[Intrigue Investor] 💡 แนวคิดการลงทุน ตอนที่ 1 การลงทุนและวิธีเลือกหุ้นดี ของคุณกวี ชูกิจเกษม การเฟ้นหาหุ้นพื้นฐานดีจากหุ้น 800 กว่าตัวในตลาดหลักทรัพย์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด วันนี้ผมจะพาผู้อ่านให้รู้จักกับเทคนิคก

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

14 ต.ค. 2020 เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

💡 แนวคิดการลงทุน ตอนที่ 1 การลงทุนและวิธีเลือกหุ้นดี ของคุณกวี ชูกิจเกษม

การเฟ้นหาหุ้นพื้นฐานดีจากหุ้น 800 กว่าตัวในตลาดหลักทรัพย์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด วันนี้ผมจะพาผู้อ่านให้รู้จักกับเทคนิคการเฟ้นหาหุ้นพื้นฐานดีจากแนวคิดของคุณกวี ชูกิจเกษมกันครับ

หมายเหตุ บทความนี้เกิดจากการสรุปเนื้อหาวีดีโอการสอนของคุณกวี เรื่องเทคนิคการหาหุ้น และการประเมินราคาหุ้น เมื่อปี 2557

youtube.com

รวม 19 ตอน ”เทคนิคการหาหุ้น และการประเมินราคาหุ้นโดย” คุณกวี ชูกิจเกษม รอง MD บล กสิกรไทย YouTube

Credit : Dr.Weraphong Chutipat: A Columnist in กรุงเทพธุรกิจ โพสต์ทูเดย์ From : https://www.facebook.com/DoctorweClub?fref=ts

🚩 รู้จักกับคุณกวี

คุณกวี ชูกิจเกษม เป็นนักลงทุน VI และนักวิเคราะห์ที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

คุณกวีได้เขียนหนังสือที่เป็นแนวทางให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้าใจการลงทุนหุ้นในภาษาที่เข้าใจง่าย 2 เล่ม ด้วยกัน คือ

1). เพาะหุ้นเป็น เห็นผลยั่งยืน (ปัจจุบันพิมพ์ซ้ำครั้งที่ 12)

2). เพาะหุ้นเป็น เห็นผลยั่งยืน ตอนมหัศจรรย์ผลตอบแทน

ผลงานหนังสือของคุณกวี Cr.www.naiin.com

📌 แนวคิดการลงทุน

- "ลงทุนในหุ้น คุณคือเจ้าของ เมื่อใดก็ตามที่คุณคิดว่าการลงทุนในหุ้นคือการลงทุนทำธุรกิจ คุณจะเปลี่ยนแนวคิดในการวิเคราะห์หุ้นเพื่อการลงทุน" ก่อนซื้อหุ้นควรคิดว่าคุณอยากเป็นเจ้าของจริงหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะยาวหรือซื้อเพื่อเก็งกำไร

- การลงทุนในตลาดหุ้นต้องถามตัวเองก่อนว่าเป็นนักลงทุนประเภทไหน เป็น "นักลงทุน" หรือ "นักเก็งกำไร"

Cr. เริ่มจากหมื่น

นักเก็งกำไร (Speculator) จะให้มูลค่าหุ้นจากการดูราคาตลาด แพงถูกไม่สน สนเพียงแค่ว่าหุ้นจะขึ้น แพงเท่าไรก็ซื้อได้ สิ่งที่นักเก็งกำไรควรมี คือ วินัยสำหรับ Let Profit Run (ถ้ากำไรแล้วปล่อยให้หุ้นราคาขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบขาย) และ Stop Loss (ถ้าหุ้นราคาลงถึงจุดที่กำหนดจะขายก็ต้องขาย เพื่อหยุดการขาดทุน)

นักลงทุน (Investor) จะตัดสินราคาตลาดด้วยการพิจารณามูลค่า จะไม่ยอมซื้อหุ้นแพง

- คนที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนหุ้น

1). ต้องรู้ว่าเราเป็นใคร

2). ต้องรู้ว่าลงทุนอย่างไร และ

3). ต้องยึดมั่นในแนวทางนั้น

📌 การวิเคราะห์พื้นฐานของนักลงทุน

"ลงทุนในหุ้นนั้นเรียบง่าย แต่ไม่ง่าย" คุณกวีในฐานะที่เป็นลงทุน VI ยึดหลักการ 4 อย่าง คือ

"เลือกหุ้นดี ซื้อหุ้นถูก ถือหุ้นยาว และกระจายความเสี่ยง คือกุญแจสำคัญของความสำเร็จของนักลงทุน"

- การเลือกหุ้นดี มีหลักคิดง่าย ๆ ก่อนซื้อให้พิจารณาว่า 30 ปีข้างหน้าบริษัทนี้จะยังอยู่หรือเปล่า

- การซื้อหุ้นถูกนั้นต้องรู้จักการประเมินมูลค่าหุ้น

- สิ่งที่ยากที่สุดใน 4 หลัก คือการถือหุ้นยาว

- ความสำเร็จของการลงทุนหุ้น ขึ้นอยู่กับความทุ่มเทของนักลงทุนในการที่จะหาความรู้เพื่อการคัดเลือกหุ้นที่ดีเข้าพอร์ตการลงทุน

📌 การเลือกหุ้นดี และการประเมินจากงบการเงิน

นักลงทุนจะเลือกหุ้นไม่สนใจตลาด ถ้าเลือกหุ้นดีราคาหุ้นจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและความผันผวนน้อยกว่าตลาด แต่การเลือกหุ้นที่ดีอาจใช้เวลานานและใช้ความอดทนกว่าหุ้นนั้นจะให้ผลตอบแทนที่ชัดเจน

การเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นดี (สีเขียว) และหุ้นไม่ดี (สีแดง) เทียบกับ SET Index (สีเท่า)

หุ้นที่ดีอาจกลายเป็นหุ้นที่ไม่ดีถ้าพื้นฐานเปลี่ยน เช่น ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค

หลักการง่าย ๆ ที่จะทำให้มั่นใจว่าลูกค้าจะไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค คือ ให้มองย้อนหลังไปในอดีตหลายร้อยปี เช่น ในอดีตมีโรงแรม, การประกัน, อาหารและเครื่องดื่ม ในปัจจุบันก็ยังมี และในอนาคตก็จะยังมีต่อไป

📌 การประเมินบริษัทที่ดีจากงบการเงิน – งบการเงินคือลายแทงหาหุ้นคุณค่า

1). เป็นบริษัทที่มีกำไรเติบโตสม่ำเสมอในระยะยาว 🔎

- บริษัทที่ทำผลงานได้ดีในอดีต มีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีในอนาคต

- ประเมินด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น (Earning per share, EPS)

การคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้น

- บริษัทที่มี EPS เติบโตสม่ำเสมอในระยะยาว บ่งบอกถึงบริษัทกำลังขายผลิตภัณฑ์เดียวหรือหลายตัว ที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ อันเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายสูง

- บริษัทที่มี EPS สับสน อาจเป็นบริษัทในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ควรหลีกเหลี่ยงบริษัทที่มีกำไรสับสน ซึ่งบอกให้รู้ว่าบริษัทนี้กำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน หรือเป็นบริษัทที่มีภูมิคุ้มกันต่อภาวะเศรษฐกิจต่ำ

2). เป็นบริษัทที่มีอำนาจในการต่อรองกับลูกค้าได้สูง 🔎

- ลูกค้าไม่สามารถต่อรองราคากับบริษัท เช่น โรงพยาบาล ร้าน 7-11

- ประเมินด้วยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)

การคำนวณอัตรากำไรขั้นต้น

- บริษัทที่มีความได้เปรียบระยะยาว มักมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงอย่างสม่ำเสมอ และอาจไม่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้น

- อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงอย่างสม่ำเสมอหรือเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีอำนาจต่อรองกับลูกค้าได้สูง

- ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น บริษัทสามารถเพิ่มราคาขายเพื่อรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้สม่ำเสมอได้

- อัตรากำไรขั้นต้นสามารถลดลงได้บางช่วง หากบริษัทต้องทำการแข่งขัน

3). เป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจ 🔎

- ประเมินด้วยค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานต่อรายได้ ซึ่งบ่งบอกแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

การคำนวณค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานต่อรายได้

- ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานส่วนใหญ่เกิดจากการโฆษณา

- บริษัทที่มีตราสินค้า (Brand) ที่ดี จะมีอัตราส่วนนี้ค่อนข้างสม่ำเสมอ

- บริษัทที่มีอัตราส่วนนี้ลดลงเรื่อยๆ บ่งบอกว่าบริษัทนี้กำลังเป็นผู้นำในธุรกิจนั้น

- บริษัทที่มีอัตราส่วนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หมายถีงบริษัทที่ไม่มีความสามารถในการแข่งขัน

- ควรหลีกเลี่ยงบริษัทที่มีอัตราส่วนนี้สูงและเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อใดที่เศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทเหล่านี้มักประสบภาวะขาดทุน

4). เป็นบริษัทที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในอนาคต 🔎

- ประเมินด้วยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน ยิ่งมีค่าน้อยยิ่งดี ไม่มีเลยคือดีมาก

การคำนวณอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน

- บริษัทที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน ไม่ต้องการหนี้หรือมีความต้องการน้อยมาก เพราะบริษัทเหล่านี้จะทำกำไรได้มหาศาล และสามารถระดมเงินตัวเองเมื่อต้องการขยายบริษัทหรือซื้อกิจการโดยไม่ต้องกู้

- ควรหลีกเลียงบริษัทที่โตได้ด้วยหนี้

- บริษัทที่มีหนี้มาก เราควรเลือกไปลงทุนผ่านหุ้นกู้ของบริษัท เพราะบริษัทมุ่งใช้อำนาจในการทำกำไรเพื่อชำระหนี้

5). เป็นบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขัน 🔎

- ประเมินด้วยผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return on equity, ROE) บ่งบอกว่า ส่วนของผู้ถือหุ้นสามารถสร้างกำไรได้กี่เปอร์เซ็นต์

การคำนวณผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

- บริษัทที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน คือบริษัทที่มีค่า ROE สูงกว่าค่าเฉลี่ย

- นักลงทุน Value Investor ชอบลงทุนในหุ้นที่มี ROE มากกว่า 20%

- การที่มี ROE สูงหมายถึงบริษัทที่ใช้กำไรที่เก็บไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

- เราอาจไม่อยากให้บริษัทจ่ายเงินปันผลให้เรา หากบริษัทมีค่า ROE ที่สูง

6). เป็นบริษัทที่มีผู้บริหารมีฝีมือ และมีธรรมาภิบาล 🔎

ตอนนี้เนื้อหาตอนแรกของแนวคิดการลงทุนและวิธีหาหุ้นดีของคุณกวี ก็จบไปแล้วนะครับ 🎉🎉 ในตอนต่อไปจะสรุปวิธีการประเมินมูลค่าหุ้น เพื่อให้สามารถบอกได้ว่าหุ้นตัวนั้นๆ ในปัจจุบันถูกหรือแพงกันครับ

ถ้าผู้อ่านชอบบทความที่ผมเขียน รบกวนกดถูกใจ แชร์ หรือ Bookmark เก็บไว้อ่านทีหลังจะเป็นกำลังใจให้ผมมากๆ เลยครับ 🙏 หรือถ้ามีข้อติชมใดๆ คอมเม้นด้านล่างได้นะครับ ผมจะนำไปปรับปรุงต่อไป 😼

แหล่งข้อมูล

1. วีดีโอการสอนของคุณกวี เรื่องเทคนิคการหาหุ้น และการประเมินราคาหุ้น เมื่อปี 2557

https://youtu.be/zcc3neo82OQ

2. ข้อมูลหนังสือของคุณกวี

- เพาะหุ้นเป็น เห็นผลยั่งยืน www.naiin.com/product/detail/237880

- เพาะหุ้นเป็น เห็นผลยั่งยืน ตอนมหัศจรรย์ผลตอบแทน www.naiin.com/product/detail/203004

3. ประวัติคุณกวี ชูกิจเกษม www.hiclasssociety.com/?p=75200

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน