18 ต.ค. 2020 เวลา 08:09 • ดนตรี เพลง
EP. 27 : “Old Time Pub & Restaurant” …ตอนที่ 3
โกเหลียง ตั้งใจทำ “Old Time” ให้มีเอกลักษณ์ความเป็น
"Pub & Restaurant" แบบ ยุค 50-60 อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ
บรรยากาศของเสียงเพลง เพื่อมอบความสุนทรีที่แตกต่างให้แก่
เกาะภูเก็ต เมื่อประมาณ พ.ศ. 2534
เหตุนี้โกเหลียงจึงพยายามแนะนำแกมบังคับผม ให้ทุ่มเทฟังเพลง
และศึกษาหาข้อมูลของศิลปินในยุค 50-60 อย่างจริงจัง ก่อนที่จะ
เปิดร้านอย่างเป็นทางการ เพราะขณะนั้นฐานข้อมูลเพลงในตัวผม
ที่มีติดอยู่ส่วนมากเป็นเพลงยุค 70-80 ซึ่งยังไม่ลงตัวกับความเป็น
“Old Time” ที่โกเหลียงตั้งใจไว้
เมื่อได้ฟัง ได้ศึกษา ความชอบก็เริ่มเกิด สัมผัสที่ไพเราะค่อยๆเพิ่มพูน
ทำให้ผมหยิบเพลงเก่าแต่ละเพลงมาเปิดอย่างอย่างมั่นใจและรู้ถึงคุณค่า
ผมได้ประทับใจในน้ำเสียงเท่ห์ มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ของ
“Nat King Cole” ที่ขับร้องบทเพลงไพเราะไว้มากมาย อย่างเช่น
“Too Young”, “Autumn Leaves” หรือเพลง “Unforgettable”
ที่นำมา Produce ใหม่โดย “David Foster” ซึ่งสามารถทำให้ลูกสาว
“Natalie Cole” ร้อง Duet ด้วยกันกับเสียงของคุณพ่อที่บันทึก
เอาไว้เมื่อนานมาแล้ว
ผมชอบเพลงที่อยู่ในหนังเรื่อง “Captain Carey, U.S.A.” เมื่อปี 1950
ชื่อว่า “Mona Lisa” เพลงนี้ได้รับรางวัลออสการ์ (Best Original Song)
จากการประกอบในหนังด้วย และตัว Single ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก
ขึ้นถึงอันดับหนึ่งเลยทีเดียว ขอเชิญรับฟังครับ
โกเหลียง นั้นเพิ่มความคุ้นเคยให้ผมกับเพลงของ “Nat King Cole”
มากขึ้น ด้วยเขาชอบร้อง และเสียงของโกเหลียงก็จัดได้ว่าละม้าย
คล้ายคลึงเลยทีเดียว
“Jim Reeves” เป็นศิลปินอีกคนที่โกเหลียงทำให้ผมรู้จัก บทเพลงไพเราะ
อย่าง “Welcome to My World”, “I Love you because” และเพลงที่ผมชอบ
เมื่อได้ยินโกเหลียงร้องคือ “He’ll have to go” เชิญรับฟังครับ
เมื่อได้กล่าวถึงความสามารถในการร้องเพลงของโกเหลียงแล้ว
ผมจะไม่หยิบเพลง “My Way” มานั้น เป็นไปไม่ได้เลย เพราะถือเป็น
เพลงประจำตัวที่โกเหลียงเลือกทุกครั้งเมื่อมีโอกาสร้อง
โดยเฉพาะ Version ของ “Frank Sinatra” เชิญฟังครับ
ความบันเทิงด้านเสียงเพลง ที่โกเหลียงเตรียมการณ์ไว้ก่อนเปิด
“Old Time” นั้น นอกจากผม ที่จะเป็นคนเปิดเพลงแล้ว ยังมี
”อาจารย์ นริศ ทรัพย์ประภา” นักเรียบเรียงดนตรีอันดับต้นๆของเมืองไทย
ศิษย์เอกของ อาจารย์แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ (ศิลปินแห่งชาติ)
อาจารย์นริศ เคยเป็นผู้ควบคุมวง Big Band ที่มีชื่อเสียงของประเทศ
เมื่อสมัยอดีต ชื่อ “สื่อสารสังคีต” วงนี้เล่นประจำสำหรับ “สุเทพโชว์”
การแสดงของนักร้องดัง “สุเทพ วงศ์กำแหง” ทางโทรทัศน์ และยังเป็น
ผู้เรียงเรียงดนตรีหลักให้กับเพลงของ สุเทพ วงศ์กำแหง อีกด้วย
เช่นเพลง “รักคุณเข้าแล้ว” อันโด่งดัง
อาจารย์นริศ ได้รับรางวัลสุรัสวดีสาขาการเรียบเรียงดนตรีประกอบ
หนังยอดเยี่ยม เมื่อปี พ.ศ. 2520 เรื่อง “ลูกเจ้าพระยา” อีกด้วยครับ
โกเหลียง ทั้งชวนและเชิญให้อาจารย์ นริศ มาเป็นมือเปียโนเพื่อขับกล่อม
ใน “Old Time” สไตล์การเล่นเปียโนของ อาจารย์นริศ มีความคล้าย
นักเปียโนที่ชื่อ “Floyd Cramer” โดยเฉพาะเพลง “Tennessee Waltz”
เชิญรับฟังครับ
“คุณก้อย ผกามาศ” เป็นอีกคนที่โกเหลียงเลือกมาสำหรับเสียงเพลง
ของ “Old Time” เพื่อ ให้ร้องเพลงคู่กับฝีมือเปียโนของ อาจารย์นริศ
เดิมคุณก้อย นั้นร้องเพลงสากลอยู่บ้างแล้ว ที่ห้องอาหาร “Rattan Box”
โรงแรม “Phuket Merlin” ทำให้รู้จักเพลงสากลยุค 50-60 พอสมควร
จึงเป็นอีกคนที่ได้ช่วยแนะนำผม โดยเฉพาะเพลงของศิลปินหญิง
อย่าง “Georgia Gibbs” ศิลปินหญิงผู้ขับร้องบทเพลงที่เป็นอมตะไว้
เช่น “Kiss me Another”, “Tweedle Dee” และบทเพลงไพเราะ
“Seven Lonely Days” ที่มีการนำมาแปลงเป็นเนื้อภาษาไทยด้วย
ในครั้งนี้ผมหามาแนบไว้ให้ทั้ง 2 แบบ...ขอเชิญรับฟังครับ
ผมยังได้สัมผัสกับผลงานของ “Doris Day” ศิลปินหญิงผู้มากความสามารถ
ทั้งการเป็นนางเอกหนังที่มีมากกว่า 30 เรื่องระหว่างปี 1948-1968 และ
ในฐานะนักร้องก็มีอัลบั้มมากกว่า 30 ชุด เช่นกัน ตั้งแต่ปี 1949-2011
เธอเสียชีวิตเมื่อเดือน พฤษภาคม 2019 (อายุ 97 ปี)
เธอขับร้องบทเพลงอมตะไว้มากมาย เช่น “Perhaps, perhaps, perhaps”
“If I Give My Heart to You”, “Everybody Loves a Lover”
“Dream a Little Dream of Me”, "Sentimental Journey" และ
“Que Sera, Sera (Whatever will be, will be)” เพลงเอกจากหนังของ
"Alfred Hitchcock" ที่เธอแสดงนำเรื่อง “The Man Who Know Too Much”
เมื่อปี 1956 ซึ่งตัวเพลงนั้นยังได้รับรางวัลออสการ์ (Best Original Song)
อีกด้วย...ขอเชิญรับฟังครับ
สำหรับตอนนี้ ผมจะขอทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่ชวนฝันของ “Skeeter Davis”
ศิลปินหญิงผู้เป็นตำนานของดนตรีแนว American Country อีกคนหนึ่ง
กับ Single ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เมื่อปี 1962 และเป็นเพลงที่สร้าง
ชื่อเสียงให้เธออย่างแท้จริง
ขอเชิญรับฟัง "The End of The World” ครับ
เรื่องของ "Old Time" นั้น ยังคงมี ให้ได้เล่าขานอย่างต่อเนื่อง...
โปรดติดตามตอนต่อไป...ขอบคุณ และสวัสดีครับ
โฆษณา