12 พ.ย. 2020 เวลา 11:09 • ประวัติศาสตร์
ตุ๊กตายางมีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ในยุคอดีตเรื่อยมาจนถึงยุคปัจจุบัน เราหลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกันดีว่าเจ้าสิ่งนั้นมันคืออะไร หลายคนคงนึกภาพออกว่าคืออะไร ปัจจุบันเจ้านี่ก็สามารถถูกแบ่งออกได้เป็นสองชนิดหลักๆ ก็คือ ชนิดที่เป็นแบบเป่าลม ซึ่งเป็นแบบราคาถูกพกพาสะดวกใช้แก้ขัดได้สำหรับคนที่งบน้อย กับอีกแบบก็คือแบบที่ผลิตจากพวกยางสังเคราะห์ เช่น ซิลิโคนหรือ TPE เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบัน วัสดุสองชนิดนี้เป็นวัสดุที่นิยมในการใช้ผลิตตุ๊กตายางมากที่สุด เนื่องจากให้ความสมจริงใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดหากเทียบกับวัสดุอื่นๆ ทีนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่าในเมื่อสมัยก่อนยังไม่มีเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตยางสังเคราะห์เพื่อใช้ในการผลิตตุ๊กตายาง แล้วสมัยก่อนเจ้าสิ่งนี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร จริงๆแล้วคำว่าตุ๊กตายางนั้นเป็นภาษาไทยซึ่งมาจากคำว่า เซ็กซ์ทอยในภาษาอังกฤษ(sex doll) แต่คนไทยเราเอามาแปลว่าตุ๊กตายาง เนื่องจากคนไทยเริ่มรู้จักเซ็กซ์ทอยชนิดนี้ในวงกว้างในยุคที่ sex doll นั้นมีการผลิตด้วยวัสดุยางสังค์เคราะห์แล้วจึงเรียก sex doll ทั้งหมดว่า ตุ๊กตายาง ดังนั้นต่อไปนี้จึงขอแทนคำที่เกี่ยวข้องกับ sex doll ทั้งหมดว่าตุ๊กตายาง มนุษย์นั้นมีการใช้ตุ๊กตายางมายาวนานตั้งแต่ก่อนที่จะเป็นสิ่งที่เราเห็นในแบบปัจจุบัน ซึ่งในอดีตนั้นมีการผลิตเจ้านี่ด้วยวัสดุที่หลากหลายนำมาประยุกต์เท่าที่คนในยุคนั้นจะคิดได้ วัสดุอย่างหนึ่งที่นิยมมากที่สุดยาวนานหลายศัตวรรษก่อนที่มนุษย์จะเริ่มรู้จักการผลิตยางสังเคราะห์ก็คือ เศษผ้า โดยนำมามัดรวมๆกันตกแต่งทรวดทรงให้คล้ายกับหญิงสาว ตุ๊กตายางมักจะได้รับความนิยมอย่างในหมู่ชาวตะวันตกพวกชาวประมง กะสาสี เป็นต้น เนื่องจากต้องจากบ้านไปนานๆ บางครั้งอยู่บนเรือนานนับเดือนไม่ได้ขึ้นฝั่ง และสมัยโบราณชาวเรือก็จะไม่สามารถนำหญิงสาวขึ้นไปบนเรือได้ เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะโชคร้าน ดังนั้นเจ้าสิ่งนี้จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักเดินเรือ และชาวประมง และหากจะพูดถึงตุ๊กตายางคงต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อ 2000 ปี ในคริสต์ศักราชที่ 8 เทพนิยายกรีกกล่าวไว้ว่า กษัตริย์ “พิกมาเลียน” (Pygmalion) ได้สร้างรูปปั้นของหญิงคนหนึ่งขึ้นมา พร้อมทั้งตั้งชื่อให้ว่า “กาลาที” (Galatea) พระองค์หลงรักรูปปั้นนั้นมาก ตอนกลางวันก็อาบน้ำ ป้อนข้าว สวมกอดและหาเสื้อผ้ามาให้ใส่ ในเวลากลางคืนก็พาเธอมานอนด้วย จนในที่สุด เทพ “อโฟรไดต์” (Aphrodite) นึกสงสารจึงเนรมิตให้เธอกลายเป็นผู้หญิงจริงๆ ขึ้นมา ค.ศ. 1941 นาซีมีคำสั่งให้ผลิตตุ๊กตายางออกมาใช้ในกองทัพโดยเฉพาะ โดยกำหนดสเป็คแบบผู้หญิงที่ท่านผู้นำชื่นชอบ คือต้องมีผมบลอนด์ ตาสีฟ้า ปากและหน้าอกใหญ่ เพื่อให้ทหารใช้บรรเทาความเครียดจากความต้องการทางเพศและไม่รู้จะหาทางระบายที่ไหน โครงการนี้นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของกองทัพนาซี มีชื่อเรียกว่า ‘Geheime Reichssache’ หรือ ‘ลับยิ่งกว่าความลับสุดยอดค.ศ. 1980 บริษัท เซ็กซ์ อ๊อบเจ็คส์ จำกัด (Sex Objects Ltd.) ในสหราชอาณาจักร ได้สร้าง Sex Robot ตัวแรก ชื่อ ‘36C’ ขึ้นมา หุ่นยนต์ตัวนี้ถือเป็นหุ่นรุ่นบุกเบิกที่ใช้ระบบ 16 บิท ไมโครโพรเซสเซอร์ ค.ศ. 1985 ภาพของตุ๊กตายางหรือหุ่นยนต์สาวมีความใกล้เคียงกับผู้หญิงจริงๆ มากขึ้น และถูกทำให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นโดย “กวินเนธ โจนส์” (Gweyneth Jones) จากนวนิยายเรื่อง Divine Endurance โดยหุ่นยนต์หญิงในหนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า ‘Gynoid’ และนับเป็นหนึ่งในต้นแบบของหุ่นยนต์รุ่นหลังๆ ที่พัฒนาในปัจจุบัน ค.ศ. 2010 บริษัท True Companion ได้พัฒนา Roxxxy หุ่นยนต์สาวซึ่งมีโปรแกรมอันชาญฉลาด และนับได้ว่าเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้มากที่สุดในขณะนี้ เพราะเริ่มที่จะเรียนรู้และจดจำถึงความรู้สึกว่าเจ้าของชอบหรือไม่ชอบอะไรได้แล้ว แถมด้วยข่าวล่าสุดซึ่งเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ค.ศ. 2014 เมื่อมีตุ๊กตายางผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา หุ่นเป๊ะ แซ่บเว่อร์ จาก Sinthetics บริษัทผลิตตุ๊กตายางในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ทำให้สาวๆ หลายคนอยากจะได้มานอนเล่นที่บ้านสักตัวสองตัวงานนี้บรรดาสาวโสด สาวใหญ่ หรือแม่ม่ายไม่ต้องกังวลกันแล้ว ใครไม่มีคู่รักหรือคนรักก็ลองหาเจ้าตุ๊กตายางมาเป็นเพื่อนคู่ใจ นอนข้างกายยามเหงา แต่ต้องกระซิบว่าราคาไม่ธรรมดาเลยทีเดียว คือตัวละประมาณสองแสนบาท ใครที่อยากจะได้มาไว้ในครอบครองก็ลองคิดพินิจให้ดี ว่างานนี้จะคุ้มหรือไม่
โฆษณา