5 พ.ย. 2020 เวลา 17:53 • ปรัชญา
ยิ่งอายุมากขึ้นเรากลับทุกข์กับสิ่งที่เป็นภาพมายามากขึ้น
ดอกบัวตองที่ผมขอท่อนพันธุ์จากชาวบ้านมาปลูกเริ่มออกดอกบานสะพรั่งแล้วเป็นสัญญาณว่ากำลังจะเข้าสู่หน้าหนาวแบบเต็มตัว ข้าวเริ่มสุกเหลืองเต็มท้องนาได้เวลาเก็บเกี่ยวแล้ว
จำได้ว่าเมื่อตอนเป็นเด็กครอบครัวเรายากจน เรามีที่นาน้อย ทำให้ได้เข้ากินแค่ครึ่งปีก็หมดแล้ว ที่เหลือคือเราต้องดิ้นรนปลูกผักปลูกแตงกวาเพื่อเอาไปขายหรือเอาไปแลกข้าวในหมู่บ้านอื่นๆมากิน ความทุกข์ในตอนเป็นเด็กก็คือความอดอยาก ความหิว ความเหนื่อยล้าจากการทำงานและความเจ็บป่วยตามประสาเด็กๆ
แต่พอโตขึ้นเรียนจบมีงานทำ มีข้าวกินอิ่มมีบ้านนอนอุ่น แต่ผมกลับทุกข์จากผู้คนรอบตัวจากเพื่อนร่วมงาน ความเหนื่อยล้าความเครียดทางสมองและความอ่อนล้าทางจิตใจ ผมไม่ได้ทุกข์ทางกายอีกแล้วแต่กลับต้องมาทุกข์ทางใจแทน จริงๆคนเราก็ต้องการแค่ปัจจัยเบื้องต้นในการดำรงชีวิต หากต้องการมากกว่านั้น เช่นตำแหน่ง ชื่อเสียง การยอมรับจากคนอื่นก็จะทำให้เกิดการเบียดเบียนกัน หากเราได้สัมผัสกับท้องไร่ท้องนา ท้องฟ้า ดอกไม้และสายลม เราก็จะคิดได้ว่าจริงๆแล้วชีวิตเราก็ต้องการอยู่แค่ไม่กี่อย่างนอกเหนือจากนั้นล้วนเป็นความฟุ้งเฟ้อทั้งนั้น
โฆษณา