Patek Philippe ส่งนาฬิกาให้เชลยแห่งสงครามโดยที่เขายังไม่ได้จ่ายเงิน
Patek Philippe ส่งนาฬิกาให้เชลยแห่งสงครามโดยที่เขายังไม่ได้จ่ายเงิน
เมื่อ Louise Woehrle ผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีเริ่มดำเนินการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องราวของลุง Charles ผู้ซึ่งได้นำชีวิตไปสู่ความไม่ธรรมดาครั้งแรกในฐานะทหารและต่อมาในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ตัวเอง ในเบื้องหลังภาพยนตร์ Louise ได้ติดต่อกับ Charles และบริษัทนาฬิกาสวิสชื่อ Patek Philippe
เรื่องราวเกิดขึ้นในขณะที่เขาเป็นนักโทษที่ค่าย Stalag Luft III ในโปแลนด์ Charles Woehrle เป็นทหารปืนใหญ่ B-17 ในกองทัพอากาศซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เหตุเกิดบนเครื่องบินทิ้งระเบิดเหนือฝรั่งเศส ทำให้เครื่องบินของเขาถูกยิงโดยชาวเยอรมันและเขาก็ถูกจับและถูกส่งตัวไปทางรถไฟไปยังค่ายกักกันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของนาซี (Nazis) เขาต้องอาศัยอยู่ในที่คุมขังที่โหดร้ายและน่าเบื่อมานานกว่าสองปี แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็หันไปอ่านหนังสือเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย
อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ไปเจอโฆษณาเล็ก ๆ จากแบรนด์นาฬิกาสวิสที่อ่านว่า “หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Patek Philippe ส่งแบบฟอร์มด้านล่างแล้วเราจะส่งโบรชัวร์ให้คุณ” แล้ว Charles ก็ส่งแบบฟอร์มกลับไปและเพิ่มข้อมูลไปด้วยว่า "ผมต้องการซื้อนาฬิกาข้อมือหนึ่งของคุณ ถ้าคุณยอมให้ผมจ่ายเงินหลังสงคราม” เดือนต่อมาแพคเกจสินค้า Patek Philippe ก็ส่งมาถึงค่าย และนาฬิกาของ Charles ก็กลายเป็นที่สนใจในหมู่นักโทษคนอื่น ๆ เพราะเป็นสิ่งของชิ้นเดียวที่มาจากโลกภายนอก หรือบางทีนาฬิกาเรือนนี้อาจเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังก็ได้ เขาจึงสวมมันตลอดเวลาที่ถูกกักขังเป็นเวลานานหลายสิบปีโดยใช้ชีวิตตามสัญญาของเขาที่บอกว่าจะจ่ายเงินให้ Patek Philippe
แต่ในช่วงปี 1980 บ้านของ Charles ที่อยู่รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกาก็ถูกโจรขึ้นบ้านและนาฬิกาของเขาก็ถูกขโมยไป เขาเสียใจกับการสูญเสียนาฬิกาเรือนที่มีความหมายและมีคุณค่าต่อจิตใจไป
ต่อมาในปี 2011 เมื่อ Louise หลานสาวของเขาได้ยินเรื่องราวทั้งหมดนี้เธอรู้ว่ามันจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่เธอกำลังจะทำอย่างแน่นอน เธอจึงตัดสินใจติดต่อ Patek Philippe และทางแบรนด์ก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้มาก ทางแบรนด์จึงไปหาข้อมูลว่านาฬิกาเรือนนั้นมีลักษณะอย่างไร และสุดท้ายทางแบรนด์ก็ได้ผลิตนาฬิกาเรือนเดิมขึ้นมาใหม่ โดยมีการแกะสลักด้านหลังนาฬิกาถึง Charles โดยเฉพาะ ด้วยข้อความที่บอกว่า "สำหรับความซื่อสัตย์ที่มั่นคงของคุณ"
เรื่องราวของชายคนหนึ่งไม่ได้เกี่ยวกับนาฬิกา Patek Philippe เพียงเท่านั้น แต่มันเต็มไปด้วยการมองโลกในแง่ดีและความมีน้ำใจกับใครสักคนที่กำลังเผชิญกับความทุกข์ยาก นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจอย่างยิ่งว่า การสะสมนาฬิกามันไม่ได้เกี่ยวกับว่านาฬิกาเรือนนั้นเป็นของ Patek หรือไม่ แต่มันเกี่ยวกับคนที่สวมใส่ว่าพวกเขาทำสิ่งพิเศษไว้อย่างไรบ้างต่างหาก