14 พ.ย. 2020 เวลา 02:13 • หุ้น & เศรษฐกิจ
การสมคบคิด การสร้างข่าวปลอม : การเมืองวิถีใหม่ของสหรัฐอเมริกา กำเนิด app ทางเลือก แทน twitter และ facebook
ข่าวปลอม ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ที่เผยแพร่ผ่านทาง social media มีจำนวนเพื่มขึ้นจำนวนมากในช่วง 10 วันก่อนเลือกตั้ง
ที่มา: Joshua Roberts/Getty Images
โมษกทำเนียบขาว Kayleigh McEbanny ได้ทวีตคลิปวิดีโอสั้นที่ระบุว่า Biden ยอมรับว่ามีการโกงการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริง เป็นคลิปที่ผ่านการตัดต่อคำพูดทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า Biden หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ คลิปดังกล่าวมีคนดูถึง 20 ล้านวิวในทวิตเตอร์ภายใน 2-3 วันแรก และทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า ทรัปม์ถูกปล้นขัยชนะ
นอกจากนี่ยังมีกลุ่มการเมืองฝั่งขวาที่สนับสนุนทรัมป์ได้พยายามสร้าวและเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนผ่านช่องทางออนไลน์มาสักพัก แต่ในความเป็นจริง Biden ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนกว่า 5 ล้านคะแนน
ปรากฏการณ์ดดังกล่าวสะท้อนมให้เห็นว่ารูปแบบการหาเสียงได้เปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2016 เป็นต้นมา การสร้างข่าวปลอมหรือบิดเบือนข้อมูลฝ่ายตรงข้าม กลายเป็นเครื่องมือหาเสียงหลักของนักการเมือง แต่ความแตกต่างคือ การเลือกตั้งในปี 2016 การกรถทำดังกบ่าวมาจากต่างชาติ แต่ครั้งนี้มาจากในประเทศด้วยกันเองซึ่งมีความอันตรายกว่า
พบว่ากว่า 4.7 ล้านข้อความบน social media ที่มีการกล่าวถึงการโกงการเลือกตั้ง โดยพรรคเดโมแครตโกงการเลือกตั้ง การกระทำดังกล่าวกำลังสร้างผลเสียและผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของการเลือกตั้งสหรัฐ พบว่านักการเมืองบางกลุ่มมีการซื้อ ad ใน social media ที่มีคำว่า โกงการเลือกตั้ง มาสักพักและมียอดวิว ยอดกดไลค์ จำนวนมาก แสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมการมาสักพักที่จะเผชิญหน้ากัน โดยใช้คนมีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักไม่กี่คน แต่สามารถแพร่ไปยังผู้ติดตามคนเหล่านี้ได้จำนวนมาก
หลายใ่ายเรียกร้องว่าเป็นความรับผิดชอบของ twitter facebook ที่จะต้องควบคุมและกลั่นกรอง อย่างไรก็ตามในช่วงหลังๆ มีการพยายามย้ายไปสู่แพลตฟอร์มทางเลือก ที่เรียกว่า free speeech social media app ที่ไม่ค่อยมีการกลั่นกรองเนื้อหา เช่น parler newsmax โดยพบว่ามีการ download app เหล่านี้เพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ในระยะยาวสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวทำลายความน่าเชื่อถือของการเลือกตั้งสหรัฐ นักการเมืองหรือพรรคการเมืองบางพรรคต้องระมัดระวังในการใช้เพื่อหวังผลระยะสั้นให้กับพรรคตัวเอง แต่ทำลายความน่าเชื่อถือของการเลือกตั้งในระยะยาว
เรียบเรียง จาก Financial Times 13 พย 63
โฆษณา