แนวคิดรวมไปถึงข้อจำกัดในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่จะขึ้นอยู่กับประเภทและขนาดของหน่วยธุรกิจนั้นๆ เริ่มตั้งแต่ระดับบุคคล startup SME ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งมีความแตกต่างกัน
ในส่วนของ SME นั้น การเริ่มต้นธุรกิจใหม่มักจะเรียบง่ายและอยู่ในรูปแบบของ Me Too คือการขายสินค้าหรือบริการตามกันในท้องตลาด เช่น การเปิดร้านอาหาร การขายสินค้าออนไลน์ การผลิตสินค้าเกษตร ฯลฯ โดยธุรกิจส่วนมากมักจะตามกระแสและไม่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน การเริ่มต้นธุรกิจจะง่ายแต่จะอยู่รอดในระยะยาวค่อนข้างยาก
สำหรับบริษัทขนาดใหญ่การเริ่มต้นธุรกิจใหม่จะใช้คำว่า “พัฒนาธุรกิจใหม่” หรือ new business development บริษัทใหญ่ที่มีข้อได้เปรียบในเรื่องของทรัพยากรทั้งเงินทุน ชื่อเสียง บุคลากร ฐานลูกค้า แต่การพัฒนาธุรกิจใหม่ภายในองค์กรก็มีข้อจำกัดมากมาย ตั้งแต่เรื่องของขั้นตอนการอนุมัติ ทีมพัฒนาธุรกิจเองที่ไม่ได้มีหัวใจของผู้ประกอบการ องค์กรมีขนาดใหญ่ทำให้การปรับเปลี่ยนเป็นไปได้ยากและใช้เวลา ฯลฯ ถึงแม้ว่าทีมพัฒนาธุรกิจจะได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายจากผู้บริหารแต่การทำธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจเดิมยังเป็นไม่ได้ยากด้วยหลายๆปัจจัย หลายบริษัทเลยเลือกที่จะตั้งหน่วยงานแยกมาต่างหากในรูปแบบของ corporate venture capital เพื่อใช้ในการลงทุนกับ startup ทั่วโลก หรือการตั้งหน่วยงานนวัตกรรมภายในองค์กร เช่น NEXT หน่วยงานนวัตกรรมของ AIS ในการปลุกปั้น startup จากคนภายใน นอกจากนี้ยังใช้วิธีการควบรวมกิจการ (M&A) และร่วมทุน (joint venture) เพื่อให้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย