15 พ.ย. 2020 เวลา 07:22 • นิยาย เรื่องสั้น
ใจกลางป่าสนบนหุบเขาอันเวิ้งว้าง ณ จุดใดจุดหนึ่งของโลก เด็กหญิงคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับคำอวยพรอันแปลกประหลาดจากหญิงชราผู้บังเอิญเดินผ่านบ้านของเธอ
“หนูน้อย เจ้าเกิดมาอย่างว่างเปล่า สมควรได้รับของขวัญอันมีค่า จงหาดอกกุหลาบของเจ้าให้พบ ไม่เช่นนั้น เจ้าจะได้รับคำสาปในทุก ๆ วันเกิดของเจ้า”
Ameen Fahmy, unsplash
พ่อและแม่ของหนูน้อยตกใจกับคำพูดของหญิงชรา แต่คิดไปว่านี่คงเป็นเพียงคนเสียสติที่หลงป่ามา ทว่าความกังวลกลับถูกฝังไว้ในเบื้องลึกของใจทั้งสอง
วันเวลาผ่านไป พ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขกับปัจจุบัน จนไม่จำเป็นต้องโหยหาอดีตใดมาเติมเต็มความรู้สึก
ในวันเกิดอายุหนึ่งขวบ ด้วยความแคลงใจในเรื่องหญิงชรา ครอบครัวจึงจัดแค่จัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ ให้กับลูกน้อย
เมื่อเพลงอวยพรจบลง พ่อแม่ลูกช่วยกันเป่าเทียนเล็ก ๆ หนึ่งเล่มที่ปักอยู่กลางขนมปังซึ่งถูกโรยด้วยเม็ดลูกกวาดหลากสี เมื่อไฟดับลง พ่อลุกไปเปิดสวิตซ์ไฟ หญิงชราได้ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าหนูน้อยอีกครั้ง
“หนูน้อย จงหาดอกกุหลาบของเจ้า ดอกกุหลาบซึ่งสีแดงสดดั่งริมฝีปากงามของเจ้า”
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ราวกับว่านั่นคือพรวิเศษ หนูน้อยเติบโตมาเป็นคนช่างเจรจา ที่โรงเรียนเธอมีเพื่อนมากมายคอยล้อมรอบตัวเพื่อรอฟังนิทานเจื้อยแจ้วจากเธอ
ผู้ใหญ่ทุกคนที่ได้เห็นความสดใสต่างก็รักและเอ็นดูหนูน้อยคนนี้ จนทำให้พ่อและแม่ไม่สบายใจกับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นพรสวรรค์ ซึ่งคล้องกับคำพูดประหลาดของหญิงชรา
การที่เธอได้รับความรักมากมายขนาดนี้
ก็อาจจะเป็นคำสาปได้เช่นกัน
และคำสาปก็เริ่มสำแดงผล ยิ่งมีคนรักมากเท่าไหร่ คนเกลียดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว หนูน้อยถูกเพื่อนเกลียดชังเพราะบรรดาพ่อแม่มักเอาเธอไปเปรียบเทียบต่อว่าลูกของตน คำพูดที่เพื่อน ๆ ต่างเคยชื่นชอบฟัง กลับกลายเป็นดั่งสายลมที่พัดไปเจือปนฝุ่นพิษ และหวนกลับมาทำร้ายเธอ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด
สุดท้าย หนูน้อยก็ไม่สามารถพูดคุยกับใครได้อีกเลย เพราะเมื่อเธอเอ่ยสีขาวออกไป เด็กคนอื่นกลับได้ยินเป็นสีอื่นที่แตกต่างออกไป และระบายเพิ่มสีก่อนจะส่งต่อไปอีกเรื่อย ๆ จนไม่เหลือร่องรอยของสีขาวเลยแม้แต่น้อย
หนูน้อยกลายเป็นเด็กเงียบนิ่งราวคนใบ้
พ่อและแม่ได้รู้ชัดแล้วว่านี่คือคำสาป
วันเกิดของเธอกลายเป็นเรื่องต้องห้ามเอ่ยถึง
ในวันที่อายุสิบขวบซึ่งเธอจำไม่ได้แล้วว่าวันนั้นคือวันเกิดของตัวเอง ระหว่างทางกลับจากโรงเรียน บังเอิญพบหญิงชรานั่งอยู่ข้างทาง ในใจก็พลันรู้สึกสงสาร เสียงสั่นเครือเอ่ยเรียก เด็กหญิงจึงหันไปมอง
“เด็กน้อย หัวใจของเจ้าอบอุ่นเกินไป กุหลาบนั้นบอบบาง กุหลาบที่งดงามแข็งแกร่งที่สุด จึงเป็นกุหลาบหิมะ จงตามหากุหลาบหิมะของเจ้า”
เด็กหญิงไม่เข้าใจสิ่งที่หญิงชราเอ่ย จึงเพียงยิ้มตอบ แล้วเดินต่อไป เมื่อถึงบ้าน แทนที่จะได้วิ่งไปกอดพ่อกับแม่อย่างที่เคยเป็นประจำ ภาพที่ปรากฏตรงหน้ากลับเป็นภาพผู้คนวิ่งอลหม่านไปมาหน้ากองเพลิงมหึมา
ควันทมึนก้อนดำพวยพุ่งขึ้นฟ้า ทั้งหมดเกิดขึ้นบนจุดเดียวกันกับที่เคยมีบ้านของเธอตั้งอยู่ หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาโอบกอดเธอไว้ ใช้ร่างกายกำบังไม่ให้เด็กหญิงเห็นภาพตรงหน้า
เพียงชั่วพริบตา เธอกลับสูญเสียทุกอย่างไป รวมทั้งคนที่รักที่สุด หัวใจเธอเจ็บปวดเหลือเกิน
เธอได้ยินเสียงสะอื้นไห้ จากหญิงแปลกหน้าที่กำลังกอดเธอ ผู้หญิงคนนี้ ก็สูญเสียเช่นเดียวกับเธองั้นหรือ...
หลังจากนั้น เธอก็ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือน้า น้องสาวแท้ ๆ ของแม่เธอ น้าพาเธอไปอยู่ด้วย คอยดูแลเอาใจใส่เธอยิ่งกว่าลูกแท้ ๆ ของน้าเอง และเธอเองก็รักน้าคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
เพื่อน้าที่แสนดีต่อเธอ เด็กน้อยที่กำลังเติบโตเป็นเด็กสาวยอมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนความรักอันบริสุทธิ์ที่น้ามอบให้หลานสาวผู้ไร้ของมีค่าใดจะตอบแทนได้
แต่ทว่าวันหนึ่ง เธอกลับบังเอิญได้ยินคนที่เธอคิดว่ารักเธอเอ่ยลับหลังว่า ที่เลี้ยงดูเธออย่างดี เพราะใบหน้าอันงดงาม และความเชื่องโง่ของเธอจะตอบแทนบุญคุณได้อย่างมหาศาลในวันข้างหน้า
หัวใจเด็กสาวแหลกสลาย และประกอบตัวขึ้นใหม่ทันทีด้วยผลึกน้ำแข็งอันเย็นยะเยือก
เธอจะไม่รักใครอีกแล้ว
ในวันเกิดตอนอายุสิบหก ระหว่างรอรถกลับบ้านที่หน้าโรงเรียน หญิงชราคนหนึ่งเดินมายืนเคียงเด็กสาว เมื่อหันไปมอง เธอเพียงจำได้อย่างคลับคล้ายว่าอาจจะเคยเจอ หญิงชราก้าวขึ้นรถเมล์ไป กระดาษใบหนึ่งร่วงหล่นจากตัวหญิงชราปลิวระริกมาตรงหน้าเด็กสาว เธอคว้าไว้ได้ ทว่ารถเมล์เคลื่อนตัวออกไปแล้ว เด็กสาวได้แต่หวังว่าคงไม่ใช่ของสำคัญจึงพลิกดู
'ตามหาดอกกุหลาบของเธอ ดอกกุหลาบที่ทำให้ดอกไม้ทั้งมวลหมดความชอบธรรม'
ยังไม่ทันที่เธอจะได้สงสัยกับข้อความแปลก ๆ นี้ การ์ดอวยพรลายดอกกุหลาบใบหนึ่ง ถูกยื่นมาตรงหน้าเด็กสาว
“เพื่อนเธอให้เราทำนี่มาให้”
.
เธอมองเด็กหนุ่มนิ่ง ไม่เข้าใจการกระทำนี้
.
“รับ ๆ ไปเถอะ เพื่อนเธอมาขอร้องให้เราทำการ์ดวันเกิดให้เธอ เรื่องแบบนี้เราปฏิเสธไม่ได้”
เด็กสาวมองหน้าเด็กหนุ่ม ริมฝีปากที่ขยับเอ่ยไม่บ่อยครั้งเปล่งเสียงเบา ๆ ออกมา
“ดอกกุหลาบงั้นเหรอ”
เป็นเรื่องสั้นที่คิดขึ้นมาได้เมื่อกี้ ขอเขียนเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยเอาไปต่อยอดอีกทีเมื่ออยากเขียนอีก 😂
โฆษณา