ช่องทางการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ
จากบทความก่อน เมื่อเราพอจะรู้ปัญหาที่ทำให้เงินในวัยเกษียณไม่เพียงพอแล้ว ในส่วนของช่องทางในการออมเงินเพื่อวัยเกษียณนั้นก็มีหลายทาง แต่ช่องทางที่จะช่วยให้เราออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญและทำความเข้าใจ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาเรียนรู้กันเลยค่ะ
⛳ กองทุนประกันสังคม (Social Security Fund)
การออมในกองทุนประกันสังคมนั้น จะเป็นภาคบังคับตามกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทห้างร้านต่างๆ จะต้องมีการขึ้นทะเบียนนายจ้างและนำส่งเงินประกันสังคม ซึ่งจะเข้าตามมาตรา 33 มีผลทำให้ลูกจ้างหรือผู้ประกันตน จะมีเงินออมจากส่วนของเงินประกันสังคมนี้ไปโดยปริยาย ซึ่งผู้ประกันตนบางท่านอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน สำหรับเงินออมส่วนนี้ จะเรียกกันว่า “กองทุนชราภาพ” นั่นเอง
กองทุนชราภาพ เป็นส่วนหนึ่งของเงินค่าประกันสังคมที่จะถูกหักไว้จากฐานเงินเดือน 5% สูงสุดไม่เกิน 750 บาท แต่จากสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 ทางสำนักงานประกันสังคม ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตนโดยการลดอัตราประกันสังคมลงเหลือ 1% หรือสูงสุดไม่เกิน 150 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในช่วงเดือน มีนาคม - พฤษภาคม 2563 และมีการปรับอีกครั้งเป็น 2% สูงสุดไม่เกิน 300 บาท เป็นระยะเวลาอีก 3 เดือน ในช่วง กันยายน - พฤศจิกายน 2563
สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนจากประกันสังคมนั้น จะเป็นเงินออมไว้ใช้เมื่อยามเกษียณ หรือเรียกว่ากองทุนชราภาพ ผู้ประกันตนจะได้รับคืนเมื่ออายุครบ 55 ปี โดยในการคำนวณเงินคืน ทางสำนักงานประกันสังคมจะทำการคำนวณจากเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (จะขอยกไปกล่าวในบทความต่อไปนะคะ)
⛳ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)
สำหรับคนที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชนชั้นนำ ทางบริษัทจะจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งในปัจจุบัน ลูกจ้างสามารถเลือกสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้มากถึง 15% ของเงินได้ที่เสียภาษี และยังสามารถนำยอดเงินสะสมไปหักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เรายังมีโอกาสได้รับเงินสมทบจากนายจ้างเพิ่มเติม ดังนั้นใครที่ทำงานบริษัทก็อย่าลืมสมัครกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อใช้เป็นช่องทางในการออมเงินสำหรับเกษียณอายุกันนะคะ
นอกจากนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพในบางบริษัทยังสามารถให้ลูกจ้างเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้เอง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้กับเงินที่อยู่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกทางหนึ่งด้วย
⛳ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
เป็นกองทุนรวมประเภทที่ส่งเสริมให้เกิดการ ออมเงินระยะยาวไว้สําหรับใช้จ่ายยามเกษียณ อีกทั้งยังสามารถนำยอดเงินลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของเงินได้ที่เสียภาษี ซึ่งคล้ายๆ กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
โดยในแต่ละปีเมื่อนำไปรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และเบี้ยประกันบำนาญจะต้องไม่เกิน 5 แสนบาท เงื่อนไขสำคัญในการลงทุนกองทุน RMF คือ ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปีไปจนถึงอายุ 55 ปี (เว้นได้อย่างมาก 1 ปี)
และเงินลงทุนก้อนแรกต้องลงทุนมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี จึงจะสามารถขายกองทุนได้โดยไม่ผิดเงื่อนไข การลงทุนในกองทุน RMF จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้แผนเกษียณของเราเป็นไปตามเป้าหมายได้ค่ะ
💦.....โดยทั้ง 3 ช่องทางที่กล่าวมานั้น อาจเป็นช่องทางพื้นฐานทั่วไป แต่ผู้เขียนก็หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ท่านผู้อ่านมองเห็นช่องทางในการเตรียมตัวสู่วัยเกษียณกันนะคะ
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ช่องทางอื่นในการติดตาม เพจลงทุนในบัญชีและภาษี
Website : https://accounting.bsv-th.com/
Website : https://www.bsv-th.com/
ขอบคุณทุกกำลังใจและการติดตามนะคะ 🙏🙏😘😘
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
