2 พ.ย. 2020 เวลา 06:18 • ปรัชญา
เป็นโสดาบันกันดีมั้ย
เราเป็นโสดาบันหรือยังรู้ได้อย่างไร
ขอบคุณภาพ pxhere
ความรู้เรื่องธรรมะถ้าใครอยากรู้จริงๆก็ไม่ได้ยากเย็นเท่าไรนัก เว้นแต่จะมองว่าตอนนี้เรามีอย่างอื่นสำคัญกว่าที่ต้องทำก็แค่นั้น
1
ก็หลายคนยังสนุกอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าการใช้ชีวิต บางคนอยากท่องเที่ยว ยังตื่นเต้นอยู่กับการได้เห็นสถานที่ใหม่ๆอยู่ บางคนอยากเรียนให้สูงที่สุด ถ้าไม่จบดอกเตอร์เรียกว่ายังไม่ถึงที่สุดของใจ แต่บางคนก็อยากรวย อันนี้มีมากที่สุด ดูง่ายๆสำหรับคนที่อยากรวย เขาจะชอบหาเทคนิคพิเศษแบบที่เป็นทางลัดไปสู่เป้าหมาย หรือหากลยุทธ์ที่จะชนะในเกมธุรกิจ เคล็ดวิชาที่คนอื่นไม่รู้แต่เรารู้ คำว่าวิเคราะห์จะถูกใช้บ่อยมาก เช่นวิเคราะห์หุ้น วิเคราะห์ลูกค้า วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค วิเคราะห์ราคาทอง วิเคราะห์ค่าเงินบาท วิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจ ธุรกิจไหนปัง ธุรกิจไหนแป้ก วิเคราะห์เพื่อให้รู้ก่อนที่จะเกิด แบบเดียวกับพยากรณ์อากาศนั่นแหละ อย่างน้อยก็เพื่อตั้งรับได้ทัน แต่ที่สุดก็เพื่อแสวงประโยชน์จากการรู้ก่อน นั่นเอง ถ้ารู้ว่าพรุ่งนี้ทองจะขึ้นวันนี้ก็จะได้ไปซื้อตุนไว้ ถ้ารู้แนวรถไฟฟ้าจะได้ไปกว้านซื้อที่ดินหรือคอนโดไว้รอ โครงการมาเมื่อไรก็เข้าทางเราปังเลย
3
จะให้บอกให้เลิกวิเคราะห์ก็คงต้องบ้าไปแล้วก็ใครๆก็อยากรวย กันทั้งนั้น มัวแต่เซ่อๆ บื้อๆ คนอื่นเขาก็เอาไปกินหมดแล้ว
การประกอบอาชีพเลี้ยงตนเลี้ยงครอบครัว พระพุทธเจ้าก็ให้ทำในแบบสุจริต ไม่ได้ห้ามมีความมั่งคั่ง แต่ถ้าอยากได้มากจนเกินไปก็อาจจะเลยเถิดไป จากการสร้างความได้เปรียบไปเป็นการเอาเปรียบแทน เหมือนเราใช้สารกระตุ้นในเกมการแข่งขันกีฬาเพื่อให้ได้เปรียบคู่แข่ง ก็มีโอกาสถูกปรับแพ้ถ้าหากถูกตรวจเจอ
นิยามที่เปรียบเทียบให้เห็นเป็นรูปธรรมเรื่องโสดาบัน พระพุทธเจ้าเปรียบเหมือนเสาหินยาว๑๖ศอก ฝังลงในดิน๘ศอก โผล่ขึ้นมาบนดิน๘ศอก ลมพัดมาทางทิศไหนก็ไม่หวั่นไหว ยังคงตั้งตระหง่านไม่เอนเอียงไปตามแรงลม
แต่เปรียบเอาปุถุชนหมือนปุยนุ่น บางเบา ลมพัดมาทางซ้ายก็ปลิวไปทางซ้าย ลมพัดไปทางขวาก็ปลิวไปทางขวา
ลม ก็คือ สิ่งเร้าภายนอกที่มากระทบ โสดาบันจะไม่หวั่นไหวในขณะที่ปุถุชนจะไหลตามไปในทันทีเมื่อมีอารมณ์มากระทบ
เราก็ลองสังเกตุตนเองดูก็รู้ เวลามีคนมาตำหนิเราแล้วเรามีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร เรารับฟังด้วยดีแล้วพิจารณาหรือเรารีบสวนไปทันควันอย่างกราดเกรี้ยว
การที่เป็นโสดาบันมันก็ยังมีนัยยะอีกมากที่ต้องศึกษา ไม่ว่าจะเรื่องศีล หรือเรื่องความศรัทธา เรื่องสังโยชน์
แต่ที่ใครๆอยากได้โสดาบันเพราะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้โกหกเรา คือศรัทธาในพระพุทธเจ้า และศรัทธาในคำสอนของพระองค์
พระองค์ยืนยันว่าใครเป็นโสดาบันแล้วสามารถปิดประตูอบายได้ หมายความว่า นรก เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย จะไม่ต้องเป็นที่ไปของเราอีกต่อไป อย่างเลวร้ายสุดก็ได้มาเกิดเป็นคนอีก ซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคนที่ยังเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารนี้
ถ้าเชื่อว่าเราสามารถปิดประตูอบายภูมิได้จริง เราก็ควรเร่งวิเคราะห์หากลยุทธ์ที่จะไปถึงความเป็นโสดาบันก่อนใครเพื่อชิงความได้เปรียบจะได้ไม่ต้องไปทนทุกข์ทรมานที่ไม่รู้จบอีก
ธรรมะสวัสดี
โฆษณา