Samsung บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้ มีกำไรในไตรมาสล่าสุด สูงถึงกว่า 3.3 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 2 ปี !!!
Samsung บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้ มีกำไรในไตรมาสล่าสุด สูงถึงกว่า 3.3 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 2 ปี !!!
Samsung Electronics บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) ของปีนี้ พบว่า มีรายได้เพิ่มขึ้น 6.5% จากที่ที่แล้ว อยู่ที่กว่า 66 ล้านล้านวอน หรือราว 1.79 ล้านล้านบาท ทำลายสถิติรายได้สูงสุดที่ Samsung ได้เคยทำไว้ช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงไตรมาส 4 ปี 2017 อยู่ที่ 65.98 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 1.78 ล้านล้านบาท และยังใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 63 ล้านล้านวอน
มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 12.3 ล้านล้านวอน หรือราว 3.32 แสนล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 58.1% จากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 7.78 ล้านล้านวอน แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2018 ที่มีกำไรประมาณ 10 ล้านล้านวอน หรือกว่า 2.7 แสนล้านบาท อีกทั้งยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ถึง 26%
ขณะที่ สัดส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้ในไตรมาสล่าสุดนี้ อยู่ที่ระดับ 18.6% ซึ่งสูงกว่าในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสสอง ที่มีสัดส่วน 11.6% และ 15.4% ตามลำดับ โดยจะมีการประกาศรายได้สุทธิและรายได้ของแต่ละธุรกิจอีกครั้ง ในช่วงปลายเดือน ต.ค. นี้ หลังจากผ่านการตรวจสอบและได้รับอนุมัติแล้ว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นนักวิเคราะห์คาดว่า กำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นมาจากยอดขายสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ Samsung ทำตลาดมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงยอดขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น หลังบริษัทพยายามปรับตัวต่อผลกระทบในระยะยาวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ถึงแม้ว่ารายได้ของ Samsung ในช่วงต้นปีนี้ จะตกต่ำลง จากสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนอย่างหนัก ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคที่หดตัวลงอย่างมาก ส่งผลทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนหดตัวลงตามไปด้วย แต่บริษัทก็มีรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น จากยอดขายเมมโมรีชิป ในช่วง Lockdown ที่ผู้คนจำเป็นต้องกักตัวหรือทำงานที่บ้าน
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานของ Samsung จะอยู่ที่ 10.1 ล้านล้านวอน ขณะที่ บริษัท Samsung ประมาณการผลกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้ไว้สูงที่สุดนับตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2018 ที่บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดอยู่ที่ 10.8 ล้านล้านวอน
นอกจากนี้ เมื่อไตรมาสที่แล้ว Samsung ยังมีแนวโน้มอนาคตที่ดียิ่งขึ้น หลังได้ลงนามในข้อตกลงจัดหาอุปกรณ์เครือข่ายมูลค่ากว่า 6.65 พันล้านเหรียญฯ ร่วมกับบริษัท Verizon Communications เป็นระยะเวลานาน 5 ปี เพื่อมุ่งที่จะคว้าส่วนแบ่งการตลาด 5G ในสหรัฐฯ และยุโรปเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Samsung จะถูกคู่แข่งรายสำคัญจากจีนอย่าง Huawei ก้าวขึ้นมาแซงหน้า Samsung ขึ้นมากลายเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกแทน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านการเมือง การค้า และเทคโนโลยี ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้สถานการณ์ต่างๆ กลับมาผันผวนอีกครั้ง โดยยอดขายสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ
ซึ่งตัวเลขผลประกอบการของ Samsung ในไตรมาส 3 นี้ ถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเทรนของธุรกิจด้านเทคโนโลยีจะดำเนินต่อไปในทิศทางใด หลังจากที่ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ขณะที่ นักวิเคราะห์หลายฝ่าย มองว่าตลาดเทคโนโลยีทั่วโลกจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง
สิ่งที่น่ากังวลสำหรับ Samsung นั้น คือตลาดในประเทศจีน ซึ่งจีนนั้นครองส่วนแบ่งยอดขายสมาร์ทโฟน 5G ทั่วโลกมากที่สุด ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ และจีนครองส่วนแบ่งยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกมากกว่า 34% เนื่องจากประเทศจีนมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยสมาร์ทโฟนแบรนด์ Huawei มีส่วนแบ่งยอดขายทั่วโลกในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ สูงสุดที่ 20% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ Huawei มียอดขายและปริมาณส่งมอบแซงหน้า Samsung
📲 เปิดพอร์ตหุ้นไทย/ต่างประเทศ, ออมหุ้น (DCA), กองทุน หรือ TFEX คลิกที่ "Contact Us" ด้านล่างนี้ครับ 👇👇👇
#คลินิกการลงทุน
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
