2 พ.ย. 2020 เวลา 00:27 • การศึกษา
อัณฑะ​อักเสบโรค​ร้าย​ที่ผุ้ชายต้องระวัง
ผู้ชายหลายคนอาจจะไม่เคยคาดคิดว่าในชีวิตอาจจะเสี่ยงต่อการเป็น โรคอัณฑะอักเสบ แต่จริงๆ โรคนี้เป็นได้กับผู้ชายทุกคน นอกจากจะมีอาการอักเสบบริเวณอัณฑะและขาหนีบ ยังส่งผลให้มีลูกยากอีกด้วย ถ้าขั้นหนักสุดอาจจะทำให้เป็นหมันได้ อาการของโรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
สาเหตุหลักของโรคอัณฑะอักเสบ
1. อัณฑะติดเชื้อไวรัส ซึ่งพบได้ในหมู่วัยรุ่น จะมาจากไวรัสคางทูม (Mump Virus) ซึ่งผู้ป่วยคางทูมกว่า 20 – 30% มีสิทธิ์เป็นโรคอัณฑะอักเสบร่วม
2. อัณฑะติดจากแบคทีเรีย จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อโรคหนองใน โรคหนองในเทียม โดยมักจะมีอาการร่วมกับถุงอสุจิอักเสบ และมักจะพบกับหนุ่มๆวัย 19 – 35 ปี
3. อัณฑะติดจากแบคทีเรีย จากโรคร้ายอื่นๆ ที่จะพบได้บ่อยๆคือ โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ หรือบางคนอาจพบในเชื้อวัณโรค
4. อัณฑะติดเชื้อ อาจะเป็นโรคภูมิคุ้มกันโรคต่ำ (ติดเชื้อ HIV)
5. อัณฑะอักเสบ แบบไม่ติดเชื้อ เช่นในโรคหลอกเลือดอักเสบ หรือเกิดจากอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการทานยาบางชนิด
อาการของโรคอัณฑะอักเสบ
อาการโดยทั่วไปจะพบการปวดบวมแดงที่บริเวณลูกอัณฑะ ไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่ง หรือบางคนอาจจะเป็นทั้งสองข้าง ซึ่งมีโอกาสไม่น้อยที่จะอักเสบที่ท่ออสุจิร่วมด้วย หรือใครที่รู้สึกปวดบริเวณขาหนีบ หรือเจ็บหน่วงๆที่ถึงอัณฑะ ซึ่งอย่าได้นิ่งนอนใจ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ เพราะถ้าเป็นโรคนี้จะได้รับการรักษาที่ถูกวิธี หากปล่อยไว้นานๆแล้ว อาจจะรู้สึกแสบเวลายิงกระต่าย ต่อมน้ำเหลืองตรงขาหนีบโต บางคนอาจมีอาการไข้สูง คลื่นไส้อาเจียนหรือบางครั้งอสุจิก็เป็นเลือด ร่วมด้วย จัดได้ว่าเป็นโรคที่น่ากลัวมากๆอีกโรคเลยทีเดียว
หากเกิดอาการเหล่านี้ แล้วไม่ดีขึ้นติดต่อกัน 2 วัน ก็ควรจะรีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง แต่ถ้าปวดมากจนทนไม่ไหว ควรรีบหาหมอทันที เพราะว่าอาจเป็นอาการของอัณฑะบิดตัว (Testicular torsion) ต้องได้รับการผ่าตัด
วิธีการป้องกันจากโรคอัณฑะอักเสบ
1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรค คางทูมตั้งแต่เด็กๆ
2. ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันตัวเองจากโรค
3. เลี่ยงการใช้ยาอย่างพร่ำเพรื่อ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงจากยาต่างๆ
4. เมื่อรู้ตัวว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
โฆษณา