เหตุการ์ณเกิดจากแอดมินได้ตื่นเช้าวันแรกของประเทศอินเดีย แล้วต้องออกไปหา
ซื้ออะไรกินเวลาประมาณ 8.00 โมงเช้า เดินออกจากห้องแล้วถามเจ้าของบ้านเช่าว่า ร้านที่ไหนมีขายของกินไหม เขาขำมาก 555 แอดมินเลยนึกในใจ
มึงขำอะไรของมึงว่ะ ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ พึ่งรู้พ่ายหลังว่าคนประเทศอินเดียเริ่ม
เปิดร้าน 9-10 โมงเช้า 55555
.
เป็นจุดเริ่มต้นได้บทเรียนจากอินเดีย และ เปลี่ยนกระบวนการคิดใหม่ หลังจากนั้น
เลยเดินเท้าออกไปชมวิวรอบๆบ้านและซอยแถวหอพักเพื่อดูอะไรใหม่ๆ
.
สิ่งที่เปลี่ยนแอดมินจริงๆเริ่มจากตรงนี้เลย เดินผ่านหลังบ้านแห่งหนึ่ง
มีคนแก่นั่งหน้าบ้าน 2-4 คน พวกเขาตั้งตาตั้งใจในการหนังสือพิมพ์ บางคนอ่าน
หนังสือด้วย แอบคิดในใจว่าทำไมพวกเขาตั้งใจอ่านหนังสือมาก ตัดมาภาพที่ตัวเองไม่เคยได้อ่านหนังสือเลย วันๆไม่เคยคิดจะอ่านหนังสือด้วยซ้ำ นอกจากเล่น FACEBOOK IG ไปวันๆ ฟังแล้วเจ็บใจ แต่มันคือเรื่องจริงของชีวิตแอดมิน
.
หลังจากกลับบ้านคืนวันนั้นเลย แอดมินนอนบททวนตัวเองในห้องคนเดียว
และพยายามถามตัวเองว่า การมาเรียนภาษาที่นี้ไม่ใช่แค่เรียนเสร็จแล้วกลับบ้าน
นอนไปวันๆแน่นอน
.
เพราะแอดมินเริ่มคิดว่าการเรียนในห้องเป็นแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ และ
กระบวนการเรียนรู้จริงๆ ต้องการเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนความคิดหรือ
MINDSETตัวเองก่อน และเป็นจุดเริ่มต้นวันที่แอดมินทิ้งระบบการคิดของตัวเอง
แบบเดิมๆ
.
แอดมินคิดว่าการเรียนรู้ในห้องอย่างเดียวไม่พอสำหรับตัวเองแล้ว เป็นจุดเริ่มต้นจากการแอดมินออกไปซื้อหนังสือมือสองเล่มหนึ่ง ราคา 100 รูปี ราคาไทยประมาณ 40 บาท ถูกมากหนังสือมือสองประเทศอินเดีย เพื่อเป็นการปลุกไฟให้ตัวเอง
อ่านหนังสือเล่มแรก
.
การที่แอดมินจะอ่านหนังสือเล่มแรกได้ ไม่ได้เกิดจากการอยู่ๆแล้วออกไปซื้อหนังสือมาอ่านแล้วจบ
.
มันเกิดจากกระบวนทางความคิด หรือ MINDSET แอดมินเริ่มต้นจากการเปลี่ยนความคิดตัวเอง บททวนตัวเองเยอะๆ ยิ่งถามตัวเองก่อนนอนโครตดีมาก ดูคนแก่หน้าบ้านที่แอดมินเล่าก่อนหน้านี้ 2 - 4 คน นั่งตั้งตาตั้งใจในการหนังสือ แล้วมามองตัวเองและเทียบกับชีวิตตัวเองตอนนั้น ต่อมา....