Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Spirits of Siam
•
ติดตาม
8 พ.ย. 2020 เวลา 13:35 • นิยาย เรื่องสั้น
#จันทร์เจ้าขาบทที่4ตอนที่26,
(8/11/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
คืนวันอาทิตย์นี้ ขอส่งจันทร์เจ้าขา ตอนใหม่ ให้เพื่อนๆได้อ่านเพลิดเพลินก่อนนอนกันนะครับ 😇❤️💙💚🎶🎵
สุขสันต์วันอาทิตย์นะครับ
..
..
บทที่ 4 ขจรมาลา
ตอนที่ 26 จันทรารัศมี (5)
#ณ.ลานฝึกหัดบินของเหล่าเมขลาบนยอดคีรีการเวก
“ได้โปรด ช่วยคุณหนูน้อยซ์ ด้วยเถิดขอรับ..หม่อมท่าน”
โหงพรายใช้กำลังเฮือกสุดท้าย ดึงข้อมือ คุณหนูน้อยซ์ ออกมาจนตะเกียงที่ร้าวนั้น แตกออก ดังลั่น ..
พร้อมประกายสว่างวาบ
“เปรี๊ยะ!!! เพล้งงงง!!!”
..
..
ทุกคนต่างหันมองไปที่ตะเกียงอัคคีมรกต ที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ..และอัคคีมรกตที่กำลังจะวูบดับลง..อย่างตกใจ ทำอะไรไม่ถูก..
..
..
“ฮะฮะฮะ..ฮะฮะฮะ”
ทันใดนั้นท่านท้าววิฬุรหก หัวเราะเสียงดังขึ้นมา พร้อมกับ..ยิ้มขยิบตาข้างซ้ายให้คุณหนูพา ..ก่อนที่อัคคีมรกต จะลุกโชนสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง..
พร้อมกับ ร่างของคุณหนูน้อยซ์ ที่ลอยออกมาจากอัคคีมรกต ราวกับมีผู้วิเศษ กำลังประพรมมนต์วิเศษ..
และอุ้มคุณหนูน้อยซ์ไว้ในอ้อมกอดอย่างนิ่มนวล..
..
..
คุณหนูพา ยกมือขึ้นไหว้ขอบพระคุณท่านท้าววิฬุรหก ก่อนที่รีบวิ่งถลาเข้าหาคุณหนูน้อยซ์..
แล้วใช้ผ้าเช็ดเขม่าควันดำ และพยายามดับประกายไฟระอุ ที่แตกดังเปรี๊ยะๆ อยู่ทั่วกายของคุณหนูน้อยซ์..อย่างเป็นห่วง..
“โถ..คุณหนูน้อยซ์ ของหนูพา” ..
”หงษ์พรายจ๋า.. ใครช่างใจร้าย ทำกับคุณหนูน้อยซ์เช่นนี้ได้นะ..ฮือๆ”
คุณหนูพาพูดเสียงสั่น พลางเช็ดน้ำตา ..แล้วจึงหันไปหาหม่อมทินกร ร้องขอให้หม่อมทินกรเข้าช่วยแก้ไข
“หม่อมท่านเจ้าขา ขอจงโปรดช่วยแก้ไข ให้คุณหนูน้อยซ์ ด้วยเถิดนะเจ้าคะ..
หัวใจของหนูพาเจ็บปวด จนแทบแหลกสลายแล้วเจ้าค่ะ.. ได้โปรดช่วยด้วยเถิดนะเจ้าคะ หม่อมท่าน..”
หม่อมทินกร ค่อยๆเคลื่อนเข้าหาหนูพา พลางถอนหายใจยาว แล้วรำพึงว่า..
“แม่หนูพา นี่มิใช่ ประกายไฟธรรมดา..หากแต่เป็น สายฟ้าสถิตย์จากยันต์พระอสุนิบาต..ที่ไม่มีวันดับ
และกำลังเผาวิญญาณจิต รวมถึงอวัยวะภายในของแม่หนูน้อยซ์อยู่..จนกว่าจะสิ้นกรรม,
มิมีผู้ใดจะช่วยได้.. แม้แต่ตัวของข้า..
ผู้ที่จะช่วยแม่หนูน้อยซ์ได้ ก็คงจะมีแต่เจ้าเท่านั้นแล้ว..แม่หนูพา..
เจ้า จะยอมช่วยหรือไม่อย่างไร.. ขอให้เป็นไปตามเจ้าตัดสินใจเถิด..”
หนูพาลุกขึ้นยืน พลางเอาแขนยกขึ้นปาดเช็ดน้ำตาป้อยๆ อย่างมีความหวัง..
แล้วจึงรีบตอบหม่อมทินกรอย่างไม่ลังเล ว่า..
“คุณหนูน้อยซ์ เป็นเพื่อนรักของหนูพาเจ้าค่ะ..
ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต
หนูพาก็ยินดีจะสละให้เจ้าค่ะ.. ได้โปรดช่วยคุณหนูน้อยซ์ด้วยเถิดนะเจ้าคะ หม่อมท่าน ..”
หม่อมทินกร มองหน้าหนูพานิ่งด้วยความเอ็นดู ก่อนที่จะวาดมือเป็นวงกลางอากาศ ให้มีภาพในอดีตกาลปรากฏขึ้นตรงหน้า พร้อมกับเสียงของหม่อมท่าน
เอ่ย ตามว่า..
“๑ กรรมก่อเกิด เริ่ม
เมื่อครั้ง,
แม่หนูน้อยซ์ ยังเป็น
เมขลา,
บินฝ่า พายุโมหะ
กลางนภา,
ฝุ่นกิเลส ตามติดมา
เข้าเกาะใจ,
๒ อิจฉา ริษยาเข้า
เฝ้าเกาะกุม,
เพลิงเริ่มสุม โหมแรง
ในใจใส,
เผาจิตร้อน รุ่มเหลือ
อยู่ภายใน,
จึ่งวางแผน ทำร้าย
เพื่อนรัก,
๓ เมขลา พาริส
คือ ว่าที่..,
ราชินี ครองนคร
อันสูงศักดิ์,
คือผู้ที่ สมหวัง
สุดงามพักตร์,
คือศูนย์รวม ความรัก
เหล่าเมขลา..,
๓ ครั้นเมื่องาน คัดสรร
ตามวาระ,
เพลิงโมหะ รุมเร้า
เกินรักษา,
จึงแอบเสก มนต์ใส่
มณีจันทรา,
แล้วเขวี้ยงหา เมขลา
พาริส,
๔ สว่างวาบ วูบหนึ่ง
แล้วร่วงตก,
หทัยหก ฤดีร้าว สะท้านจิต
จึงกลับใจ เข้าช่วย
หนึ่งเนื้อมิตร,
ยอมสละ ชีวิต
กระโดดตาม,
๕ สองเมขลา จมดิ่ง
สีทันดร,
บังเกิดก่อน จุติใหม่ในสยาม,
อีกดวงจิต พลัดหลง
มาเกิดตาม,
วงเวียนกรรม วนมาใหม่
ให้ใช้คืน..”
..
..
คุณหนูพายกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาอีกครั้ง แล้วจึงสะอื้นร้องขอหม่อมทินกรว่า..
“ฮึก ฮึก หม่อมท่านเจ้าขา
หากความยุติธรรม นำมาซึ่งวงเวียนกรรม..ให้ชดใช้
การให้อภัย อโหสิกรรม ของหนูพา นั้นก็มาจากความรักที่หนูพาได้รับจากคุณหนูน้อยซ์เสมอมาเจ้าค่ะ..
หนูพารู้สึกอบอุ่น ผูกพัน กับคุณหนูน้อยซ์ เหมือนเพื่อน..
เหมือนพี่สาวคนหนึ่ง ของหนูพา เจ้าค่ะ ..ฮึก..ฮึก
ฮือ..ฮือ หนูพารักคุณหนูน้อยซ์ เจ้าค่ะ.. หนูพาไม่อยากเสียคุณหนูน้อยซ์ไปเจ้าค่ะ ฮือ..ฮือ
หม่อมท่านเจ้าขา..
โปรดช่วยคุณหนูน้อยซ์ ด้วยเถิดนะเจ้าคะ ฮือ ฮือ..”
หนูพาก้มลงกราบที่เท้าของหม่อมท่าน อ้อนวอนร้องขอ
ตัวสั่น อยู่อย่างนั้น
“ฮือ..ฮือ นะเจ้าคะ ฮือ..ฮือ”
หม่อมทินกรจึงย่อตัวลง ลูบศีรษะของคุณหนูพา อย่างเมตตา ..ก่อนที่จะใช้มือค่อยๆเช็ดปาดหยดน้ำตาใสของคุณหนูพา..แล้วจึงกล่าวบทอมฤตธารณี เบาๆร่ายพรม บนหยดน้ำตา ว่า..
“นะโม รัตนะตรายายะ นมะ อารยะ อมิตาภายะ,
ตถาคตายะ อรหเต สัมยักสัมพุทธายะ,
ตยถา โอม อมฤเต อมฤโต ตุภเว,
อมฤตะสัมภเว อมฤตะการเภ อมฤตะสิทเธ อมฤตะเตเช,
อมฤตะวิการันเต อมฤตะวิการันตา กามินี อมฤตะคะคะนา,
กีรติกาเร อมฤตะทุนทุภิ สวาเร สรวาระถะ สาธะเน
สรวะกรรมะ กะเรชา ชายัม กาเร สวาหา,”
จากนั้น จึงป้ายหยดน้ำตาใส ที่บริเวณประตูจักระ บริเวณหว่างคิ้ว.. ดวงตา และริมฝีปาก..
..
..
ทันที ที่หยดน้ำตาใสสัมผัสยังร่างของคุณหนูน้อยซ์ ประกายไฟภายในร่างที่เคยไหววาบ ปะทุอยู่ก็ค่อยๆมอดดับ เปลี่ยนกลับเป็นสีฟ้าสว่าง แห่งชีวิต ..
ในขณะที่ผิวกายก็ปรากฏเลือดฝาด เต็มทั่วกาย พร้อมกับมีละอองเทพ และรัศมีฉายออกจากภายในช้าๆ พร้อมกับดวงตางามกลมโตใสคู่นั้น ที่ค่อยๆลืมตาขึ้น อย่างช้าๆ..
..
..
เสียงฮือ ร้องสาธุโดยรอบค่อยๆดังขึ้นพร้อมกันว่า
“โอ..สาธุ จันทรารัศมี ปรากฏแล้ว..”
..
..
บริเวณใกล้ๆร่างของ คุณหนูน้อยซ์ ที่ทุกคนกำลังล้อมวงเข้าไปหานั้น..
ร่างของโหงพราย กลับนอนแผ่แน่นิ่ง ..ยิ้มเหงือกแห้ง กว้างคล้ายกบที่ถูกแดดเผา นอนหรา.. อย่างไม่มีคนสนใจ..
คงมีแต่ ท่านท้าววิฬุรหก ที่บินเข้ามาดูใกล้ๆ อย่างสนใจ..พร้อมกับใช้ไม้เท้าเขี่ย ร่ายวนอยู่กลางอากาศ.. แล้วถ่มน้ำลายลงบนร่างหงษ์พราย ..ก่อนที่จะใช้เท้าเหยียบเบาๆ และกดเท้าลงน้ำหนัก พร้อมกับ ร้องว่า...
“เอฟฟาธา (จงเปิดออก)”
เสียงหงษ์พราย สะดุ้งร้องตอบอยู่ใต้ฝ่าเท้านั้น ครั้งหนึ่งว่า
“แอ้กก!!!” แล้วเงียบเสียง..
จากนั้นค่อยๆมีเสียงลมหายใจยาว ตามหลังมา ใต้ฝ่าเท้า ดังว่า..
“แพร่ดดดดด.. “
..
..
“ฮะฮะฮะ..ฮะฮะฮะ ”
ท่านท้าววิฬุรหก หัวเราะชอบใจ ดังลั่น .. ก่อนที่จะค่อยๆบินลอย ..ถอยกลับไปยังกองทัพครุฑ ด้านหลัง
..
..
จบบทที่ 4 ตอนที่ 26
#เกร็ดเพิ่มเติม
คำแปล
นะโม รัตนะตรายายะ
แปลว่า ขอนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย
นมะ อารยะ อมิตาภายะ
ตถาคตายะ อรหเต สัมยักสัมพุทธายะ
แปลว่า ขอนอบน้อมต่อมหาอริยอมิตาภะผู้ตรัสรู้เองโดยชอบแล้ว
ตยถา โอม อมฤเต อมฤโต ตุภเว
แปลว่า บัดนี้จะเปิดเผยความซ่อนเร้นแห่งธรรมมุทราธารณี
เป็นการเริ่มต้นแห่งการอุบัติในอมฤตทั้งหลาย
อมฤตะสัมภเว อมฤตะการเภ
แปลว่า น้ำอมฤตแห่งธรรมได้ปรากฏแล้ว น้ำอมฤตแห่งธรรมที่ซ่อนเร้นปรากฏแล้ว
อมฤตะสิทเธ อมฤตะเตเช
แปลว่า จงสำเร็จสิทธิทั้งมวลแห่งอมฤต
จงสำเร็จในประภาสอันเป็นอมฤต
อมฤตะวิการันเต อมฤตะวิการันตา
แปลว่า สำเร็จเป็นสิทธาอมฤต สำเร็จเป็นสิทธิอมฤต
กามินี อมฤตะคะคะนา
แปลว่า เพิ่มพูนความมีชีวิตเป็นอมฤต เพิ่มพูนปัญญาเป็นดั่งอมฤตที่กว้างขวางมากมายดุจห้วงนภากาศ
กีรติกาเร อมฤตะทุนทุภิ สวาเร สรวาระถะ สาธะเน
แปลว่า สีหนาทแห่งอมฤต ที่เหนือทวิสภาวะ ดุจเภรีแห่งอมฤตธรรม ได้ดังก้องกังวาลขึ้นนั้น ยังความถูกต้องแห่งอมฤตธรรมทั้งมวล
สรวะกรรมะ กะเรชา ชายัม กาเร สวาหา
แปลว่า กรรมทั้งมวล กิเลสทั้งหลาย จงสูญสิ้นไม่มีเหลือ
สำเร็จและบริบูรณ์ ซึ่งอมฤตธรรมแห่งความเป็นอมิตายุสะตถาคต ด้วยความฉับพลัน ทั้งมวลเทอญ
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
8/11/2020
ข้อมูลสนับสนุนส่วนหนึ่ง:
#แปลถวายพุทธบูชา โดย อี้จู๋หลิน...,เพจค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วง
บันทึก
28
52
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
นิยายจันทร์เจ้าขา
28
52
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย