13 พ.ย. 2020 เวลา 04:18 • ปรัชญา
🌷🌹🥀ปล่อย...
ได้คุยกับเพื่อนๆ น้องๆ หลายคนที่ทุกข์ใจ พบว่าสิ่งหนึ่งที่ก่อทุกข์คือความคาดหวังที่เรามีต่อตัวเองและคนอื่น หลายคนกดดันตัวเองอย่างมากจนรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง ทำได้ไม่ดีพอ เหน็ดเหนื่อยและท้อเมื่อพยายามแล้วผลไม่เป็นอย่างใจ
เหมือนปลูกต้นไม้แล้วผลไม่งอกงามอย่างใจ
เมื่อเราเติบโตและทำอะไรจริงจังมากขึ้น สิ่งหนึ่งหายไปจากชีวิตคือการอนุญาตให้ตัวเองได้เล่นสนุก หรือลองทำสิ่งที่ไม่ต้องสมบูรณ์แบบดูบ้าง
พอหยิบกระดาษมาวาดรูปเล่น เราก็อยากวาดให้สวย หยิบกีต้าร์มาก็อยากเล่นเพลงให้เพราะ ปั้นดินก็อยากได้ถ้วยชามที่สมบูรณ์แบบ เรากลายเป็นคนที่ต้องการความถูกต้องและหวังผลเลิศอยู่ตลอดเวลา โดยลืมไปว่าตอนเป็นเด็กเราสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ก็เพราะทำไปโดยไม่คาดหวัง เรา 'เล่น' ไปพร้อมกับ 'ทำ'
ความจริงจังมาพร้อมความคาดหวัง
ความคาดหวังมาพร้อมความกดดัน
ความกดดันมาพร้อมการโทษตัวเองเมื่อทำไม่ได้ดี
เหล่านี้ไม่สนุก และเป็นการสะสมทุกข์ในใจ
...
ไม่นานมานี้ผมมีโอกาสปั้นดินให้เป็นถ้วยกาแฟ โดยใช้วิธีขึ้นรูปด้วยมือ จับก้อนดินมา เอามือตบให้แน่น เจาะรูตรงกลาง ค่อยๆ บีบและแหวกออกจนเกิดรูปทรงของถ้วย แล้วขยุมขยำจนกลายเป็นรูปร่างตามต้องการ
ถ้วยใบนั้นไม่สมบูรณ์ บิดๆ เบี้ยวๆ แต่ผมชอบ และรู้สึกสวยในสายตาตัวเอง 'ถิง ชู' ซึ่งเป็นครูสอนปั้นก็ใจดี พูดชมตลอดว่า "สวยนะ นี่ปั้นเก่งนะเนี่ย" ยิ่งทำให้ภูมิใจ สนุก และรักถ้วยที่ตัวเองปั้น
ระหว่างปั้นผมรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กเล่นดินน้ำมัน ผมอยากปั้นแบบไหนก็ได้ ไม่มีรูปทรงที่ 'ต้อง' เป็นแบบใดแบบหนึ่ง เราแค่สนุกไปกับดิน สนุกไปกับใจ ไม่มีใครตัดสิน ถ้วยของฉัน ฉันพอใจจะหยุดตอนไหนก็หยุด ฉันอยากปั้นไปเรื่อยๆ ก็ตกแต่งบีบกลึงไปเรื่อยๆ
สุดท้าย ถ้วยเสร็จออกมาผมรู้สึกดี เพราะตอนก่อนเริ่มไม่มี 'ภาพสุดท้าย' ของถ้วยใบนี้ด้วยซ้ำว่ามันต้องออกมาเป็นแบบไหน มันค่อยๆ คลี่คลายออกมาระหว่างกระบวนการปั้น--จนเป็นแบบที่เป็น
...
ชีวิตจำเป็นต้องมีบางพื้นที่ที่เราไม่กะเกณฑ์มากมายอะไร ทั้งกับตัวเองและผลลัพธ์ แน่ล่ะ, บางอย่างก็ต้องจริงจัง แต่จริงจังกับทุกอย่างไม่น่าจะเป็นผลดีต่อสภาพจิตใจ คลายบ้าง หย่อนบ้าง สนุกบ้าง บิดๆ เบี้ยวๆ บ้าง
ผมว่าถ้าเราวาดรูปชีวิตกันได้จริงๆ มันน่าจะมีหน้าตาเบี้ยวๆ มากกว่าสมมาตรและสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ซึ่งความบิดเบี้ยวเละๆ หน่อยอาจจะน่ารักกว่าด้วยซ้ำ
บางการงานที่ตั้งอกตั้งใจมาก ถ้าลงมือทำด้วยหัวใจแบบนี้ก็จะสนุกระหว่างทำ และปล่อยวางผลที่จะได้รับ
หลวงพ่อชา สุภัทโท เคยสอนว่า "เหมือนเราปลูกต้นไม้ เช่น ปลูกพริกต้นนี้ หน้าที่ของเราคือขุดหลุมปลูก ให้น้ำ ให้ปุ๋ย รักษาแมลงให้มันเท่านั้น นี่คือเรื่องของเรา เรื่องศรัทธาของเรา ส่วนตัวพริกจะเกิดหรือไม่เกิด ก็เป็นเรื่องของมัน ไม่ใช่เรื่องของเรา จะไปดึงให้มันขึ้นมาก็ไม่ได้"
สนุกที่ได้ปลูกพริก คาดหวังบ้างแหละว่าพริกจะออกผล แต่ถ้าจะไม่ออกก็ไม่เป็นไร
เราก็ปลูกพริกต่อไป
ไม่คาดหวังมากเกินไป ไม่กดดันมากเกินไป
ทำเรื่องของเราให้ดีที่สุด ผลลัพธ์ก็เป็นเรื่องของมัน
Cr. : Roundfinger
โฆษณา