24 ต.ค. 2020 เวลา 16:45 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
AI ที่พัฒนาโดย MIT สามารถถอดรหัสเพื่อทำความเข้าใจและแปลภาษาโบราณที่สูญหาย รวมถึงยังสามารถแยกแยะและจัดกลุ่มภาษาต่าง ๆ ได้
จารึกภาษาโบราณที่ไม่มีผู้ใช้งานแล้วในปัจจุบัน เราจะแปลมันได้ยังไง??
โดยทีมนักวิจัยจาก MIT Computer Science & Artificial Intelligence Lab หรือ MIT CSAIL ได้พัฒนา AI ที่สามารถแปลทำการแปลภาษาโบราณได้โดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลกลุ่มภาษาที่ใกล้เคียงเป็นฐานข้อมูล
แน่นอนว่าการที่ AI สามารถเป็น "วุ้นแปลภาษาอะไรก็ได้" นี้อาจเปิดโอกาสถึงองค์ความรู้จากบรรพกาลที่สูญหายไปตามกาลเวลาอันเนื่องมาจากไม่มีผู้ใช้ภาษาโบราณเหล่านั้น
วุ้นแปลภาษา ของวิเศษที่ใครหลายคนอยากได้
ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วการที่เราจะเข้าใจภาษาต่าง ๆ ได้นั้น เราต้องเข้าใจถึงโครงสร้างของภาษาทั้งด้าน ไวยกรณ์ การสร้างคำศัพท์ วิธีการออกเสียง
เพื่อให้เห็นภาพถึงโครงสร้างภาษาที่แตกต่างกัน
ลองนึกถึงเวลาที่เราพยายามทำความเข้าใจภาษาต่างชาติที่มีรูปแบบการเขียนแบบเขียนคำติดกัน
ถ้าเป็นภาษาอังกฤษประโยคข้างบนก็จะเขียนประมาณว่า
imagine trying to decipher a foreign language written like this.
แต่ถ้าเอามาเขียนแบบภาษาไทยก็จะเป็นแบบนี้
imaginetryingtodecipheraforeignlanguagewrittenlikethis.
เป็นไงครับ งงในงงเลยทีเดียวกว่าจะอ่านออก
เราอาจจะสามารถแปลข้อความบนศิลาจารึกโบราณที่เคยอ่านไม่ออกได้
แต่ด้วย AI ที่พัฒนาใหม่นี้สามารถทำความเข้าใจและแปลภาษาได้โดยไม่ได้ต้องใช้ฐานข้อมูลกลุ่มภาษาที่ใกล้เคียงและยังสามารถแยกได้ว่าภาษาไหนอยู่ในกลุ่มเดียวกันหรือไม่
โดยในการทดสอบ AI นี้สามารถแยกได้ว่าภาษาบาสก์ (Basque language) ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นในประเทศสเปนนั้นเป็นไม่มีความสัมพันธ์กับภาษาไอบีเรีย Iberian languages ที่ใช้กันอยู่ในคาบสมุทรไอบีเรีย
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีงานวิจัยที่เปิดเผยว่าภาษาบาสก์นั้นไม่ได้สัมพันธ์กับภาษาไอบีเรีย และอาจจะพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นเอกเทศไม่ได้มีรากฐานมาจากภาษาใด ๆ เลย
พื้นที่และช่วงเวลาของกลุ่มวัฒนธรรมที่ใช้กับภาษาบาสก์
โดยหลักการที่ AI ใช้ในการทำความเข้าใจภาษาโบราณนั้นอยู่บนพื้นฐานของประวัติศาสตร์วิวัฒนาการด้านภาษาตั้งแต่อดีตมาจนเป็นภาษาที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
ซึ่งการจะเปลี่ยนแปลงคำหรือการออกเสียงในแต่ละภาษานั้นจะมีข้อจำกัดอยู่ไม่สามารถ มันไม่มีการเปลี่ยนแบบปุบปับข้ามช่องเสียง
ตัวอย่างเช่น การออกเสียงเปลี่ยนระหว่างเสียงตัวอักษร B กับตัว P นั้นมีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะเพี้ยนเป็นเสียงตัวอักษร K
ซึ่งความสามารถในการวิเคราะห์และแปลภาษาได้โดยไม่ได้ต้องใช้ฐานข้อมูลภาษานี้มีประโยชน์อย่างมาก เปิดโอกาสให้เราได้เข้าถึงองค์ความรู้และข้อมูลประวัติศาสตร์ที่สูญหายไปตามกาลเวลาอันเนื่องจากภาษาที่ไม่มีคนใช้แล้ว
รวมถึงการอนุรักษ์ข้อมูลภาษาท้องถิ่นในปัจจุบันซึ่งนักภาษาศาสตร์คาดการว่า ด้วยการวิวัฒน์ของโลกปัจจุบันจะทำให้ภายในสิ้นสุดศตวรรษที่ 21 นี้อาจมีภาษาท้องถิ่นสูญหายเนื่องจากไม่มีผู้ใช้งานไปกว่าครึ่งของภาษาที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน
ก็นับเป็นอีกหนึ่งศักยภาพของ AI ที่น่าจะมีประโยชน์อย่างยิ่งยวดในอนาคต รอดูพัฒนาการกันต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา