#WatchInsights
ส่องราคา Nautilus Steel เรือนไหนราคาขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 ปี
ซื้อ Nautilus Steel เรือนไหนคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด
หากพูดถึงนาฬิกาจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Patek Philippe แน่นอนว่าคอลเลกชันที่ยอดฮิตที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น Nautilus และหลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่า ควรซื้อ Nautilus รุ่นไหนถึงจะคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุดในรอบ 5 ปี ซึ่ง Auction House ได้รวบรวม 6 เรือน Steel มาให้ทุกคนได้ดูกัน ใครมีเรือนไหน หรือชอบเรือนไหนเป็นพิเศษ คิดว่าเรือนไหนราคาไปต่อได้ คอมเมนต์มาได้เลย
Nautilus 3700
Nautilus 3700
เรือนแรกของ Nautilus
Nautilus Ref. 3700/1A เป็นนาฬิกาตัวแรกของคอลเลกชัน Nautilus เป็นรุ่น Steel ที่มีขนาดใหญ่ถึง 42 มม. จึงได้รับฉายาว่า “Jumbo” วางขายครั้งแรกในปี 1976 และขึ้นแท่นเป็น Sport watch อันดับต้น ๆ ของโลกอย่างสวยงาม เพราะเปิดตัวออกมาท่ามกลางกระแสความนิยมในนาฬิกาเรือนบางวัสดุทองคำที่ยึดครองตลาดนาฬิการะดับหรูอยู่ในยุคนั้น หน้าปัดสีน้ำเงินเข้ม มีฟังก์ชัน แสดงเวลาแบบสองเข็ม (ชั่วโมงกับนาที) พร้อมแสดงวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง โดดเด่นด้วยรูปทรงแปดเหลี่ยมที่โค้งมนและโครงสร้างของตัวเรือนแบบ 2 ชิ้น ทำให้กันน้ำได้ดี (ตัวเรือน 2 ชิ้น ซึ่งแตกต่างจากนาฬิกาอื่น ๆ ที่จะเป็นโครงสร้างแบบ 3 ชิ้น ราคาเปิดตัวประมาณ 9 แสนบาท ส่วนราคามือสองถ้ามองในกรอบ 5 ปี จาก 1,145,000 บาท ก็ขึ้นมาถึง 2.9 ล้านบาทเลยทีเดียว
Nautilus 5711
Nautilus 5711
ดีไซน์ที่ต่อยอดจากรุ่นดั้งเดิม
ในปี 2006 ซึ่งเป็นวาระฉลองครบ 30 ปีของนาฬิการุ่น Nautilus นั้น ทาง Patek Philippe ก็ได้นำดีไซน์ของ The Original Nautilus 3700 มาเป็นแรงบันดาลใจโดยปรับหน้าตาให้ดูโมเดิร์นกว่าเดิม มีขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 40 มม. จุดสังเกตมีเพียงฟังก์ชันวันที่ อยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาและมีเข็มวินาทีอย่างเรียบง่าย พร้อมทั้งทำฝาหลังเป็นแบบเปลือยเพื่อให้ผู้ใส่สามารถรับชมกลไกที่สวยงามได้จากด้านหลัง วัสดุตัวเรือนเป็น Steel ที่มีให้เลือกสองสี น้ำเงิน, ขาว ราคามือหนึ่งประมาณ 900,000 บาท ส่วนราคามือสองรุ่น Steel ถ้ามองในกรอบ 5 ปี จาก 752,000 บาท ก็ขึ้นมาถึง 2,060,000 บาท!
Nautilus 5712
Nautilus 5712
ฟังก์ชัน Moonphase และ Power reserve
Nautilus 5712 เปิดตัวในปี 2006 จุดสังเกตของรุ่นนี้อยู่ที่ฟังก์ชัน Moon Phase ที่ตำแหน่ง 7 นาฬิกา มีช่องแสดงวินาทีที่ตำแหน่ง 5 นาฬิกา และที่สำคัญคือ มีหน้าปัดย่อยที่แสดงพลังงานสำรอง อยู่ที่ตำแหน่ง 11-12 นาฬิกา ส่วนฝาหลังใช้เป็นกระจกแซฟไฟร์เผยให้เห็นการทำงานของกลไกที่สวยงาม รุ่นนี้มีหน้าปัดสีดำ-น้ำเงิน ตัวเรือน Stainless steel ขนาด 40 มม. ราคามือหนึ่งประมาณ 1,300,000 บาท ส่วนราคามือสองรุ่น Steel ถ้ามองในกรอบ 5 ปี จาก 967,000 บาท ก็ขึ้นมาถึง 2,100,000 บาท!
Nautilus 5726
Nautilus 5726
ฟังก์ชันระบบปฏิทินรายปี
Nautilus 5726 รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2010 ซึ่งรุ่น Nautilus 5726/1A ถูกปรับดีไซน์ให้กรอบตัวเรือนใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ตัวเรือนขนาด 40.5 มม. วัสดุในการผลิตตัวเรือนเป็น Stainless Steel สีพื้นหน้าปัดมีให้เลือกระหว่าง น้ำเงินกับดำ ส่วนสายนาฬิกาจะมีให้เลือกระหว่างสายเหล็กกับสายหนัง ซึ่งจุดสังเกตของรุ่นนี้อยู่ที่ ฟังก์ชันข้างขึ้นข้างแรม (Moon Phase) และระบบปฏิทินรายปี (Annual Calendar) ราคามือหนึ่งประมาณ 1,400,000 บาท ส่วนราคามือสองถ้ามองในกรอบ 5 ปี จาก 993,000 บาท ก็ขึ้นมาถึง 1,834,000 บาท!
Nautilus 5980
Nautilus 5980
Automatic โครโนกราฟรุ่นแรกของ Nautilus
นาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกา Automatic โครโนกราฟรุ่นแรกของคอลเลคชัน Nautilus ตัวเรือนขนาด 40.5 มม. วัสดุตัวเรือนที่จะนำเสนอในครั้งนี้คือ Steel Ref 5980/1A ที่ได้หยุดการผลิตไปแล้วในปี 2014 จุดสังเกตอยู่ที่ฟังก์ชั่นโครโนกราฟที่มี Monocounter อยู่ตรงกลางหน้าปัด และมีฟังก์ชันวันที่ อยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา หลักชั่วโมงผลิตจากทองและมีการเคลือบสารเรืองแสง ราคาเปิดตัวประมาณ 1,500,000 บาท ส่วนราคามือสองถ้ามองในกรอบ 5 ปี จาก 1,365,000 บาท ก็ขึ้นมาถึง 2,590,000 บาท!
Nautilus 5990
Nautilus 5990
นาฬิกา 2 ไทม์โซน
นาฬิการุ่นนี้เปิดตัวในปี 2014 และเป็นนาฬิกาโครโนกราฟที่มาแทน 5980/A มีชื่อว่า Travel Time ตัวเรือนยังคงผลิตจาก Stainless steel ขนาดตัวเรือน 40.5 มม. โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น Chronograph ที่มีระบบบอกวันที่ตรงตำแหน่งเลข 12 และวางตัวจับเวลาไว้ที่ตำแหน่งเลข 6 โดยความพิเศษอีกอย่างของ 5990/1A คือฟังก์ชั่น Time zone ที่สามารถระบุได้ถึง 2 ไทม์โซน และ Day-night Display ที่สามารถระบุ “เวลาท้องถิ่น” และ “เวลาที่บ้าน” เป็นประโยชน์มากสำหรับใครที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ รุ่นนี้ราคามือหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 1,700,000 บาท ส่วนราคามือสองถ้ามองในกรอบ 5 ปี จาก 1,519,000 บาท ก็ขึ้นมาถึง 2,380,000 บาท
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
