Route 17 ขุนลาว. หมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา
ขุนลาวหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา ที่น้อยคนจะรู้จักหมู่บ้านแห่งนี้กับวิถีชีวิตที่ ที่ค่อยเปลี่ยนไปตามกระแสของสังคม จากการทำไร่ชา สู่การทำไร่กาแฟ แบบเกษตรอินทรีย์ ที่เริ่มจะมีคนเข้ามาสนใจแล้วมาศึกษา แม้จะยังเป็นหมู่บ้านที่ยังไม่ค่อยรับนักเที่ยวเข้ามามากเท่าไรนัก แต่ในตัวหมู่ก็ยังมีแหล่งเรียนรู้ที่จะค่อยให้ความรู้กับผู้คนที่สนใจ
การเดินทางมากยังหมู่บ้านขุนลาว ไม่ยากเท่าไรนักกับการขับมอเตอร์ไซค์ จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย ด้วยระยะทาง 80 กม. เข้าสู่ ต.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
สักพักผมก่อมาถึงทางเข้าหมู่ขุนลาว ซึ่งถ้าใครไม่เคยสังเกตุแล้วไม่รู้จักทาง ผมแนะนำให้ตาม gps เลยพิมพ์ว่า โรงเรียนบ้านขุนลาว และgps จะนำทุกคนมาถึงจุดหมาย เพราะทางเข้าหมู่บ้านจะอยู่ตรงทางลงตรงโค้งถนน ถ้าขับเลยไปคงต้องหาจุดกลับรถกันอีกไกลเลย
หมู่บ้านที่เงียบสงบ ในวันนี้ที่ผมเดินทางมา อาจเป็นวันที่ดูครึกครื้นไปด้วยเสียงดนตรี รอบยิ้มความสนุกสนานจากงานขึ้นบ้านใหม่ของคนในชุมชน ที่เข้ามาร่วมฉลองพร้อมทั้งแสดงความยินดีกับเจ้าของบ้าน หลังใหม่
มันก็ทำให้บรรยากาศที่ผมเห็นดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกเยอะและคิดถูกที่กลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้อีกครั้งในรอหลายปี ตัวหมู่บ้านเองอาจไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปเยอะและยังคงเหมือนเดิมเกือบทุกอย่าง
แต่คงจะต่างไปก็แค่ จากการทำไร่ชา ปลูกเสาวส และทำใบเมี้ยง ชาวบ้านเริ่มหันมาปลูกกาแฟและคั่วกาแฟมากขึ้นจนตอนนี้หมู่บ้าน ขุนลาว กลายเป็นที่รู้จักของคนเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่หลงไหลเกี่ยวกับกาแฟและที่ยังเป็นที่น่าจับตามองในด้านการปลูกและผลิตกาแฟอินทรีย์
เอาละตอนที่ผมมาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 11.00 น คงต้องหาอะไรรองท้องก่อนที่จะไปหากาแฟกินสักแก้ว
ร้านก๋วยเตี๋ยว + ร้านขายของชำ ที่สังเกตุได้ง่ายๆตรงกลางหมู่บ้านร้านเล็กๆที่กลิ่นตัวของตัวน้ำก๋วยเตี๋ยวหอมได้ลอยฟุ่งมาแต่ไกลจนพาตัวผมมาสยบและต้องฝากท้องไว้กับก๋วยเตี๋ยวถ้วยนี้
ด้วยความหิวจากการที่ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า ก๋วยเตี๋ยวถ้วนนี้คงเป็นมื้อแรกของวันที่อร่อยที่สุดสำหรับการเดินทาง ณ ตอนนี้ น้ำซุปหวานๆรสชาติกลมกล่อม อร่อยจนผมแทบจะไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย พร้อมด้วยบรรยากาศเย็นสบาย มันช่างเข้ากันมาก แม้ตอนนี้จะ 11 โมงก็ไม่ได้รู้สึกว่าที่จะอากาศร้อนขึ้นมากเท่าไรนัก
ตอนนี้ผมพอมีเวลาอยู่บ้างก็ได้มีโอกาสคุยกับคุณป้า สอบถามเรื่องร้านกาแฟของที่นี้ ป้าก็เลยแนะนำไปหา ผู้ใหญ่บ้าน.ที่ปลูกกาแฟอินทรีย์ และคั่วกาแฟเอง ซึ่งอยู่บ้านตรงกันข้าม มีเพียงก็แค่แม่น้ำสายเล็กๆกั้นกลางอยู่เท่านั้น
คุณป้าก็ยังคอยรับลูกค้าอยู่อย่างไม่ขาดสาย
ผมก็ไม่รอช้าเดินไปยังร้านกาแฟ ของผู้ใหญ่บ้าน และวันนี้ก็คงเป็นวันที่โชคดีของผมมากที่ ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ได้ออกไปทำธุระที่ไหนผมก็เลยได้ชิมกาแฟฟรีมือของผู้ใหญ่ แกก็บอกนะว่าปกติแกแทบจะไม่ได้อยู่เลย นานๆจะได้ทำให้ลูกค้าหรือใครที่แวะผ่านเข้ามา
เราก็เหมือนคนที่คุยกันถูกคอ ถามนู้นถามนี้ไปเรื่อยเปื่อย ส่วนผู้ใหญ่บ้านก็ชวนคุยไปทำไป เอาไปเอามาเดียวแกก็หยิบอันนู้นมาให้ชินอันนี้มาให้ชิม รู้ตัวอีกก็เต็มโต็ะไปแล้ว ที่นี้คงเป็นที่ที่สร้างความสุขเล็กที่หาได้ง่ายจากคนรอบๆตัว ที่ต่างแวะเวียนเข้ามาแม้จะนานๆครั้งก่อตาม
แต่สิ่งที่ได้จากตรงนี้คงเป็นมิตรภาพและความรู้สึกดีๆและประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้แลกเปลี่ยนจากการพูดคุย พร้อมรอยยิ้มที่คอยต้อนรับผู้มาเยือนเสมอ
ไหนก่อนจะเดินทางก็เลยอุดหนุนผู้ใหญ่สักหน่อยก็เลยขอแบ่งกาแฟและชาจากผู้ใหญ่ติดไม้ติดมือกับบ้านไปด้วย ก่อนที่ผู้ใหญ่จะพาผมขึ้นไปยังจุดชมวิว ด้านหลังหมู่บ้าน
เส้นทางไปยังจุดชมวิว ถนนอาจไม่ได้ดีมากเท่าไรแต่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์คงไม่รำบากมากเท่าไรก็ผ่านไปได้สบายๆ ไม่นานมากเท่าไรก็ถึงจุดชมวิว
วิวที่มองออกไป ป่าไม้สีเขียวเสียงนกเสียงแมลงที่ยังคงดังอยู่รอบอากาศที่เย็นสบายมันเป็นอะไรมี่มีค่ามากจริงๆ
ผู้ใหญ่บ้านขึ้นมาส่งที่จุดชมวิว
และการที่ได้มองออกไปไกลๆปล่อยให้อะไรหลายอย่างให้สายลมช่วยพัดมันออกไป สมองที่หนักอึ้งก็ดูจะโล่งขึ้นมาทันที อากาศบนนี้เริ่มจะหนาวขึ้นมานิดหน่อยจาก ลมที่คอยพัดมาเป็นระยะกับพื้นที่สีเขียวที่ดูเหมือนฝนจะพึ่งหยุดไป มันดูสดชื่นดีจัง
การเดินทางในทุกครั้งมักจะเจอเรื่องราวดีๆเสมอ แม้บางครั้งการเดินทางจะเจออุปสรรคแต่ถ้าได้ออกมามักจะมีเรื่องราวให้ได้เรียนรู้เพียงเรายอมเปิดใจที่ยอมรับและก้าวเดินต่อไป
ได้เวลากลับกันแล้วหมู่บ้านกลางหุบเขา ที่ยังคงวิถีชีวิต เดิมๆเมื่อครั้งหลายปีก่อน ที่ผมเคยมาถึงแม้ในหลายๆอย่างอาจมีการเปลี่ยนไปบางตามช่วงเวลาของมันเองทั้งวิถีชีวิตและสังคมที่ค่อยหมุนไปและชุมชนก็ค่อยๆปรับตัวเองในการดำเนินชีวิต แต่หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ก็ยังเป็นที่แสนอบอุ่น ที่โอบกอดไปด้วยป่าไม้และหุบเขา
อ่อ. สำหรับที่หมู่บ้าน ขุนลาว มีโฮมสเตย์ให้พักกันด้วยนะครับถ้าใครสนใจตามลิงค์ด้านล่างได้เลยนะ
INFO: ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางเข้ามาเรียนรู้และเยี่ยมชมการปลูกกาแฟรักษาป่าของมีวนาได้ โดยติดต่อผ่านอาจารย์สมชายล่วงหน้าที่โทร. 08 6116 3165 นอกจากนั้นแล้ว ภายในหมู่บ้านบ้านห้วยมะเกลี้ยง ยังมีโฮมสเตย์ของลุงทองสุขคอยให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านและธรรมชาติที่โอบล้อมท่ามกลางอุณหภูมิในหน้าหนาวซึ่งลดต่ำถึง 4 องศาเซลเซียส โดยสามารถติดต่อได้ที่พ่อหลวงสุวัฒน์ โทร. 08 8259 4720 (ติดต่อได้เฉพาะช่วงเช้าและเย็นเท่านั้น)
หมู่บ้านแสนสงบเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นที่สุด.
ตสา พา ไปเที่ยว ขุนลาว เวียงป่าเป้า #เชียงราย #amzing thailand #ไทยเท่
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
