14 ต.ค. 2020 เวลา 04:41 • กีฬา
#ต้นตำรับมันนี่บอลกับลิเวอร์พูลและการรอคอย18ปีของจอห์นเฮนรี่
ตอนท้ายของภาพยนต์เรื่อง มันนี่ บอล มีฉากที่ จอห์น ดับเบิล ยู เฮนรี่ นั่งเจรจากับ บิลลี่ บีน เพื่อพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่จะมาร่วมงานกันที่ บอสตัน เร้ด ซ็อกซ์
นั่นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2002 หลังจาก บีน เขย่าวงการ เมเจอร์ลีก เบสบอล เนรมิต โอ๊คแลนด์ แอธเลติก ทำสถิติชนะ 20 เกมติดต่อกัน ด้วยการใช้หลัก "มันนี่บอล"
อย่างไรก็ตาม ในการพูดคุยครั้งนั้น บีน ปฏิเสธเงิน 12.5 ล้านเหรียญต่อปีที่เจ้าของ เร้ด ซ็อกซ์ เสนอให้ แล้วปักหลักทำงานกับ โอ๊คแลนด์ ต่อไป
ส่วน เฮนรี่ ที่ศรัทธาในปรัชญาของ บีน อย่างแรงกล้า ก็ยึดโมเดลนี้เป็นแม่แบบในการบริหารทีม บอสตัน เร้ด ซ็อกซ์ รวมถึง ลิเวอร์พูล ที่เขาไปเทคโอเวอร์ตอนปี 2010 จนประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ
ปัจจุบัน บีน มีบริษัทของตัวเองคือ เร้ดบอล แอ็คคิวส์ซิชชั่น คอร์ป (RedBall Acquisition Corp.,) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการซื้อหุ้นร่วมกิจการในวงการกีฬา
และเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล (The Wall Street Journal) สื่อการเงินชื่อดัง รายงานว่า เร้ดบอล แอ็คคิวส์ซิชชั่น คอร์ป จะเข้ามาซื้อหุ้นและควบรวมกับ เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (FSG)
ซึ่งหากบริษัทของ บีน ได้เป็นส่วนหนึ่งกับ FSG มันก็มีโอกาสที่เขาจะได้ทำงานเบื้องหลังกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งที่นี่ก็มีปรัชญาการทำทีมที่ไม่ได้ต่างจากตัวเขาเท่าไหร่เลย
...
บิลลี่ บีน เคยถูกมองว่ามีอนาคตสดใสสุด ๆ ตอนเล่นเบสบอล กับ นิวยอร์ค เม็ตส์ ทว่าตอนอายุ 27 ปี เส้นทางอาชีพของเขาดูจะหยุดชะงัก ไม่มีความก้าวหน้ากว่าที่ควรจะเป็น
เขาย้ายไปอยู่กับ โอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ แล้วภายหลังผันตัวไปเป็นแมวมอง หลังจากรับหน้าที่นี้ได้ 8 ปี บีน ถูกเลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการทีมทั่วไปของ โอ๊คแลนด์ ตอนปี 1998 และนับจากนั้นวงการเบสบอลก็ได้เจอกับการเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
โอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ ที่ บีน ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป เขาใช้หลักสถิติที่เรียกว่า เซเบอร์เมตริคส์ (sabermetrics) ในการเปลี่ยนผู้เล่นที่ตอนแรกเป็นผู้เล่นล้าสมัยและโนเนมให้กลายเป็นสตาร์ดัง
ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ โอ๊คแลนด์ ชนะถึง 20 เกมติดต่อกันในปี 2002
และอย่างที่บอกไปข้างต้น ผลงานของ บีน ไปเข้าตา จอห์น เฮนรี่ อย่างจัง
...
ในปี 2003 มีการพิมพ์หนังสือชื่อ มันนี่บอล : ดิ อาร์ท ออฟ วินนิ่ง แอน อันแฟร์ เกม (‘Moneyball: The Art of Winning an Unfair Game’ ) ขึ้น
มันนี่ บอล เป็นหนังสือที่แสดงให้เห็นว่า บีน ประสบความสำเร็จได้อย่างไรกับการใช้การวิเคราะห์ด้วยสถิติซึ่งถือเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ และสุดท้ายหนังสือเล่มนี้ก็กลายเป็นหนังสือที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าระดับเบสท์เซลเลอร์
หลังจากนั้นก็มีภาพยนต์ออกมา ซึ่งทำให้ บีน โด่งดังมากขึ้นไปอีก
มันไม่ใช่แค่ว่าแค่พลิกผลงานทีมทีมหนึ่งเท่านั้น แต่ บีน ได้พลิกโฉมวงการเบสบอลไปอย่างสิ้นเชิง
เห็นได้ชัดว่าหลักปรัชญาการทำงานของ บีน ตอนนั้น กับสิ่งที่ ลิเวอร์พูล กำลังทำอยู่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ก็ใช้การวิเคราะห์แบบเดียวกันในการเสริมทัพ โดย ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการกีฬาใช้ข้อมูลในการตามหาตัวนักเตะอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, นาบี เกอิต้า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
เรียกได้ว่าจนถึงปัจจุบัน โมเดลนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก ๆ ในการทำให้ ลิเวอร์พูล ก้าวจากการเป็นทีมธรรมดา ๆ มาเป็นทีมลำดับต้น ๆ ของทวีปยุโรป ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์
ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า บีน ก็ชื่นชมในทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่ แอนฟิลด์ เช่นกัน
"เรากำลังพยายามหาผู้เล่นที่มีราคาถูก ๆ และหวังว่ามูลค่าของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ “
“ความท้าทายของการทำงานที่ โอ๊คแลนด์ ที่นั่นมีแนวคิดดี ๆ หลายอย่าง แต่ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนโต ซึ่งเราไม่มีเงินมากพอจะให้ทำอย่างนั้นได้" บีน ให้สัมภาษณ์กับ ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ เมื่อไม่นานมานี้
"ที่ ลิเวอร์พูล มันต่างออกไป และ ซาลาห์ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนั้น พวกเขาจ่ายไปราว 40 ล้านปอนด์เพื่อดึงเขามาจาก อิตาลี ซึ่งถือเป็นเงินที่เยอะมาก ๆ “
“ตอนนั้นหลายคนคิดว่าค่าตัวแพงเกินไป แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าเขามีมูลค่าสูงกว่าที่ทีมจ่ายไปซะอีก"
"สำหรับผมแล้วนั่นเป็นตัวอย่างที่ดีในด้านการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลให้เป็นประโยชน์ แน่นอนว่าคุณต้องใช้เงินก้อนโต แต่สุดท้ายคุณก็จะได้ประโยชน์จากมันมากกว่าที่หลายคนคาดกันเอาไว้"
...
บีน รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไปให้กับ โอ๊คแลนด์ 18 ปี ก่อนจะอำลาตำแหน่งในปี 2016 แล้วขึ้นไปเป็นรองประธานปฏิบัติการด้านเบสบอลของทีม
การได้ทำงานตำแหน่งนี้ทำให้ บีน มีโอกาสมองหาเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นการลงทุนกับ ลิเวอร์พูล
บีน สนใจกีฬาฟุตบอลมาก และเป็นที่เชื่อกันว่าเขากำลังทำงานอยู่กับระบบที่จะช่วยวิเคราะห์นักเตะได้อยู่ โดยเมื่อปี 2015 บีน เคยโดนจ้างให้เป็นที่ปรึกษาของ อาแซด อัลค์มาร์ ด้วย
ล่าสุด เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า บีน ในวัย 58 ปีบอกลาตำแหน่งรองประธานที่ โอ๊คแลนด์ เพื่อเข้ามาทำงานกับ FSG ที่ที่เขามีความสนิทสนมกับ จอห์น เฮนรี่
และหาก เร้ดบอล แอ็คคิวส์ซิชชั่น คอร์ป ที่ บีน เป็นประธานร่วม กำลังเจรจาควบรวมกับ FSG เป็นไปได้ด้วยดี
เขาก็จะบอกลาวงการ เบสบอล พร้อมกับหลีกเลี่ยงปัญหาด้านผลประโยชน์ทับซ้อนแล้วไม่รับตำแหน่งกับ เร้ด ซ็อกซ์ อีกต่อไป
...
การเข้ามาทำงานกับ FSG ของ บีน ไม่ได้การันตีว่าเขาจะได้มีส่วนร่วมกับ ลิเวอร์พูล โดยตรงหรือไม่
จริงอยู่ว่า ลิเวอร์พูล ในตอนนี้ไม่ได้จำเป็นต้องพึ่งพาคนที่มีความรู้ด้านนี้เข้ามาอีก เมื่อพิจารณาถึงการที่ทีมงานชุดปัจจุบันทำผลงานได้ดี และมีทีมงานที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากได้คนที่มีประสบการณ์สูงอย่าง บีน มาทำงานให้กับสโมสรมันก็จะส่งผลดีกับทีมอย่างมาก ใช่ไหมล่ะ?!
แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่ จอห์น เฮนรี่ เคยต้องการเมื่อ 18 ปีก่อน ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นจริงแล้ว
#Liverpool #MoneyBall #BillyBeane #hossalonso #BootRoom
Ref. The Wall Street Journal และ LiverpoolEcho
โฆษณา