9 พ.ย. 2020 เวลา 04:14 • นิยาย เรื่องสั้น
Chapter 7 พบเจอ 1 ในกัปตันที่เขี้ยวที่สุด
A Life Experiences Logbook of Seaman
บันทึกประสบการณ์ชีวิตของคนเรือ
เช้ามืดของวันใหม่
ขณะที่คิมยังนอนหลับไหลอยู่นั้น เสียงเคาะประตูห้องร้องเรียกคิมให้ตื่น เขาลุกขึ้นจากเตียง เดินไปเปิดประตูด้วยความงัวเงีย พี่ต้อมนั่นเองที่มาเรียกเขาแต่เช้า พี่ต้อมบอกว่าตีห้าครึ่งเจอกันที่ห้องครัว เริ่มงานนะ คิมรับคำพี่ต้อม หันไปมองนาฬิกาในห้อง มันบอกเวลาว่าตีห้า เขานึกบ่นในใจว่า เราต้องเริ่มงานตั้งแต่เช้าขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ถึงจะบ่นในใจแต่คิมก็จัดแจงเก็บที่นอน รล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัว ออกไปพบพี่ต้อมที่ห้องครัว
เมื่อมาถึงห้องครัว คิมเห็นพี่ต้อมกำลังเตรียมทำความสะอาดห้อง Mess Room คิมก็รีบเข้าไปช่วย หลังจากนั้น พวกเขาก็เริ่มเตรียมหุงข้าวสำหรับฝั่งห้อง Mess ลูกเรือ และฝั่งนายยาม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย คิมถามพี่ต้อมว่าปกติเวลากินข้าวกี่โมงหรอพี่ พี่ต้อมตอบว่า 7 โมงเช้า คิมดูเวลา แล้วบอกว่า แต่นี่ 6 โมงครึ่งละนะพี่ พี่กุ๊กยังไม่มาทำกับข้าวอีกหรอเนี่ย พี่ต้อมยิ้มและพูดว่าเดี๋ยวเอ็งจะรู้ว่า เดี่ยว 5 นาที เป็นยังไงพร้อมหัวเราะ 5555 พี่ต้อมสั่งให้คิมลงไปหยิบไข่ขึ้นมาและเปิดเตาแก๊สรอกุ๊กเดี่ยวไว้เลย เดี๋ยวจะเลย 5 นาที คิมยังคงยืนมึน งง เขาคิดว่าจะทำได้จริงหรอเนี้ย คิดว่าเป็นมุขซะอีก คิมรีบไปเปิดเตาแก๊ส อุ่นไฟรอไว้ และลงไปในสโตร์ยกไข่มาหนึ่งแผง ไม่นานพี่กุ๊กเดี่ยวก็ปรากฏตัว พร้อมบอกเสียงดังว่า ไม่ต้องห่วงน้องๆ ทุกอย่างจัดการได้ หุงข้าวเปิดเตาแก๊สรอพี่แล้วใช่ไหม มาๆ ช่วยพี่ตีไข่หน่อย เดี๋ยวเราจะขายไข่เจียวหมูสับกันเช้านี้ พี่กุ๊กเดี่ยวเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบหมูสับที่เขาได้เตรียมไว้แล้ว นำมาผสมกับไข่ (วางแผนว่าจะตื่นสายไว้แล้วนี่เอง) หลังจากเสร็จสิ้นเมนูไข่เจียว บางส่วนพี่ต้อมก็ยกนำขึ้นไปเตรียมเสริฟที่ห้อง Mess Officer ชั้นบน ส่วนคิมดูแลส่วนของลูกเรือด้านล่าง เมื่อกลุ่มลูกเรือมาถึงห้อง Mess บางคนก็ยิ้มทักทาย แล้วตักไข่เจียวหมูสับจากถาดไป บางคนก็บ่นบ้าง หรือบางคนก็หยอกแต่แอบจิกกัด เพราะว่าทุกเช้าพวกเขาต้องเจอกับเมนูไข่ของพี่เดี่ยว เมื่อช่วงเวลาของอาหารเช้าสิ้นสุดลง พี่ต้อมเก็บของลงมาจากทางชั้นบน แล้วเอ่ยปากบอกกับพี่กุ๊กเดี่ยวว่า กัปตันบ่นแล้วนะเรื่องที่พี่ตื่นสาย และออกเมนูไข่ พี่เตรียมรับมือนะ คิมจ้องมองการสนทนาของทั้งคู่ ในใจคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนะ หลังจากที่คิมทำความสะอาดห้อง Mess ของลูกเรือเสร็จ พี่ต้อมก็ชวนคิมไปทำความสะอาดห้องกัปตัน
ภายในห้องกัปตันถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นห้องรับแขกใช้สำหรับรับรองเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นมาติดต่อบนเรือ ส่วนที่สองเป็นห้องทำงาน จะมี โต๊ะ, คอมพิวเตอร์, ทีวี, ตู้เย็น และเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ส่วนที่สามเป็นห้องนอนและมีห้องน้ำในตัว เมื่อพวกเขามาถึงห้องกัปตันพบว่ากัปตันไม่อยู่ พี่ต้อมบอกว่ากัปตันน่าจะเดินออกไปดูงานด้านนอก พี่ต้อมสอนคิมเช็ดทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่น, ปูเตียง และล้างห้องน้ำ ระหว่างที่ทำไปคิมก็คิดอยู่ในใจว่า ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย อยู่บ้านยังไม่ต้องลงมือทำอะไรขนาดนี้เลย หลังจากทำความสะอาดจนเสร็จพี่ต้อมก็แนะนำว่า ถ้าคิมไปลงเรือจะต้องทำความสะอาดห้อง Senior ทั้ง 4 คน โดยวันจันทร์ทำห้องกัปตัน วันอังคารทำห้องต้นกล วันพุธทำห้องต้นเรือ วันพฤหัสบดีทำห้องรองต้นกล และวันศุกร์กลับมาทำที่ห้องกัปตันอีกครั้ง คิมถอนหายใจรับคำพี่ต้อม และทั้งคู่พากันเดินลงมาที่ห้องครัวเพื่อช่วยกุ๊กเตรียมมื้อเที่ยง
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงห้องครัว ก็พบว่ากัปตันกับพี่กุ๊กเดี่ยวกำลังคุยกันอยู่ แต่ดูเหมือนว่ากัปตันกำลังตำหนิพี่กุ๊กเดี่ยวเรื่องมื้อเช้า เมื่อกัปตันหันมาเห็นคิม จึงถามว่า เป็นยังไงบ้างฝึกงานวันแรกพอจะไหวไหม คิมยิ้มตอบกลับว่าไหวครับแต่ต้องเรียนรู้อะไรๆ อีกเยอะครับพี่ กัปตันยิ้มบอกว่าอยู่เรือไม่ง่ายนะน้อง ถ้าใจสู้รู้จักรับผิดชอบก็อยู่กับพี่ได้ คิมยิ้มรับ หลังจากนั้นกัปตันก็พูดคุยกับพี่กุ๊กเดี่ยวและพี่ต้อมต่อไป จนถึงช่วงจะเดินกลับ กัปตันหันมาถามคิมว่า ไอ้น้องกินเหล้าหรือเปล่า คิมตอบกลับว่าปกติผมไม่ดื่มครับ กัปตันยิ้มและบอกว่าเยี่ยม พี่ไม่ชอบคนกินเหล้า พี่กุ๊กเดี่ยวและพี่ต้อมยิ้มหน้าเจื่อนส่วนคิมยิ้มหน้าบาน หลังจากกัปตันเดินจากไป ทั้งสามคนก็เข้ามาพูดคุยกันว่า กัปตันคนนี้เขี้ยวมากนะ ติดอันดับต้นๆ ของบริษัทเราเลย คิมหน้าเสียบอกว่าจริงหรือพี่ พี่กุ๊กเดี่ยวบอกว่าจำชื่อไว้เลยว่ากัปตันวิทย์ เอ่ยลำไหนใครๆ ก็รู้จัก พี่ต้อมได้ยินก็หนุนเสริม คิมรู้สึกเสียวอยู่ในใจ เพราะจากการสังเกตบรรยากาศตอนที่เห็นแกลงมากินข้าว กับการที่แกมายืนคุยในครัว ก็พอจะรู้สึกถึงความตึงเครียดบ้างแล้ว หลังช่วยกันเตรียมมื้อเที่ยงเสร็จ คิมได้รับคำสั่งให้ไปเอาของที่ Gang Way คิมยืนมึน มันคืออะไรที่ไหนอะพี่ พี่กุ๊กเดี่ยวบอก ที่ๆเอ็งเคยผ่านมาครั้งแรกน่ะ ป่ะไปเอาของมา พี่รอใช้อยู่ พี่ต้อมยิ้มยืนเงียบโดยที่ไม่ใบ้บอกว่ามันคือที่ไหน คิมรับคำจะไปให้แต่ระหว่างที่้เดินมาจากห้องครัวก็คิดตลอดว่ามันเป็นที่ไหนนะ เดินไปตามซอกแซกเหมือนเล่นซ่อนหา จนเจอลูกเรือจึงถามเขาว่า พี่ครับ Gang Way อยู่ที่ไหนครับผมจะไปเอาของ ลูกเรือคนนั้นแปลกใจทำสีหน้ามึนงง และตอบว่า เฮ้ยนี่เอ็งไม่รู้จัก Gang Way จริงๆหรือวะ คิมยิ้มอ่อนยอมรับ ผมไม่รู้จักจริงๆ ผมพึ่งลงเรือครั้งแรก ลูกเรือคนนั้นจึงบอกทางให้คิม เมื่อคิมได้เดินไปตามเส้นทางที่เขาบอก ก็ได้พบว่ามันเป็นทางออกไปนอกตัวเรือ ซึ่งมีลูกเรือ 1 คนเฝ้าเวรยามอยู่ เพื่อดูคนขึ้นลงจากเรือ จึงเอ่ยถามลูกเรือคนนั้นอีกครั้งว่า พี่ครับ Gang Way อยู่ที่ไหนครับพี่กุ๊กให้ผมมาเอาของ ลูกเรือคนนั้นหัวเราะแล้วบอก ที่นี่ละไอ้น้องเขาเรียก Gang Way นี่ลงเรือครั้งแรกใช่ไหมเนี้ย คิมยิ้มกลับไปก่อนจะตอบว่า ใช่ครับพี่สงสัยพี่กุ๊กแกล้งผม ให้ผมเดินหาGang Way ทั่วทั้งลำ เมื่อได้ของที่พี่กุ๊กให้มาเอา คิมก็เดินกลับมาที่ห้องครัว พร้อมกับบ่นพี่กุ๊กและพี่ต้อมที่แกล้งเขาให้เดินหาGang Way ซะรอบลำ ทั้งคู่ต่างหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งคิม แต่ก็เอาเถอะถือเป็นการสานสัมพันธ์ที่ดี ทำงานร่วมกันจะได้ไม่เครียด คิมบอกตัวเองแบบนั้น
หลังจากเสร็จมื้อเย็น ซึ่งก็ผ่านไป 1 วันเต็มๆ ที่คิมได้ฝึกงาน เขาเดินกลับห้องพักมองนาฬิกาภายในห้องเป็นเวลาประมาณ 1 ทุ่ม เขารู้ว่าหน้าที่ Messman นี้ ในแต่ละวันมีรายละเอียดของงานค่อนข้างมาก คิมหยิบสมุดมาจดรายละเอียด ว่าในแต่ละวัน ต้องทำอะไรบ้าง และลงเวลากำกับไว้ด้วยว่าแต่ละงานจะต้องทำให้แล้วเสร็จตอนไหน ที่สำคัญเขาต้องยอมรับว่าการทำงานในตำแหน่งนี้ ต้องตื่นก่อนและนอนทีหลังคนอื่นจริงๆ เมื่อคิมทำใจยอมรับได้ และพยายามหาข้อดีของงานมาเสริม นั่นก็คือ เรื่องเงินเดือนที่เพิ่มมากกว่าที่เก่า เขาก็ค่อยรู้สึกดีขึ้น จึงไปอาบน้ำชำระร่างกายและกลับมาโทรศัพท์หาครอบครัวและคนรักของเขา เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฟัง คิมไม่เคยอยู่ห่างไกลจากครอบครัวเลย เวลาเกิดปัญหาในชีวิต หรือมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เขาจะได้ระบายและปรึกษาครอบครัวตลอด.....แต่หลังจากนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
โฆษณา