Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเก่าเล่าสนุก
•
ติดตาม
16 พ.ย. 2020 เวลา 21:40 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ เรื่องสนุก
เกร็ดเล็กเร็ดน้อยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย ที่คนไทยไม่ค่อยรู้
1
เพื่อนคนหนึ่งเคยถามผมว่า ไอ้หนังสือประวัติศาสตร์ที่เราอ่านๆกันน่ะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนเป็นเรื่องจริง ผมตอบว่า ผมก็ไม่รู้ เราอ่านเจออันไหนดูแล้วน่าเชื่อ เราก็เชื่ออันนั้น ถ้าเวลาต่อมาเราอ่านเจอข้อมูลอื่นที่น่าเชื่อกว่า เราก็เชื่ออันใหม่แทน ผมว่านี่แหละเป็นเสน่ห์ของการศึกษาประวัติศาสตร์
มีคนถามอีกว่า ชื่อประเทศสยาม มาจากไหน ไม่น่าเชื่อว่า ไม่มีนักวิชาการคนไหนตอบได้ชัดเจน มีแต่สันนิษฐานว่าอย่างนั้นอย่างนี้ต่างๆกันไป
บางท่านเสนอว่า มาจากภาษแขก มีความหมายว่า สีดำ หรือสีทอง (แล้วมันสีไหนกันแน่ ต่างกันเยอะนะนั่น) เพราะคนไทยมีผิวดำ บางท่านเสนอว่า มาจากคำว่าสามะ แปลว่าเสมอภาค แต่ต่างชาติเรียกเพี้ยนเป็นสยาม ผมก็ยังงงว่า สาม เพี้ยนเป็นสยามได้ไง มันน่าจะเพี้ยนจากออกเสียงยากไปง่าย แต่นี่มันกลับทางกัน ผมจึงไม่ค่อยเห็นด้วย
หลักฐานที่มีการใช้คำว่าสยาม พบเห็นได้จากที่ชาวต่างชาติเรียกเรา ฝรั่ง แขก จีน เรียกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรหลายร้อยปีก่อน ภาษาจีนเรียกประเทศไทยว่า เสียนหลอกั๋ว คนจีนในเมืองไทยที่ส่วนใหญ่เป็นแต้จิ๋ว ออกเสียงว่า เสี่ยมล้อ ก๊ก ผมพูดแต้จิ๋วกับพ่อแม่มาตั้งแต่เกิด ก็เรียกประเทศไทยว่าเสี่ยมล้อมาตลอด
เสียน หรือ เสี่ยม นั้นมาจากคำว่า สยาม อย่างแน่นอน แล้ว หลอ หรือ ล้อ ล่ะ มาจากไหน หลายคนสงสัย มันมาจากคำว่า "ละโว้" ครับ ซึ่งก็คือ ลพบุรี นั่นเอง ก่อนอยุธยาจะมีอำนาจเด็ดขาดจนเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร ละโว้ เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีอำนาจและอิทธิพลอย่างมากในแถบนี้
กั๋ว หรือ ก๊ก แปลว่าประเทศครับ คำเดียวกับชื่อเรื่อง สามก๊ก น่ะแหละ
ที่ภาพแกะสลักบนผนังที่นครวัด มีภาพหนึ่งเป็นกองทัพที่ไม่ใช่ชาวกัมพูชา คำบรรยายเรียกว่า เสียนกุก นักวิชาการหลายท่านบอกว่านี่แหละกองทัพสยามที่ส่งไปช่วยรบ แต่ก็มีคนแย้งว่าไม่น่าใช่ เพราะ กุกที่แปลว่าประเทศ เป็นภาษาจีน ไม่ใช่ภาษากัมพูชา และก็ไม่ปรากฎที่อื่นว่าชาวกัมพูชาเรียกชาวสยามว่าเสียนกุก อีกทั้งลักษณะของคนในภาพนั้นก็ไม่มีอะไรบอกว่าเป็นคนไทย มีบางท่านบอกว่า ในภาพนี้ เป็นกองทัพไทยใหญ่จากรัฐฉาน คำว่ากุกในที่นี้ หมายถึงแม่น้ำกก ที่เชียงราย ทำให้ต้องไปหาความสัมพันธ์ระหว่างสยามกับไทยใหญ่อีก ที่สำคัญ รัฐฉานมันไม่ได้อยู่ริมแม่น้ำกก งงกันไปใหญ่
ยังมีอีกหลายแนวคิดนะครับในเรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่มีความเห็นแตกต่างกัน
เป็นอันว่า ไม่มีใครตอบได้ครับว่า ชื่อประเทศ "สยาม" มาจากไหน แล้วคำว่า ประเทศไทย ล่ะ เป็นมายังไง ไว้คุยกันต่อ
2
หลายปีก่อน ผมคุยกับเพื่อนว่า คนไทยสนใจและรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของไทยน้อยจังเลย เพื่อนผมให้ความเห็นว่า ถ้าหาเรื่องเกี่ยวโยงว่าประวัติศาสตร์มีผลต่อปัจจุบันอย่างไรไม่ได้ ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนอยากรู้ เพราะตนส่วนใหญ่สนใจแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเองเท่านั้น ผมเห็นด้วยกับเพื่อนก็เลยคิดว่า ผมยอมเป็นคนกลุ่มน้อยที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศตัวเองละกัน ใครไม่สนใจก็ช่าง ผมสนุกของผมอยู่คนเดียวก็ไม่เป็นไร
นี่เป็นเหตุให้มีคนถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ให้ผมอธิบายให้ฟังบ่อยๆ
ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่ไม่เคยเสียเอกราชให้ใคร เพราะเราเสียเอกราชให้พม่าสองครั้งเมื่อสมัยอยุธยา ครั้งแรกเมื่อปี พศ 2112 เป็นเวลา 15 ปี ครั้งที่สอง เมื่อ พศ 2310 เป็นเวลาสั้นๆแค่ 8 เดือน
ประเทศไทยไม่ได้ย้ายเมืองหลวงจากสุโขทัยมาอยุธยา แต่อาณาจักสุโขทัยเสื่อม อำนาจลง ขณะที่อยุธยามีอำนาจมากขึ้น จนมีอำนาจเหนือสุโขทัย ซึ่งที่จริงแล้วในสมัยสุโขทัย ยังไม่ได้มีการรวบรวมอาณาจักรต่างๆเป็นปึกแผ่นขนาดที่จะเรียกได้ว่าเป็นประเทศเดียวกัน สุโขทัยจึงไม่น่าจะนับว่าเคยเป็นเมืองหลวงของไทยด้วยซ้ำ
ไทยไม่ได้เพิ่งเริ่มติดต่อค้าขายกับต่างประเทศเมื่อสมัยพระนารายณ์ แต่เริ่มมาก่อนนั้นตั้งเป็นร้อยปีแล้ว
เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศส แต่เป็นชาวกรีก เอกสารและสื่อการสอนในบางโรงเรียนยังให้ข้อมูลว่าเป็นฝรั่งเศสอยู่เลย
อ้าว แล้วเจ้าพระยาวิชาเยนทร์เป็นใครล่ะ
เหตุการณ์ในหนังเรื่องสุริโยไท เกิดก่อนเหตุการณ์ในหนังเรื่องบางระจัน ตั้งสองร้อยกว่าปี
พันท้ายนรสิงห์ นายท้ายเรือของพระเจ้าเสือ ไม่ได้มีเมียชื่อนวล เพราะนวลเป็นชื่อตัวละครที่เสด็จองค์ชายใหญ่ทรงสมมุติขึ้นในละครเวทีที่ท่านทรงนิพนธ์ ศาลเจ้าแม่นวลที่มหาชัยจึงเป็นเรื่องไร้สาระอย่างยิ่ง
น่าจะยังไม่หมด นึกออกเมื่อไรจะมาเล่าให้ฟังอีก
3
การุงศรีอยุธยามีกษัตริย์กี่พระองค์
วันนี้ผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาตไทยที่หากเราเรียนในตำราเรียนแล้วศึกษาข้อมูล อื่นๆมาเปรียบเทียบจะเห็นว่ามันไม่ตรงกัน
คือจำนวนของกษัตริย์ในสมัย อยุธยา ว่ามีกี่พระองค์กันแน่
ตำราเรียนและตำราวิชาการทุกเล่มในเมืองไทย ที่จัดทำโดยกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ในสมัยอยุธยามีกษัตริย์ 33 พระองค์ แต่มีบางคนแย้งว่าไม่ถูก เพราะที่จริงแล้วต้องมี 34 พระองค์ อ้าว แล้วกษัตริย์องค์ไหนหายไป
คำตอบคือ ขุนวรวงษาธิราช กษัตริย์ที่ครองราชย์ในปี 2091 เป็นระยะเวลา 42 วัน
แล้วทำไมตำราบางเล่มนับตำราบางเล่มไม่นับ ขุนวรวงศาธิราชเป็นกษัตริย์ เรื่องมันเป็นอย่างนี้
ผู้ที่ให้ความเห็นว่าไม่ควรนับขุนวรวงษาเป็นกษัตริย์คือ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระอนุชาของรัชกาลที่ห้า ท่านทรงให้ความเห็นว่า การขึ้นเป็นกษัตริย์ของขุนวรวงษาธิราช นั้นไม่สง่างาม เพราะลอบเป็นชู้กับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ทั้งยังสังหารพระยอดฟ้า เป็นที่เสื่อมเสีย ไม่น่ากล่าวถึง นักวิชาการของ กระทรวงศึกษาธิการและที่เป็นข้าราชการ สมัยหลังจากนั้นจึงถือเอาความเห็นของสมเด็จกรมพระยาดำรงเป็นหลัก โดยไม่นับเป็นกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา
แต่ในพงศาวดารทุกฉบับบันทึกว่า ขุนวรวงษาธิราช ได้ผ่านพิธีบรมราชาภิเษกครบถ้วนถูกต้องทุกประการ
เราควรจะนับว่าขุนวรวงษาธิราชเป็นกษัตริย์หรือไม่ ต้องแล้วแต่ใจท่านครับ อย่าลืมว่า ผู้ชนะเท่านั้นที่เขียนประวัติศาสตร์ ผู้แพ้ไม่มีสิทธิ์ แต่เราจะคิดอย่างไร บังคับกันไม่ได้
สำหรับผม ขอคิดในใจ ไม่ออกความเห็น
4
พระนเรศวร ไม่ได้ชื่อ นเรศวร
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กษัตริย์ที่คนไทยรู้จักดี เรื่อราวของท่านถูกเขียนและถูกพูดถึงมากมายหลายร้อยหลายพันครั้ง เป็นบทความ สารคดี นิยาย สารพัดรูปแบบ สร้างเป็นหนังก็ตั้งหลายภาค คนดูแน่นโรง ทำเงินมหาศาล แต่ท่านทราบไหมครับ คนไทยเรียกชื่อท่านผิดมาตลอด เพราะท่านไม่ได้ชื่อนเรศวร
พระนามของท่านปรากฏในพงศาวดาร ทั้งในพงศาวดารฉบับวันวลิต ที่เขียนในสมัยพระเจ้าปราสาททอง คำให้การชาวกรุงเก่า ที่เรียบเรียงจากคำบอกเล่าของเชลยไทยในพม่าหลังเสียกรุงครั้งที่สอง และฉบับอื่นออกเสียงตรงกันว่า พระนริศ บางฉบับเขียนว่า พระนริส มีเอกสารบางฉบับเขียนว่า พระนเรศ ซึ่งก็ยังใกล้เคียง
แล้วชื่อนเรศวรมาจากไหน
พงศาวดารอยุธยาฉบับกรมพระจักรพรรดิพงศ์(จาด) เรียบเรียในสมัยพระบรมโกษ เขียนพระนามว่า "พระนเรศวรราชิธิราช" ซึ่งเป็นพระนามเต็ม อ่านแยกกันว่า พระนเรศ วรราชาธิราช มิใช่ พระนเรศวร ราชาธิราช
จุดนี้เองที่ทำให้ผู้ชำระพงศาวดารในสมัยหลังนี้ เข้าใจผิดว่า ราชาธิราชคือสร้อยพระนาม และเรียกพระองค์ว่า พระนเรศวร และใช้กันแพร่หลายทั่วไปจนชิน
เราจึงเรียกพระนามกษัตริย์ไทยที่มีคนยกย่องนับถือและมีความสำคัญมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ผิดมาเป็นเวลานานและคงจะผิดตลอดไป
5
ไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โปรดเข้าใจเสียใหม่ว่า......
ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ก็เฉพาะตำแหน่งที่ตั้งเท่านั้น แต่ในด้านความสามารถประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือ Hub ของอะไรไม่ได้เลย นอกจาก Hub ของกระเทย ทั้งในด้านการผ่าตัดแปลงเพศ และด้านการเปิดโอกาสทางสังคม
เจดีย์ชเวดากอง (ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เผื่อใครไม่รู้จัก) ไม่ได้สร้างด้วยทองจากอยุธยา เขาสร้างของเขามาก่อนตีอยุธยาแตกตั้งหลายร้อยปี
เราถูกสอนมาแต่เด็กว่าพม่าคือข้าศึกทำให้เราเกลียดพม่า เช่นเดียวกับที่แบบเรียนชั้นประถมของประเทศลาวสอนให้เด็กลาวรู้สึกต่อไทย เขาเรียกไทยว่า "ศักดินาสยาม" ที่มารุกรานกดขี่ข่มเหงลาว คำว่าไทยกับลาวเป็นบ้านพี่เมืองน้อง และเรารู้สึกว่าไทยเป็นพี่จึงเป็นความรู้สึกของไทยฝ่ายเดียว
คนกัมพูชาก็รู้สึกต่อคนไทยไม่ต่างจากที่ลาวรู้สึกต่อไทย อาณาจักรนครวัดล่มสลายลงเพราะกษัตริย์ไทยสมัยต้นอยุธยาบุกไปตีจนแตก
เวียดนาม ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของไทย (อย่างที่ในคลิบวิดีโอที่แพร่หลายอันหนึ่งอ้างถึงอย่างมั่วๆ) เวียดนามกำลังพัฒนาด้านเศรษฐกิจจนก้าวมาเท่าไทยแล้วในวันนี้ (เพราะเราหยุดอยู่กับที่มาสิบปี) และกำลังจะจะแซงในเร็ววันนี้ (เพราะเราก็ยังหยุดอยู่ที่เดิม ไม่มีวี่แววว่าจะขยับไปข้างหน้าเลย)
มาเลเซีย เจริญกว่าไทยในทุกๆด้าน
สิงคโปร์เจริญกว่าประเทศอื่นๆในอาเซียนอย่างมาก ในทุกด้านโดยที่เขาไม่มีทรัพยากรธรรมชาติอะไรเลย นอกจากทรัพยากรมนุษย์
ประวัติศาสตร์เรื่องสนุก 10
ประเทศสยาม ประเทศไทย และไทยแลนด์
ผมชอบชื่อ "ประเทศสยาม" มากกว่า "ประเทศไทย" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า "Thailand" ผมไม่ชอบเอาอย่างมากๆ ชื่อ "The Kindom of Siam" ผมว่าเท่ห์กว่าเยอะ ไม่รู้จอมพล ป. แกจะเปลี่ยนไปทำบ้าอะไร
การที่ต่างชาติเรียกประเทศเราว่าสยาม แต่เราเรียกกันเองในภาษาไทยว่าเมืองไทย ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกหรือสับสนอะไรตรงไหน ประเทศอื่นเป็นอย่างนี้มีเยอะแยะ ฝรั่งเรียกจีนว่า China จีนก็ไม่ว่าอะไร แต่ชื่อประเทศจีนอย่างเป็นทางการเต็มๆคือ "จงหัวเหยินหมิงก้งเหอกั๋ว" เรียกสั้นๆว่า "จงกั๋ว" คนไทยเรียกประเทศจีน ไม่ตรงกับภาษาไหนเลย ก็ใช้กันไป
ฝรั่งเรียก ญี่ปุ่น ว่า Japan ก็ไม่เห็นคนญี่ปุ่นเขาจะเดือดร้อนอะไร ทั้งที่เขาเรียกประเทศเขาเองว่า นิปปอน เขาใช้ทั้งสองคำนี้ไปพร้อมๆกันตามแต่โอกาสมาตั้งนานไม่ได้เปลี่ยนแปลง คนไทยเองเรียกญี่ปุ่น ก็ไม่ตรงกับใครเขาอีก ไม่มีปัญหาอะไรเช่นกัน
คำว่า Thailand เป็นคำประหลาดที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยผสมคำสองภาษาเข้าด้วยกัน ซึ่งผิดหลักภาษาสากล คำว่าไทย เป็นภาษาไทย คำว่า Land เป็นภาษาอังกฤษ ผสมกันเข้าไปได้ยังไง
บ่นไปอย่างนั้น เปลี่ยนแปลงอะไรมิได้ อยู่กันต่อไปตามเดิม
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย