัวเองว่า “ลูกพ่อต้องเข้มแข็ง”
คืนนั้นฉันนอนไม่หลับเลย ทั้งที่รู้สึกอ่อนเพลียมาก จนตี 4 จึงเตรียมตัว .....
.
.
.... วันนี้ฉันจะไปรอพ่อ
พ่อจะกลับออกจากโรงพยาบาลแล้ว
กลับไปอยู่ในปราสาทราชวังที่เป็นของพ่อ ...
แต่ฉันว่า พ่อของฉัน ท่านชอบอยู่ที่ทุ่งหญ้าป่าเขา เพื่อดูแลลูก ๆ ของท่านมากกว่า
.
.
... ฉันจะไปนั่งแถวหน้าเลย ....
... ฉันอาจจะไม่ได้เห็นพ่อ
... แต่ฉันอยากให้พ่อเห็นฉัน ...
... พ่อจ๋า พ่อเห็นหนูมั๊ย ...
.
.
ฉันไปถึงสนามหลวงเมื่อฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ทุกอย่างยังเงียบเชียบ
... โลกเป็นเช่นนี้ทุกวัน หรือโลกเปลี่ยนไป !!
... โลกในใจฉัน มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว !!
.
.
เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ฉันนั่งอยู่ริมถนนเป็นเวลาครึ่งค่อนวัน บนพื้นคอนกรีตร้อนระอุ นับจากวันนี้ฉันจะต้องฝึกฝนตนเองให้มากขึ้น
... พ่อจ๋า .. เป็นกำลังใจให้หนูนะ ...
.
.
ผู้คนทะยอยกันมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่ที่เคยโล่ง ตอนนี้ไม่มีที่ว่าง
แม้ว่าฉันจะไม่ได้นั่งแถวหน้าอย่างที่ตั้งใจ เพราะจำนวนผู้คนที่ล้นหลาม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยอมให้คนที่มาทีหลังเข้าไปนั่งบนพื้นที่จราจรบนถนนจนเกือบติดกับช่องทางเสด็จพระราชดำเนินเลยทีเดียว
.
.
และแล้ว เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ...
ฉันชะเง้อคอดูรถตู้โฟล์กสวาเกน สีบรอนซ์เงินคาดสีฟ้า ที่เคลื่อนใกล้เข้ามาช้า ๆ
... ใจฉันอยากมองภาพตรงหน้าให้เต็มตาเต็มหัวใจเป็นที่สุด แต่ฉันทำได้เพียงก้มศีรษะลงต่ำจรดพื้นเมื่อรถเคลื่อนผ่าน มองไม่เห็นสิ่งใดด้วยม่านน้ำตาที่พร่างพรู หูได้ยินแต่เสียงสำอึกสะอื้นของตนเองและผู้คนโดยรอบ
“พ่อจ๋า ลูกจะเข้มแข็ง และจะเป็นคนดี”
🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏
............
โดยปกติ ฉันจะลงบทความในซีรีส์ เดินตามรอยเท้าพ่อ ในวันพุธ แต่สัปดาห์นี้ขอทำเป็นสัปดาห์พิเศษ เพื่อรำลึกถึงองค์พ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ผู้สถิตในดวงใจของลูกตราบนิรันดร์ค่ะ
ติดตามบทความใน ซีรีย์. . เดินตามรอยเท้าพ่อ
ได้ที่ลิงค์นี้นะคะ 👇
🙂🙂🙂🙂😘
ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีกำลังกายที่เข้มแข็ง และมีกำลังใจที่แข็งแกร่งค่ะ
🌹🌹🌹🌹🌹
สวัสดีนะคะ
คนไทยตัวเล็กเล็ก
12 ตุลาคม 2563
ขอบคุณภาพบางส่วนจากสำนักข่าวและภาพจากอินเตอร์เน็ต