18 ต.ค. 2020 เวลา 06:26 • หนังสือ
[Book Review] เปลี่ยนยากเป็นง่าย ด้วยการคิดบนกระดาษ 1 ใบ ที่คนญี่ปุ่นใช้ : Master of one page summary
ตั้งแต่เล็กจนโต จากนักเรียนสู่นักศึกษาตามมาด้วยวัยทำงาน
รู้สึกไหมครับว่ามีสิ่งหนึ่งที่ติดตามเรามาเสมอ และหลายครั้งมักสร้างความลำบากใจให้เราบ้างไม่มากก็น้อย
ผมไม่ได้กำลังกล่าวถึงอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า “งานเอกสาร”
ทุกคนเคยมีปัญหาแบบผมกันมั้ยครับ? เวลาต้องสรุปรายงานหรือทำเอกสารเพื่อสื่อสารขออนุมัติโครงการอะไรสักอย่าง ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี? หรือเขียนออกมาแล้วยืดยาวไม่ลงตัว? วันนี้ผมมีหนังสือสอนวิธีสรุปรายงานหรือเอกสารยาวๆ ให้สามารถสื่อสารได้ด้วยกระดาษแผ่นเดียวมานำเสนอครับ
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยเซ็นเซเล็ก และเซ็นเซแป๊ะ อดีตพนักงานบริษัทโตโยต้า ผู้ที่การทำงานเอกสารและการสรุปรายงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการทำงานตลอดเวลากว่า 10 ปี โดยเฉพาะเซ็นเซแป๊ะ ที่เคยมีปัญหาต้องมาทำงานคนเดียวในช่วงเวลาวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์เพราะ “สรุปไม่เป็น” ทั้งๆที่ตั้งใจทำเอกสารแทบตาย แต่มักโดนหัวหน้าปฏิเสธกลับมาด้วยคำพูดที่ว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ” (เจอแบบนี้เป็นใครก็หงายเงิบ) ทำให้เซ็นเซแป๊ะต้องทุ่มเทเวลาศึกษาวิธีการทำเอกสารสรุปอย่างจริงจังโดยศึกษาทั้งจากตัวอย่างเอกสารที่ดีและไม่ดีจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ และในที่สุดเซ็นเซแป๊ะก็สำเร็จวิชา master of one page summary และไม่ต้องมาทำงานวันหยุดสุดสัปดาห์อีกต่อไป นอกจากนี้การสรุปที่ดียังเป็นทักษะที่ติดตัวเซ็นเซแป๊ะเรื่อยมา จนในปัจจุบันเซ็นเซแป๊ะก็ยังได้ใช้ทักษะนี้ในการเขียนสรุปหนังสือสาระดีๆ ลงในเพจ สรุปให้ (เปิดดูใน Blockdit ได้เลย) ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปติดตามผลงานกันได้ครับ
จากประสบการณ์กว่า 20000 ชั่วโมง และมากกว่า 1500 เรื่องที่เคยสรุป เซ็นเซแป๊ะกลั่นกรองทั้งกระบวนการและเทคนิคในการเป็น master of one page summary ให้มาอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ผสมด้วยรูปภาพที่วาดเอง และตัวอย่างประกอบที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายมากขึ้น และมีการเปรียบเทียบให้ผู้อ่านเห็นภาพมากขึ้น เช่น การเปรียบเทียบการแบ่งส่วนหน้ากระดาษเป็นการกั้นห้องจัดบ้าน เป็นต้น
ขอขอบคุณตัวอย่างการสรุปบนกระดาษแผ่นเดียวจาก https://www.beyondtraining.in.th/หลักสูตร_Und_กระดาษหนึ่งใบเข้าใจประเด็น/5bea67d0c4bcbf001a07a633
ว่าแต่ทำไมต้องสรุปแค่แผ่นเดียว?
เพราะในปัจจุบันมนุษย์มีโฟกัสที่สั้นลง สั้นเสียยิ่งกว่าปลาทอง คือแค่ 8 วินาทีเท่านั้น ในขณะที่ปลาทองทำได้ 9 วินาที แต่ถ้าท่านอ่านบทความอย่างต่อเนื่องมาจนถึงจุดนี้ได้ ก็สบายใจได้ครับ พลังโฟกัสของท่านเหนือกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมแน่นอน
นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกการเรียบเรียงและการทำเนื้อหาที่อยากสื่อสารให้กระชับขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การสื่อสารของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น สื่อสารได้รวดเร็ว ตรงจุดมากขึ้น เมื่อเราเสียเวลา(ที่เป็นดั่งเงินและทอง)น้อยลง เราก็มีเวลาไปทำอย่างอื่นที่อยากทำมากขึ้นครับ
โดยเทคนิค one page summary ที่เซ็นเซแป๊ะนำเสนอนั้นสามารถแบ่งคร่าวๆได้ 3 ขั้นตอนหลักคือ
1. ภาพใหญ่ : ทำให้ผู้รับสารทราบภาพรวมทั้งหมดตั้งแต่แรกเห็น
2. ใส่กรอบครอบหัวข้อ : วิธีการจัดสัดส่วนหน้ากระดาษให้ดีและมีความเชื่อมโยง
3. ร้องอ๋อในสามวิ : เทคนิคการทำข้อมูลให้เข้าใจง่าย และวิธีการนำเสนอข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งในแต่ละขั้นตอนหลักจะสามารถแบ่งได้อีก 3 ขั้นตอน รวมทั้งหมดเป็น 9 ขั้นตอนย่อยดังรูป
**เนื้อหาปลีกย่อยในแต่ละขั้นตอนติดตามได้ในหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร?
ส่วนตัวผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนวัยทำงานมากกว่า นักเรียนนักศึกษาครับ เพราะการสรุปตามวิธีที่หนังสือเล่มนี้สอนจะเน้นการสรุปเอกสารรายงานเพื่อสื่อสารกับผู้อื่นอย่างสั้นและกระชับ อารมณ์ประมาณการทำเอกสารฉบับย่อ เช่นเอกสารขออนุมัติงบประมาณทำโครงการ และ เอกสารสรุปโครงงาน ซึ่งต่างจากการทำ mind map เพื่อความเข้าใจของเราเอง ถ้าต้องการสรุปเนื้อหาวิชาต่างๆไว้เพื่ออ่านเอง เข้าใจเอง การทำสรุปแบบในหนังสือเล่มนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่นัก ควรเลือกทำในแบบที่เราถนัดและเข้าใจดีกว่าครับ
💡💡💡
เรื่อง : ศุภวิทย์ ภาษิตนิรันดร์(เซ็นเซเล็ก), วิฑูลย์ สูงกิจบูลย์ (เซ็นเซแป๊ะ)
จำนวนหน้า : 256 หน้า
ราคาปก : 249 บาท
โฆษณา