พวกเขาเป็นเจ้าของซอฟแวร์สำหรับการบริหารจัดการความปลอดภัยของข้อมูลที่ส่งต่อกัน digital right management (DRM) ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายเหมือนการล็อคกุญแจให้กับข้อมูลของคุณ เมื่อเวลาถูกเคลื่อนย้ายถ้าไม่มีกุญแจที่ถูกต้องก็ไม่สามารถเปิดข้อมูลนั้นๆได้
Intertrust ก่อตั้งในปี 1990 โดย Victor H. Shear ในช่วงเวลาที่ดอมคอมบูมเกือบถึงขีดสุด Intertrust ก็ไม่ต่างกัน เค้าสามาวถนำบริษัทจดทะเบียนได้ในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมราคาหุ่นที่พุ่งทะยานหลังจากมีบริษัทผู้จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์หลายรายต้องการใช้ซอฟแวร์ของพวกเค้า
อยากที่เกริ่นไปในช่วงต้นว่าสิทธิบัตรต้องเป็นการประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงและสิทธินั้นจะได้รับการคุ้มครองเพื่อไม่ให้ใครสามารถผลิตหรือลอกเลียนแบบได้ ในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงก็มักจะมีการฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรกันอยู่บ่อยๆ ที่เราคุ้นๆก็อาจจะเป็นเรื่องราวของ Apple กับ Samsung
แต่สำหรับ InterTrust พวกเขามีคู่ต่อสู้ยักษ์ใหญ่ที่น่าสนใจหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือ Microsoft โดย InterTrust ดำเนินการฟ้อง Microsoft ในปี 2004 ระงับการใช้เทคโนโลยี DRM ในซอฟแวร์ของ Microsoft ที่จะทำให้ซอฟแวร์ของ Microsoft สามารถที่จะกระจายข้อมูลผ่าทางอินเตอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะทำให้ Microsoft สามารถต่อกรกับ Apple ได้
โดย InterTrust สงสัยว่าซอฟแวร์ดังกล่าวอาจจะละเมิดสิทธิบัตรของพวกเค้านั้นเอง ซึ่งในที่สุดท้ายก็มีการยอมความและบรรลุข้อตกลงในการใช้สิทธิองค์ความรู้ของ InterTrust โดยที่ Microsoft ต้องจ่ายเงินถึง 440 ล้านเหรียญสำหรับเทคโนโลยีดังกล่าว
ไม่เพียงแต่ Microsoft ที่ต้องยอมถอยให้กับ InterTrust ยักษ์ใหญ่อีกตนอย่าง Apple ก็ปั่วป่วนไม่น้อย เมื่อ InterTrust ฟ้องร้องว่า Apple ในปี 2013 ว่า Apple ได้ทำการละเมิดสิทธิบัตรของ InterTrust อย่างน้อย 15 รายการในผลิตภัณฑ์หลายชิ้น ซึ่งท้ายที่สุดมีการเจรจาและบรรลุข้อตกลงกันนอกศาลโดยที่ไม่มีการเปิกเผยตัวเลขหรือผลประโยชน์ที่ InterTrust ได้รับ (แต่เชื่อได้ว่าคงมีมูลค่าไม่น้อยกว่าที่ Microsoft ต้องจ่ายแน่นอน)