15 พ.ย. 2020 เวลา 00:59 • ท่องเที่ยว
ฮือฮา TripAdvisor เตือนนักท่องเที่ยวรีวิวโรงแรมไทยระวังถูกฟ้อง
TripAdvisor
ทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor) เตือนนักท่องเที่ยวกรณีที่โรงแรมในไทย ฟ้องหมิ่นประมาทชาวอเมริกัน ที่รีวิวโจมตีโรงแรม จนถูกจับกุม
เว็บไซต์การท่องเที่ยวชื่อดัง ทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor) เตือนนักท่องเที่ยวหน้าการจองโรงแรม Sea View Resort (ซีวิว รีสอร์ท แอนด์ สปา) บนเกาะช้าง จังหวัดตราด ระบุว่า
"สาส์น จาก Tripadvisor โรงแรมนี้หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมแห่งนี้ได้ยื่นฟ้องอาญากับผู้ใช้งานทริปแอดไวเซอร์ท่านหนึ่ง อันเนื่องมาจากรีวิวที่ได้เขียนและโพสต์ออนไลน์ เป็นผลให้ผู้เขียนรีวิวดังกล่าวถูกจำคุก
ทั้งนี้ ทริปแอดไวเซอร์ให้บริการผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีที่สุดเมื่อนักท่องเที่ยวมีอิสระในการแบ่งปันความคิดเห็นและประสบการณ์ทั้งที่เป็นแง่บวกและแง่ลบบนเวบไซต์ของเรา โรงแรมอาจใช้สิทธิ์ตามกฎหมายภายใต้กฎหมายท้องถิ่น แต่อย่างไรก็ตาม เราถือเป็นหน้าที่ที่ต้องแจ้งให้คุณทราบ เพื่อที่คุณอาจนำสิ่งนี้มาพิจารณาในการหาข้อมูลวางแผนการเดินทางของคุณ"
การออกสารน์เตือนดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกของที่ TripAdvisor ออกคำเตือนผู้ใช้ในลักษณะนี้ โดยทาง TripAdvisor ยืนยันว่าเป็นสิทธิ์ของนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะเขียนรีวิวเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับ ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม และทางบริษัทคัดค้านภาคธุรกิจที่พยายามนำกฏหมายท้องถิ่นมาบังคับใช้ให้จับกุมผู้คนที่แสดงความคิดเห็นของตัวเอง
2
TripAdvisor เตือน
New York Times เปิดเผยข้อมูลจากทางโรงแรม Sea View Resort โดยบอกว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมากกับท่าทีของ TripAdvisor พร้อมบอกว่าคำเตือนของ TripAdvisor เป็นเครื่องชี้นำที่ผิด และขาดข้อมูลที่รอบด้านมากพอ เพราะหลังจากที่มีรีวิวด้านลบออกมา ได้กระทบกับธุรกิจอย่างมาก เพราะมีการยกเลิกการจองที่พัก และมีการร้องเรียนเรื่องการปฏิบัติของพนักงานในโรงแรมตามมาอีกมาก
1
New York Times รายงานว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2563 ขณะที่นายเวสลีย์ บาร์นส ชาวอเมริกัน ซึ่งทำงานในประเทศไทย ได้ไปพักที่ Sea View Resort บนเกาะช้าง ในจังหวัดตราด และรีวิวตำหนิโรงแรมดังกล่าวบนเว็บไซต์ TripAdvisor หลังมีข้อพิพาทกันระหว่างที่เข้าพักในโรงแรม เป็นเหตุให้นายบาร์นสถูกทางโรงแรมฟ้องในข้อหาอาญาฐานหมิ่นประมาท ซึ่งอาจมีโทษจำคุกสองปี ต่อมาเขาถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้สองวันเมื่อเดือนกันยายน ก่อนที่จะมีการไกล่เกลี่ย และนายบาร์นสได้ออกหนังสือขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 นายอัตพล สุวรรณจันทร์ ทนายความ ของนายเวสลีย์ บาร์นส์ ได้นำลูกความ มาพบกับ นายพิชชา รัตนวงศ์ กรรมการบริษัท และตัวแทนของโรงแรมซีวิว เกาะช้าง พร้อมด้วยนายติณญ์ณภัทร มีเพชรอัฐมงคล ทนายความของฝ่ายโจทก์ ซึ่งฝ่ายนายเวสลีย์ บาร์นส์ ยินดีขอโทษจนทำให้โรงแรมซีวิวเกาะช้างได้รับความเสียหาย โดยมีพ.ต.อ.กิตติ มาลีหวล ผกก.สภ.เกาะช้างร่วมเป็นสักขีพยายานและทั้งสองฝ่ายได้ทำบันทึกข้อตกลงในการยอมความไว้เป็นหลักฐาน
นายติณญ์ณภัทร กล่าวว่า ยินดีที่จะยุติเรื่องทั้งหมด เพียงแต่นายบาร์นต้องแสดงความจริงใจและแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ก่อขึ้น และพร้อมที่จะแก้ไขตามสมควร ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญถึงความถูกต้องภายใต้กฎหมายเป็นสำคัญด้วยและที่จะขาดเสียไม่ได้ คือ ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเกิดเป็นชาติใดก็ควรที่จะได้รับความเคารพเสมอกัน
สำหรับข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย
1. กล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจต่อโรงแรมและพนักงานโดยต้องส่งให้ทุกสำนักข่าวที่ตีพิมพ์ข่าวนี้ทั้งหมดเช่น CNN, ABC, Daily Mail (แดรี่เมลล์), BBC, Insider (อินไซเดอร์), The Morning Call (เดอะ มอนิ่งคอล), The Sun, CBS, Independent (อินดีเพนเด้น), NBC, Fox, Reuters (รอยเตอร์), NYTimes (นิวยอร์คไทม์), The Guardian (เดอะ กาเดี้ยน), Bangkok Post (บางกอกโพส), AFP ด้วยข้อความว่า
4
“ข้าพเจ้านายบาร์น ขอแสดงความเสียใจที่ได้รีวิวโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จใส่ร้ายหมิ่นประมาทต่อโรงแรม ซีวิว เกาะช้าง ในทำนองว่าปฏิบัติต่อพนักงานเช่นทาสและพาดพิงถึงเชื้อชาติของพนักงานโรงแรม เปรียบเทียบและพาดพิงโรงแรมกับไวรัสโคโรน่าต่อเนื่องหลายต่อหลายครั้งนั้น
5
ข้อความที่ข้าพเจ้ารีวิวทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย แต่เกิดจากความคึกคะนองของข้าพเจ้าเอง บัดนี้ ข้าพเจ้านายบาร์นได้สำนึกผิดแล้วและได้มาขอโทษต่อโรงแรม ซึ่งโรงแรม ซีวิว เกาะช้าง และพนักงาน ก็ได้ให้อภัย และจะดำเนินการยุติคดีให้แก่ข้าพเจ้าต่อไป จึงขอขอบพระคุณโรงแรม ซึ่งโรงแรม ซีวิว เกาะช้าง และพนักงานข้าพเจ้าถือโอกาสนี้แจ้งข่าวให้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป”
2
2. ทำหนังสือขอโทษไปยังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดตราดที่ก่อให้เกิดผลเสียทางการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด
3. ต้องแจ้งข้อเท็จจริงนี้ให้แก่สถานทูตอเมริกาทราบทั้งหมดด้วย
4. ต้องทำหนังสือประสานงานกับทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor) ชี้แจงถึงการกระทำความความผิดของตนจนต้องถูกดำเนินคดี พร้อมขอให้ทริปแอ๊ดไวเซอร์ไม่ติดป้ายเตือน Red Badge บนหน้าเพจโรงแรมซีวิว เกาะช้าง โดยขอให้ทริปแอ๊ดไวเซอร์ออกเอกสารยืนยันว่าจะไม่ติดป้ายเตือนดังกล่าวด้วย
2
ชณะที่ พ.ต.อ.กิตติ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ในข้อหาหมิ่นประมาทที่สามารถยอมความกันได้ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมไทยหลังการเข้าไปจับกุมตัวผู้ต้องหาได้นำตัวมาที่สภ.เกาะช้าง
"แต่เนื่องจากเป็นวันศุกร์ตำรวจมีเวลาควบคุมตัวเพียง 24 ชม.จึงได้ดำเนินการส่งศาลในเช้าวันเสาร์ที่มีเวลาทำการครึ่งวัน แต่ภรรยาไม่สามารถนำหลักทรัพย์หรือนายประกันที่นำมาแสดงได้ทันจึงทำให้ต้องนอนอยู่ในเรือนจำ 2 วัน ซึ่งผู้ต้องหาอาจจะไม่เข้าใจว่าคดีหมิ่นประมาททำไมต้องถูกคุมขัง จึงได้อธิบายให้เข้าใจแล้ว ต่อมาในวันจันทร์ ภรรยาของผู้ต้องหานำเงิน 1 แสนมาประกันตัวจึงสามารถออกจากเรือนจำได้"
#TheHotelier #travelnews #thailandtravel #tourism #hotel #TripAdvisor
ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ
1
โฆษณา