9 พ.ย. 2020 เวลา 09:48 • อสังหาริมทรัพย์
กรมธนารักษ์เปิด “Senior Complex“ ที่พักผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์ ราคาเริ่มต้นที่ 1.82 ล้าน
จากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ โดยกรมธนารักษ์สนับสนุนที่ราชพัสดุเพื่อดำเนินโครงการ "ศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร" บนที่ดินราชพัสดุ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีที่พักอาศัยพร้อมอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ มีระบบดูแลสุขภาพและสวัสดิการอื่นๆ แบบครบวงจร ซึ่งในปีงบประมาณ 2563 กรมธนารักษ์ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จัดสร้าง "ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์" เป็นโครงการนำร่องของกรมธนารักษ์
5
โดยที่พักดังกล่าวสร้างบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขที่ สป.623 บางส่วน ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ 20 ไร่ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย และตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพ
1
ซึ่งจะมีการเปิดจองสิทธิโครงการฯ ระหว่างวันที่ 9 - 30 พ.ย. 2563 นี้โดยมีราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 1.82-2.99 ล้านบาท ราคารวมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า การออกแบบโครงการฯ ได้รับการออกแบบภายใต้หลักสถาปัตยกรรมเพื่อทุกคน (Universal Design Architecture)ซึ่งคำนึงถึงสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ มีห้องพักรวมทั้งสิ้น 921 ห้องเป็นอาคาร 8 ชั้น จำนวน 7 อาคารขนาดห้องพัก 31.71 –49.66 ตรม. ราคาเริ่มต้น 1.82 ล้านบาทขึ้นไปซึ่งด าเนินการจัดสร้างและบริหารโครงการฯ โดยบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง
คุณสมบัติผู้สูงอายุที่จะเข้าพักในโครงการฯ
1.สามารถใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการได้รายละไม่เกิน 1สัญญา อายุ 60 ปีขึ้นไป ณ วันที่เข้าพัก
1
2. พักอาศัยได้ไม่เกิน 2 คน ต่อหน่วย/ยูนิต โดยให้ผู้ที่มีคุณสมบัติหลักสัญชาติไทย อย่างน้อย 1 คน
5
3.ผู้สูงอายุจะต้องผ่านการคัดกรองสุขภาพตามหลักเกณฑ์ที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนดก่อน จึงจะสามารถเข้าพักอาศัยในโครงการฯ
5
4.สามารถรับเงื่อนไขการกู้จากสถาบันการเงินได้ (เฉพาะกรณีขอสินเชื่อ)
2
5.ไม่สามารถซื้อขายหรือโอนสิทธิการเช่าให้บุคคลอื่นได้ เว้นแต่ขายคืนให้แก่ผู้บริหารโครงการฯ และกรณีที่ประสงค์จะออกจากโครงการฯ ก่อนกำหนดหรือกรณีเสียชีวิต สิทธิการพักอาศัยจะถูกระงับทันทีโดยไม่ตกทอดแก่ทายาทโดยผู้บริหารโครงการฯ จะมีข้อกำหนดในการคืนเงินของผู้ได้รับสิทธิอยู่อาศัยให้กับผู้รับผลประโยชน์
5
สิทธิประโยชน์ของโครงการฯ
1.ได้รับสิทธิการพักอาศัย 30 ปี
2.สินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเป็นไปตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
3.กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถใช้บริการของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์หรือโรงพยาบาลอื่นๆ ตามสิทธิของบุคคลนั้นๆ หรือหากเจ็บป่วยในระดับปฐมภูมิสามารถใช้บริการโครงการส่วนขยายห้องตรวจผู้ป่วยนอก (Extended OPD) ที่ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (มีค่าใช้จ่ายตามสิทธิการรักษา)
4.มีการจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ โดยใช้ระบบสมาชิก (Member) หรือรูปแบบผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Health Package) ให้เลือกตามค่าใช้จ่ายที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้ายกำหนด
5. เมื่อเข้าสู่ภาวะต้องพึ่งพิงหรือติดเตียงและเป็นผู้ป่วยระยะท้าย สามารถใช้บริการ Nursing Home Zone (พื้นที่ส่วนให้การดูแลสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพักฟื้นและฟื้นฟูสุขภาพ) และ Hospice Zone (ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย) โดยมีหลักเกณฑ์และค่าใช้จ่ายตามที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนด
1
การเปิดจอง
กรมธนารักษ์ได้จัดท าระบบการรับจองสิทธิ โดยผู้สูงอายุหรือบุตรหลานของผู้สูงอายุสามารถศึกษารายละเอียดโครงการฯ ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ https://www.treasury.go.th
และเว็บไซต์เครือข่ายพันธมิตรโครงการฯ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล https://med.mahidol.ac.th และ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) https://www.dad.co.th
นอกจากนั้นยังสามารถจองผ่านเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้แก่ กรมธนารักษ์,บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้จัดส่งเอกสารผ่านระบบให้แก่ผู้สูงอายุแต่ละราย
อ่านบทความต้นฉบับ : https://www.sanook.com/home/27617/
1
โฆษณา