16 ต.ค. 2020 เวลา 12:35 • การเมือง
shutdown Bangkok ตอนที่ 15 ราชประสงค์ ฤาจุดเริ่มต้นจะเป็นจุดสิ้นสุด
หลังจากที่ม็อบวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ได้บุกไปถึงทำเนียบรัฐบาล และได้มีการไปคุกคามขบวนเสด็จของพระราชินี จนทางรัฐบาลต้องประกาศพระราชกำหนดสถานการณ์ร้ายแรง เพื่อควบคุมการชุมนุมนั้น
ม็อบที่บุกไปที่ทำเนียบรัฐบาลก็ถูกสลายการชุมนุมไป หลังจากนั้นเหล่าแกนนำคนสำคัญก็ทยอยถูกจับกุมเพื่อไปดำเนินคดีกันเกือบหมดและรอบนี้บอกได้เลยว่า มีโอกาสสูงมากที่ศาลจะไม่ให้ประกันตัว เพราะเป็นการกระทำผิดซ้ำซาก
ภาพจากไทยรัฐ การชุมนุมที่ราชประสงค์
ล่าสุดม็อบก็นัดชุมนุมที่ราชประสงค์เมื่อวาน วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ก็น่าสนใจตรงที่ว่าแฟลชม็อบครั้งแรกของการประท้วงครั้งนี้ ก็เริ่มจากจุดนี้เมื่อปลายปีที่แล้วนั่นเอง
จึงไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นกับจุดสิ้นสุดจะเป็นจุดเดียวกันหรือไม่ ต้องคอยติดตามสถานการณ์กันต่อไป
จากประวัติศาสตร์ของม็อบที่ผ่านเพื่อไล่รัฐบาล
ของเมืองไทยส่วนมากจะจบลงได้ 3 แบบ
1.ปฏิวัติโดยทหาร
2.คำตัดสินของศาล
3.บารมีของกษัตริย์
ที่นี้ม็อบครั้งนี้ ปฏิเสธอำนาจทหาร อำนาจศาลและบารมีของกษัตริย์ ดังนั้นผู้เขียนยังนึกไม่ออกว่าม็อบนี้จะคลี่คลายไปในทิศทางได้ในสถานการณ์เช่นนี้
แต่ถ้าเราดูจากฮ่องกงโมเดล สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปจะมีดังนี้ จากการคาดเดาของผู้เขียน
ภาพจาก posttoday ม็อบฮ่องกงชักธงอเมริกา เพื่อพยายามจะดึงให้อเมริกาเข้ามาแทรกแซง ตั้งแต่วันนั้นม็อบนี้ก็หมดความชอบธรรม เพราะคือพฤติกรรมของกบฎอย่างชัดเจน
1.ฝ่ายผู้ประท้วงชักธงอเมริกา เพื่อดึงประเทศอเมริกาเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่นี้ทุกคนในประเทศไทยจะได้รู้ความจริงว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง
2.แกนนำและผู้เกี่ยวข้องจะถูกจับกุมและดำเนินคดีทุกคน การต่อสู้ก็จะจบลงไปโดยปริยาย
ผู้เขียนเคยวิเคราะห์เรื่องนี้ไว้แล้วว่า การประท้วงรัฐบาลโดยการทำผิดกฎหมายสะสมคดี ไม่มีทางเลยที่จะชนะ ใครที่คิดจะใช้วิธีนี้น่ากลัวจะสติไม่ค่อยดี คนธรรมดาเค้าไม่ทำกัน
ตำรวจ ทหาร อัยการ ผู้พิพากษา ไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย ถ้าเราไม่ทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าเราทำผิดกฎหมายคนกลุ่มนี้ จะมีอำนาจมหาศาลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้
ถ้าจะต่อสู้ในเรื่องนี้ก็ต้องค่อย ๆ พูดจาอธิบายชี้แจงให้คนส่วนใหญ่ในสังคมเข้าใจในแนวคิดใหม่ว่าดีกว่าแบบเก่าอย่างไร และเห็นด้วยเป็นส่วนมาก อาจจะใช้เวลา 20-30 ปี ไม่ใช่ว่าจะเอาเดี๋ยวนี้เลย คนเราต้องรู้จักอยู่เป็น เย็นพอ รอได้ จึงจะประสบความสำเร็จครับ
ไม่ใช่ด่าทุกคนที่ไม่เห็นด้วยและผลักคนนั้นไปเป็นศัตรู ด่าเพื่อน ด่าพ่อแม่ ด่านายก ด่าประธานสภา ด่าผู้นำฝ่ายค้าน ด่าศาล ด่าตำรวจ ด่าทหาร ด่าแม้กระทั่งกษัตริย์ ใช้วาจาและกริยาแบบนั้น แทนที่คนในสังคมจะเข้าใจมากขึ้น ในระยะยาวถึงแนวคิดคุณจะดีเลิศแค่ไหน แต่เพื่อนก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ กลายเป็นไม่มีใครคบไป สุดท้ายก็จะจบแบบม็อบนี้
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป
อ้างอิง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา