“ผู้คนไม่ได้ซื้อสิ่งที่คุณทำ แต่ซื้อเพราะเหตุผลที่คุณทำมันต่างหาก”
นี่คือสิ่งที่ Simon Sinek ย้ำเตือนในหนังสือ Start With Why หลายต่อหลายครั้ง แต่คนส่วนใหญ่เวลาทำธุรกิจก็มักจะให้ความสำคัญว่าตัวเองทำอะไร ทำอย่างไร แล้วก็พยายามขายในสิ่งที่ตัวเองทำ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าทำไมตัวเองถึงทำสิ่งนี้อยู่
แล้วพอไม่รู้เหตุผล จุดมุ่งหมาย เจตนารมณ์ หรือ ความเชื่อ ในการทำธุรกิจของตัวเอง สิ่งที่พวกเขาทำส่วนใหญ่ก็คือ การจับตาดูคู่แข่งว่า ตอนนี้คู่แข่งทำอะไรที่ดีไปกว่าตัวเองบ้าง แล้วก็พยายามเพิ่มคุณสมบัติในสินค้าของตัวเองให้เหนือกว่านิดหน่อย หรือไม่ก็ใช้สิ่งล่อใจอย่างการ ลดราคา จนถึงขั้นแข่งกันตัดราคา ซึ่งนอกจากมันจะสร้างความจงรักภักดีที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ไม่ได้แล้ว มันยิ่งเป็นการทำร้ายธุรกิจของตัวเองให้อ่อนแอลงอีกต่างหาก
ในขณะที่คนที่รู้เหตุผลในสิ่งที่ธุรกิจของตัวเองทำอย่างชัดเจนแทบจะไม่ต้องแยแสคู่แข่งเลย
“สภากาแฟ 36” คือ ร้านกาแฟของ คุณโอ อภิรักษ์ บัวเพ็ชร เพื่อนรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยของผม
ถ้าพูดถึง เวลาคุณเข้าไปสั่งเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟ คุณนึกถึงบรรยากาศแบบไหนครับ ?
ก็คงนึกถึงการเปิดประตูเข้าร้าน แล้วมีเสียงทักทายจากพนักงาน จากนั้นคุณก็เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ ต่อมาก็สั่งเครื่องดื่มตามเมนูที่คุณต้องการ แล้วก็ไปนั่งรอเรียกคิวที่โต๊ะ และเมื่อได้เครื่องดื่มมาแล้ว คุณก็นั่งจิบกาแฟชิลๆ หรือ ไม่ก็นั่งทำงานแบบสบายๆ
คนที่อยากเปิดร้านกาแฟส่วนใหญ่มักรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง นั้นคือ การทำกาแฟ การจัดร้านให้สวย มีอินเทอร์เน็ตให้ใช้ รวมไปถึงการเปิดเพลงเบาๆ
แต่พอถามคนเหล่านั้นว่า “คุณเปิดร้านกาแฟนี้ทำไม” คนส่วนใหญ่มักตอบไม่ได้ หรือ ถ้าตอบได้ก็คงหนีไม่พ้นคำตอบที่ว่า เพราะเป็นคนชอบดื่มกาแฟ ซึ่งจริงๆ นั้นไม่ใช่เจตนารมณ์ที่แท้จริง
แต่ถ้าไปถาม คุณโอ เจ้าของร้าน “สภากาแฟ 36” คุณจะได้คำตอบที่ชัดเจนและทรงพลังมาก นั่นคือ “เพื่อคนปัตตานี ได้ดื่มกาแฟคุณภาพดีในราคาที่ถูก และ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ด้านกาแฟให้พวกเขา”
เพราะถ้าคุณเดินเข้าไปในร้านของสภากาแฟ36 คุณจะไม่เห็นเครื่องทำกาแฟแบบร้านทั่วไป แต่คุณจะเห็นเครื่องทำกาแฟแบบสโลว์ บาร์ เมื่อคุณเดินไปที่เคาน์เตอร์ พนักงานก็จะถามคุณว่า...
ปกติไปร้านกาแฟ สั่งอะไรครับ ?
ถ้าสั่งกาแฟลาเต้...
พนักงานก็จะเริ่มรู้ว่าคุณเป็นคนดื่มกาแฟ “แนวนม”
จากนั้นพนักงานก็จะถามต่อว่ากิน “หวาน” หรือ “ไม่หวาน”
ถ้า “ไม่หวาน” พนักงานก็จะแนะนำเมล็ดกาแฟที่เป็นของนอก แล้วก็เล่าให้ฟังว่าเมล็ดกาแฟของนอกจะมีคาแรคเตอร์ ที่มีความเป็นถั่ว ช็อคโกแลต บลูเบอรี่ ดอกไม้ หรือ กลิ่นต่างๆ
จากนั้นพนักงานก็จะถามต่ออีกว่า กินเปรี้ยวไหม เพราะถ้า “ไม่กินเปรี้ยว”
ก็จะแนะนำเมล็ดกาแฟที่มีเปรี้ยวน้อยอย่าง “โคลัมเบีย” หรือ “บราซิล ซานโตส”
แล้วก็ทำกาแฟที่เป็น "สูตรพิเศษเฉพาะตัวคุณ" มาเสิร์ฟให้
แล้วก็แนะนำวิธีการดื่มให้กับคุณ ว่าถ้าคุณอยากได้รสชาติกาแฟเข้มๆ ก็ให้ยกดื่ม หรือ ถ้าอยากได้แบบกลมกล่อมก็ให้ใช้หลอดคนกาแฟให้เข้ากัน แล้วค่อยดูดเข้าไป เพื่อให้คุณได้เอ็นจอยกับกาแฟอย่างเต็มที่
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมาที่ร้าน “สภากาแฟ 36” คุณจะไม่ใช่แค่ได้กาแฟกลับไป แต่คุณจะได้ทั้งความรู้ใหม่ๆ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับกาแฟกลับไป
แถมถ้าวันไหนคุณมีเวลาอยากจะทำกาแฟเองด้วยเครื่องแบบสโลว์ บาร์ คุณก็สามารถลองประสบการณ์ใหม่ๆ แบบนี้ได้ โดยที่พนักงานจะคอยบอกวิธีการทำกับคุณอย่างใกล้ชิด
เพราะร้านกาแฟแห่งนี้ เกิดขึ้นมาเพื่อ “เปิดประสบการณ์ใหม่ด้านกาแฟให้กับผู้คน”
ด้วย “ความเชื่อ” ที่ชัดเจนว่า กาแฟไม่ใช่แค่สิ่งที่ดื่มเพื่อให้มีแรงทำงาน แต่มันคือการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และ ความเอ็นจอยขณะที่ได้ลิ้มรสกาแฟต่างหาก
ร้านสภากาแฟ 36 จึงดึงดูดผู้คนที่มี “ความเชื่อเดียวกันเกี่ยวกับกาแฟ” เข้ามาที่ร้านอย่างมากมาย
การสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ จึงไม่ใช่การทำให้สินค้ามีคุณสมบัติ คุณภาพ หรือ ราคา ที่แตกต่าง เพราะความแตกต่างที่แท้จริงอยู่ที่ “จุดมุ่งหมายและวิธีการต่างหาก”
และเชื่อไหมว่าทุกวันนี้ คุณโอ แทบไม่ต้องปวดหัวกับคู่แข่งเลยว่า “ใครจะมาเปืดร้านกาแฟเพิ่ม วันนี้ใครจะออกกาแฟรสชาติใหม่ หรือ แบรนด์ใหญ่ที่เปิดร้านอยู่ไม่ไกลจะออกโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 “
เพราะเขารู้ดีว่า “เขาเปิดร้านสภากาแฟ36 แห่งนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร และผู้คนต่างก็ซื้อกาแฟที่นี่เพราะเหตุผลที่เขาทำ”
ดังนั้น ถ้าคุณคิดจะธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การหา “Why” ของตัวเองให้เจอ !!
Start With Why ทำไมต้องเริ่มด้วย “ทำไม”
หนังสือที่จะพลิก ชีวิต และ การทำธุรกิจของผมและคุณไปตลอดกาล
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
แต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล
- 51
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
