17 พ.ย. 2020 เวลา 04:43 • ประวัติศาสตร์
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 1
สี่สิบปีก่อน ตอนเริ่มรู้ความ ผมได้ฟังเพลงจากรายการวิทยุที่พี่ชายและพี่สาวเปิดฟังอยู่บ่อยๆ เพลงที่ได้ฟังส่วนใหญ่เป็นเพลงลูกกรุงและเพลงฝรั่ง นักร้องลูกกรุงที่ดังที่สุดคือ ธานินทร์ อินทรเทพ รองลงมาคือ ชรัมภ์ เทพชัย  เพลง "ทุกวันฉันนั่งหลังพวงมาลัย ขับขี่รถไปอยู่กลางถนน...." ใครๆก็ร้องได้กันทั้งเมือง เวลานั้นเลยยุคสูงสุดของสุเทพ วงศ์คำแหงไปแล้ว ส่วนนักร้องหญิงที่ดังมากคือดาวใจ ไพจิตร
ตอนนั้น เดอะบีเทิ้ลเพิ่งแตกวง กระแสเสียงเพลงของบีเทิ้ลยังดังอยู่มาก สถานีวิทยุเพลงฝรั่งเปิดกันทุกสถานี เพลงป๊อบทั่วไปอย่างอีกหลายเพลงของนักร้องยุค 70 ล้วนแล้วแต่คุ้นหูผมมาตลอด Only Sixteen, Kiss And Say Goodbye, The Most Beautiful Girl หรือเพลงที่แรงขึ้นมาหน่อยก็ Free me, Lighting Bar Blues และ Go ของนักร้องสาว ทีน่า ชาร์ลส อ้อ ที่ลืมไม่ได้คือ Bee Gees
ช่วงสงครามเวียดนาม รัฐบาลไทยให้กองทัพสหรัฐใช้ประเทศไทยตั้งฐานทัพ ทหารจีไอจึงเดินเต็มบ้านเต็มเมือง ส่วนใหญ่อยู่ทางอีสาน พอจีไอมา ไนท์คลับ บาร์ ก็ตามมา ศัพท์คำหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคนั้นคือ "เมียเช่า" หมายความว่าอย่างไรทุกท่านคงเข้าใจดี แต่เมื่อทหารจีไอถอนทัพกลับ ศัพท์คำนี้ก็หายไป เดี๋ยวนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว
เมื่อมีบาร์ก็ต้องมีวงดนตรี คนไทยที่มีฝีมือทางดนตรีหลายคนรวมตัวกันตั้งวงเล่นเพลงฝรั่งตามไนท์คลับ ที่ฝีมือดีหน่อยพอเป็นที่รู้จักในวงกว้างก็คือ The Impossible นักร้องนำคือเศรษฐา ศิระฉายา ที่ยังอยู่ในวงการบันเทิงมาจนทุกวันนี้ และ PM 5 ของ ดอน สอนระเบียบ ที่ยังร้องเพลงต่อมาอีกหลายปี  มีอีกวงหนึ่งที่ผมจำชื่อได้คุ้นๆคือ Chocolate นักร้องนำ ชื่อคำรณ อุมาเนตร ที่ไม่มีใครรู้จักซักกี่คน ผมยังงงว่าจำได้ยังไง
สมัยนั้นวงดนตรีแบบนี้บ้านเรียกว่าวง Shadow ซึ่งที่จริงเป็นชื่อวงดนตรีฝรั่งที่ดังมาก และเคยเป็นวง แบ๊คอัพ ให้ คลิฟ ริชาร์ด นักร้องอังกฤษที่ดังตามหลังเอลวิส เพรสลี่ย์มาติดๆ
คำที่เป็นทางการคือ วงประเภท String Combo หมายถึงวงเครื่องสายผสม เครื่องสายก็คือกีตาร์ และเบส  ผสม คีย์บอร์ด เครื่องให้จังหวะ และเครื่องเป่าที่มักจะมีสามชิ้นคือ แซกโซโฟน ทรัมเป็ตและ ทรอมโบน นี้แหละครับ ที่มาของคำว่า เพลงสตริงในทุกวันนี้
ว่างมากก็เลยนั่งนึกถึงเรื่องสมัยเด็กๆ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ผิดบ้างถูกบ้าง สลับเวลากันบ้าง อย่าถือสา ภาษาฝรั่งเรียก Take a trip down the memory lane เล่าให้ฟังกันเล่นๆครับ
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 2
เพลงฝรั่งนั้น แบ่งประเภทของเพลงตามรูปแบบของดนตรี แจ๊ส บลูส์ ริธึ่มแอนด์บลูส์ คันทรี่ โซล ร๊อค เฮฟวี่เมทัล เร็กเก้ ดิสโก้ และอีกมากมายสารพัด แต่เพลงไทยสมัยนั้นแบ่งออกเป็นแค่ลูกทุ่งกับลูกกรุง
ตอนเด็กๆผมคุ้นเคยกับเพลงลูกทุ่งพอสมควร เพราะถึงแม้อยู่กรุงเทพแต่ก็ชายขอบเต็มที ถัดบ้านผมไปสามกิโลเมตรก็พระประแดงแล้ว เสียงเพลงลูกทุ่งจึงดังอยู่รอบๆตัวทั้งที่บ้าน เพื่อนบ้าน และที่โรงเรียน
ตอนนั้นสุรพล สมบัติเจริญเพิ่งตายไม่นาน เพลงของเขายังดังอยู่มาก สายัณห์ สัญญา เริ่มมีชื่อเสียงจากเพลง กินอะไรถึงสวย ร้องโต้กับผ่องศรี วรนุช เพลงกินข้าวกับน้ำพริก ยอดรัก สลักใจเพิ่งเข้าวงการ กำลังดังไล่หลัง สายัณห์ มาติดๆ เพลงจักรยานคนจน ของยอดรัก ทำเอาคนขี่จักรยานกลายเป็นเท่ห์ไปเลย ถ้าร้องเพลงนี้คลอไปด้วย
"จักรยานของพี่ ราคาไม่กี่ร้อยบาท ถึงช้าอืดอาด แต่ก็เมดอินไทยแลนด์......." ผมเคยขี่จักรยานร้องเพลงนี้ไปทั่วซอย ถ้าทำตอนนี้คงโดนหาว่าบ้า
เพลงของนักร้องคนอื่นที่ดังมากๆก็มีหลายเพลงอย่าง ปูไข่ไก่หลง ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน ฉันทนาที่รัก หลงเสียงนาง สาวอิสานรอรัก หนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือ เข้าเวรรอ ส่งแอ๋วเรียนราม ไอ้หนุ่มตังเก ร้องไห้กับเดือน อะไรพวกนี้ เพลงดังมาก แต่ผมจำชื่อนักร้องไม่ค่อยได้ บางเพลงจำชื่อเพลงไม่ได้แต่จำเนื้อได้ขึ้นใจทั้งเพลง ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสขึ้นเวทีบางครั้งยังขุดเอาเพลงยุคนี้มาร้องอยู่เลย
เข้าเวรรอ เป็นเพลงที่ร้องแล้วได้อารมณ์ที่สุด ประโยคสุดท้ายของท่อนแยกที่ดนตรีหยุดหมด ใครที่ฟังอยู่เป็นต้องอดร้องตามไปด้วยไม่ได้ว่า "มันสะใจ...มั๊ยน้อง" ถ้าจะร้องให้ได้อารมณ์แบบเพลงลูกทุ่งจริงๆต้องมีลูกเอื้อนหลังคำว่าน้อง เป็น "น้อ....งเหง่อ......" ลองลากเสียงคำว่า "น้อง" ยาวๆแล้วจบด้วยเสียง "เหง่อ" เบาๆ นั่นหละครับ ลูกเอื้อนอันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงลูกทุ่ง
พอโตขึ้นมาจนจบชั้นประถม ผมไปเรียนในเมือง จึงได้ห่างเพลงลูกทุ่งออกไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยลืมเสน่ห์ของมันจนทุกวันนี้
ส่วนเพลงลูกกรุงนั้น ถูกกระแสของเพลงไทยในรูปแบบใหม่ๆเบียดเข้ามาจนมันค่อยๆจางหายไป สุดท้าย เพลงลูกกรุงก็สาบสูญ เหลือเป็นแค่ตำนานให้พูดถึง โดยเด็กยุคปัจจุบันนึกภาพไม่ออกเลยว่ามันคืออะไร
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 3
เพลงลูกทุ่งส่วนใหญ่ผมได้ยินจากนอกบ้าน ในบ้านนั้นพี่ชายและพี่สาวไม่ฟังเพลงลูกทุ่งถ้าเป็นเพลงไทยก็จะเป็นลูกกรุงกับเพลงจากวงดนตรีอย่าง The Impossible ที่ร้องนำโดยเศรษฐา ศิระฉายา
เหตุที่ The Impossible (สมัยนั้นนิยมเรียนสั้นๆว่า ดิอิม) โดดเด่นกว่าวงดนตรีที่เล่นตามไนท์คลับอื่นๆ เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่วงที่ทำเพลงไทยออกมาด้วย นอกนั้นส่วนใหญ่เล่นแต่เพลงฝรั่ง โดยเฉพาะเพลงของดิอิม ได้ครูเพลงอย่าง พยงค์ มุกดา และ สุรพล โทณวนิก เขียนให้ตั้งหลายเพลง ซึ่งแต่ละเพลงถือว่าสร้างสรรค์มาก ทั้งเนื้อเพลงและดนตรี
ทะเลไม่เคยหลับ ระเริงชล หนึ่งในดวงใจ ชื่นรัก ชาวดง และอีกหลายเพลง ทำให้ดิอิม ดังมาก และยิ่งดังขึ้นไปอีกเมื่อเปี๊ยก โปสเตอร์ นำเพลงของดิอิมไปใช้ในหนังเรื่อง โทน
นอกจากนี้ ดิอิมยังเป็นวงดนตรีที่ได้รับการยอมรับว่าฝีมือดีมากในยุคนั้น ก่อนจะดังถึงขีดสุด เคยชนะเลิศการประกวดวงดนตรีชนะเลิศแห่งประเทศไทยถึงสามปี
วงที่ดังตามหลังดิอิมมาห่างๆ คือ PM 5 ร้องนำโดยดอน สอนระเบียบ PM 5 มีทำเพลงไทยออกมาบ้าง แต่ไม่มากเท่า และไม่ดังเท่าดิอิม เพลงเดียวที่ผมจำได้คือ สวรรค์ปิด ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพลงของวง หรือเป็นงานเดี่ยวของดอน
งานหลักของดิอิมก็ยังเป็นการเล่นตามไนท์คลับ นอกจากในเมืองไทยยังเคยไปเล่นที่ฮาวาย สแกนดิเนเวีย และไต้หวัน
ดิอิมตัดสินใจยุบวงในปี 2519 แต่ก็ได้กรุยทางให้วงอื่นๆไว้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อดิอิมทำเพลงไทยประสบความสำเร็จ วงอื่นๆที่เคยเล่นตามคลับมาด้วยกันจึงเริ่มทำเพลงไทยออกมาบ้าง เช่น แกรนด์เอ๊กซ์ และรอยัลสไปรท์ ซึ่งยังเล่นต่อมาอีกหลายปี
วันหนึ่งตอนเรียนชั้นปอห้าขณะฟังวิทยุที่พี่ชายเปิด ในรายการเป็นการประกวดวงโฟล์คซอง โดยให้เล่นสดออกอากาศทางวิทยุ ปรากฏว่า วงดนตรีที่ชนะเลิศในงานนั้น ชื่อว่าวงชาตรี
วงดนตรีที่สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ให้กับวงการเพลงไทยวงหนึ่งจึงได้เริ่มแจ้งเกิดในวันนั้นเอง
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 4
เพลงไทยจำนวนมากเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน เอาเพลงฝรั่งมาใส่เนื้อไทย ไม่ใช่แค่เอาทำนองมานะครับ แต่เอามาทั้งเพลงเลย ดนตรีเหมือนเป๊ะทุกอย่าง กลายเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง
สมัยนั้นไม่มีใครคิดเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ กฎหมายคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาก็ยังไม่มี ใครอยากทำอะไรก็ทำ เพลงของดิอิมบางเพลงก็มี แต่เป็นส่วนน้อย
เก้าล้านหยดน้ำตา จากเพลง 9,999,999 tears ไม่รักแกล้งหลอก จากเพลง Lighting Bar Blues ของดอน สอนระเบียบ งัวหาย จากเพลง My First Time ของเศรษฐา ศิระฉายา รวมทั้งยังมีเพลง ซำบายดีเหรอ จากเพลง Somebody Love Her ที่ร้องโดยไพโรจน์ สังวริบุตร ดังจนคนรู้จักทั้งประเทศ
หลังจากนั้นก็ตามมาอีกเป็นจำนวนมาก รอยัล สไปรท์ ถึงกับทำอัลบั้มชื่อ เจงกีสข่าน ที่เป็นเพลงฝรั่งเนื้อไทยทั้งชุดออกมา ผมจำไม่ได้ว่าพอเป็นเพลงไทยแล้วชื่ออะไร แต่ในอัลบั้มนี้มีนอกจากเจงกีสข่าน ยังมี Ring My Bell และ Johnny Be Good อยู่ด้วย
พออยู่ปอหก ผมก็เริ่มหัดเล่นกีตาร์ ไม่ได้ไปเรียนที่ไหนหรอก หัดเอาเองจากหนังสือเพลง The Guitar และ I.S. Song Hit ของเล็ก วงศ์สว่าง นั่นแหละ อ่านแล้วก็คิดเอาเองว่ามันเป็นยังไง ไม่มีใครสอน เล่นไปเล่นมาจนพอฟังดูเป็นเพลง
Why Do I Love You So คือเพลงแรกที่เล่น เพราะมันมีแค่สี่คอร์ดพื้นฐาน C Am F และ G7 เล่นไปด้วยร้องไปด้วย เลยได้ฝึกร้องเพลงไปพร้อมๆกัน
เพลงที่ใช้ฝึกเล่นกีตาร์ให้คล่องขึ้นส่วนมากเป็นเพลงของชาตรี เพราะมีรูปแบบดนตรีที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน จากไปลอนดอน ในชุดแรก จนถึงแฟนฉัน ในชุดที่สอง มีรูปแบบดนตรีที่ต่างจากเพลงของวงสตริงคอมโบ้ที่เล่นตามไนท์คลับมาก่อนอย่าง แกรนด์เอ็กซ์ และรอยัลสไปรท์ มาก เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของชาตรีคือ ไม่เล่นเพลงฝรั่ง ไม่ว่างานไหนก็ตาม
เวลานั้นมีวงโฟล์คอีกวงหนึ่งมีชื่อเสียงขึ้นมาในกลุ่มคนฟังเพลงกลุ่มเล็กๆชื่อว่าวง อิสซึ่น นำโดยสองพี่น้อง อัสนี และ วสันต์ โชติกุล เพลงแม่สาวงามตา ที่ใช้ทำนองเพลงแบบอีสาน เป็นเพลงที่คนหัดเล่นกีตาร์ต้องเล่น เพราะมีแค่คอร์ดเดียว
พอผมขึ้นมัธยม จอห์น เลนน่อนก็ถูกยิงตาย
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 5
Queens เป็นวงที่พี่ชายและพี่สาวผมชอบ ผมจึงได้ฟังบ่อยมากจนติดหู และร้องตามแบบมั่วๆได้เกือบทุกเพลง แต่ละเพลงล้วนแล้วแต่แปลกประหลาด ไม่เหมือนเพลงทั่วไป ทำให้กลายเป็นวงโปรดของผมไปด้วย ทุกวันนี้หยิบกีตาร์ขึ้นมายังเล่น Love of My Life กับ Crazy Little Thing Called Love อยู่บ่อยๆ
หนังเรื่องวัยอลวน ทำให้ชัยรัตน์ เทียบเทียม มีชื่อเสียงขึ้นมาจากเพลง ชูวับ โววโววโวว และทำอัลบั้มเพลงโฟล์คออกมาชุดหนึ่ง เอาเพลงฝรั่งมาใส่เนื้อไทยกะเขาด้วย มีเพลง ยับ ที่ใช้ทำนองเพลง Puff The Magic Dragon อยู่หน้าเอเพลงแรก
พูดถึงคำว่าหน้าเอเพลงแรกเสียหน่อยดีไหมนี่ ก่อนที่คำนี้มันจะหายไปไม่มีใครรู้จัก เพราะ CD มันมีหน้าเดียว ยิ่งโหลดเพลงใส่ไอพอด ไอโฟน แฟลชไดรฟ ยิ่งแล้วใหญ่ อยากเรียงเพลงยังไงตามใจคนฟัง
ติดไว้ก่อนละกัน ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลัง
ผมย้ายจากโรงเรียนประถมเล็กๆชายขอบกรุงเทพ ไปเรียนต่อชั้นมัธยมในเมือง เมื่อปี 1979 โรงเรียนใหญ่ขึ้น เพื่อนเยอะขึ้น ใกล้ความเจริญมากขึ้น เพลงที่ฟังก็ทันสมัยขึ้นตามไปด้วย
ชาตรีออกอัลบั้มชุดที่สี่ รักสิบแบบ วัยรุ่นร้องตามกันได้ทั้งเมือง ในขณะที่แกรนด์เอ็กซ์มีอัลบั้มลูกทุ่งดิสโก้ ออกมาให้คนฮือฮากัน ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะได้ตลาดทั้งกลุ่มคนฟังเพลงลูกทุ่งและเพลงจากวงสริงคอมโบ้
เพลงฝรั่งก็ฟังไปเรื่อยเปื่อยตามกระแส ผมเล่นกีตาร์และร้องเพลง Angelina โดยไม่รู้ความหมายของมันเลย เข้าใจว่าเขาพูดถึงคนรักอย่างหวานซึ้ง ก่อนจะมารู้ในอีกหลายปีให้หลังว่า มันไม่ใช่ แต่พูดถึงเด็กสาววัยรุ่นที่ท้องแล้วต้องแอบไปทำคลอดคนเดียวไม่ให้ใครรู้
I can't tell You Why ของ The Eagles ออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้ผมรู้จักวงนี้ และไปหาอัลบั้มก่อนหน้ามาฟัง จึงได้รู้จักเพลงสุดยอดคลาสสิคตลอดกาล คือ Hotel California นั่นเอง
ก่อนจอห์น เลนน่อนตาย เขาทำอัลบั้ม Double Fantasy ออกมาเป็นชุดสุดท้าย มีเพลง Woman ที่ผมชอบมาก แหมเขียนถึงแล้วนึกอยากฟังขึ้นมาเชียว
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 6
ถ้าจะนับวงดนตรีที่เป็นหลักกิโลเมตร ของวงการเพลงไทยยุคใหม่ ผมขอเริ่มนับ The Impossible เป็นหลัก กม.ที่ 1
ดิอิม ทำเพลงไทยออกมาเยอะมาก สร้างแนวทางใหม่ๆของวงดนตรีที่มักเล่นกันแต่เพลงฝรั่ง ให้มาทำเพลงไทยกันบ้าง และดิอิมยังเป็นวงสริงคอมโบ้วงแรก ที่มีการเก็บเงินค่าเข้าชมอีกด้วย ทั้งที่เป็นการเล่นในไนท์คลับ ที่เดอะเดน โรงแรมอินทรา
ดิอิมยังเล่นเพลงฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ เพราะงานหลักคือการเล่นตามไนท์คลับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดิอิมจึงยังไม่ถึงขนาดพลิกวงการเพลงไทยได้สำเร็จ แค่ "เกือบ" เท่านั้น แต่ถ้าไม่ยุบวงไปก่อนในปี 2519 ก็ไม่แน่เหมือนกัน
วงดนตรีในยุคเดียวกับดิอิม ไม่มีวงไหนทำเพลงไทยออกมาแล้วดังเท่าหรือแม้แต่ใกล้เคียง
แกรนด์เอ็กซ์ และรอยัลสไปรท์ เป็นวงที่โดดเด่นขึ้นมาหลังยุคดิอิม อัลบั้มลูกทุ่งดิสโก้ของแกรนด์เอ็กซ์ น่าจะนับได้ว่าเป็นหลัก กม. ที่สองของวงการดนตรีไทยได้ ถ้าไม่มีวงดนตรีน้องใหม่ชื่อว่า ชาตรี เกิดขึ้นมาเสียก่อน
แฟนๆแกรนด์เอ็กซ์อย่าเพิ่งน้อยใจ เพราะตอนนั้นยังไม่ถึงจุดสูงสุดของพวกเขา
เพลงหวานๆใสๆ ของชาตรี เป็นแนวทางให้วงดนตรีแนวนี้เกิดขึ้นมามากมาย สันตา ทำเพลงสบายโก๋ออกมาเป็นที่รู้จัก วัยรุ่นคนไหนเล่นกีตาร์ร้อง "เพลงสบาย สบายโก๋ เชิญร้องโชว์ให้หญิงฟัง........" จะเท่ห์มาก แต่สันตาก็ดังอยู่แค่เพลงเดียว ในขณะที่ชาตรี ยังทำเพลงออกมาอย่างต่อเนื่องและดังทุกเพลง
ชาตรีมีเพลงของตัวเองมากพอ ดีพอ และดังพอ จนไม่ต้องเล่นเพลงฝรั่งเลยไม่ว่าโอกาสไหนๆ เป็นวงที่แสดงให้เห็นว่า เพลงไทยก็มีศักดิ์ศรีเทียบชั้นเพลงฝรั่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ผมจึงนับว่า ชาตรี เป็นหลักกิโลเมตร หลักที่ 2 ของวงการดนตรีไทยที่เกือบจะพลิกวงการดนตรีไทยได้อีกวงหนึ่ง แต่ก็ยังแค่เกือบ เพราะชาตรีเด่นอยู่แค่วงเดียว วงอื่นๆที่พยายามเดินตามก็ยังห่าง และไม่ได้ทำผลงานออกมาต่อเนื่องอย่างชาตรี
วงดนตรีที่สร้างปรากฏการณ์พลิกวงการดนตรีไทยได้สำเร็จ ผมยกให้ แกรนด์เอ็กซ์ จากอัลบั้ม "Grand Ex O"
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 7
"แกะ" เป็นศัพท์ที่นักดนตรีใช้กัน หมายถึงการฟังเพลงและเล่นเลียนแบบให้เหมือนที่สุด ใครยิ่งเล่นเหมือนยิ่งเก่ง ใครเล่นไม่เหมือนแปลว่าไม่เก่งจริง
สมัยนั้น วงดนตรีทุกวงแข่งกันที่ใครจะเล่นเพลงฝรั่งได้เหมือนกว่ากัน แต่ชาตรีไม่จำเป็นต้องแกะเพลงของใคร เขาเล่นแต่เพลงของตัวเอง
ที่ผมบอกว่าชาตรีแค่เกือบจะพลิกวงการเพลงไทย เพราะชาตรีทำอย่างนี้อยู่แค่วงเดียว วงอื่นๆในยุคใกล้เคียงอย่าง อย่าง McIntoch, Free Bird, Try, Forever, Generation, President, State Express และอีกหลายวง ล้วนแต่มีผลงานเพลงไทยออกมาคนละชุดสองชุด แต่งานหลักของวงก็ยังเป็นการแกะเพลงฝรั่งเล่นอยู่ดี
แม้แต่วงรุ่นก่อนหน้าอย่าง Grand Ex' และ Royal Sprite ที่มีผลงานเพลงไทยมากกว่าวงอื่นๆ ก็ยังแกะเพลงฝรั่งเล่นมากกว่า
จุดเปลี่ยนของวงการเพลงไทยเกิดจากการที่ จำรัส เศวตาพร นักร้องนำของ Grand 'Ex ลาออกไป ทางวงจึงต้องหานักร้องนำคนใหม่ วันหนึ่งขณะนั่งอยู่ที่ ลิโด คอฟฟี่ช้อป นคร เวชสุภาพร หัวหน้าวงก็สะดุดหูกับเสียงร้องของนักร้องหนุ่มที่เล่นกีตาร์โฟล์คร้องเพลง Bee Gees อยู่บนเวทีชื่อว่า ดนุพล แก้วกาญจน์ ชื่อเล่นว่าแจ้
คนคนนี้เองที่ทำให้ Grand Ex' สามารถพลิกวงการดนตรีไทยได้สำเร็จ
แจ้เข้ามาเป็นนักร้องของ Grand Ex' ทำให้วงเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการร้องเพลงของ Bee Gees ได้เหมือน แต่ก็มีผลงานเพลงไทยออกมาด้วย เพลงหัวใจมีปีก เป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งที่ออกมาเป็น Single
ปี 2524 Grand Ex' ทำสิ่งที่พลิกวงการเพลงไทยได้สำเร็จ จากชุด Grand Ex'O โดยเอาเพลงเก่ายุคสุนทราภรณ์ มาเรียบเรียงดนตรีใหม่ให้ทันสมัย อัลบั้มนี้ ทำยอดขายเทปคาสเส็ตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มคนที่ฟังเพลงเก่าและเพลงใหม่ ไม่มีบ้านไหนในเมืองไทยที่ไม่มีเทบหรือแผ่นเสียงชุดนี้อยู่ในบ้าน
ตั้งแต่นั้นมา Grand Ex' ไม่จำเป็นต้องเล่นเพลงฝรั่งอีกต่อไป คนที่มาฟัง Grand Ex' เพราะอยากฟังเพลงของ Grand Ex' ไม่ใช่เพลงของ Bee Gees หรือเพลงฝรั่งอื่นๆ
คนฟังเพลงในเมืองไทยก็มีใจเปิดรับผลงานเพลงไทยของวงอื่นๆตามไปด้วย ทำให้การเล่นเพลงฝรั่งให้เหมือน ไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไปของวงดนตรีไทย ผมจึงนับ Grand Ex' เป็นหลักกิโลเมตรหลักที่ 3 ของวงการเพลงไทย
ก่อนที่จะถึงยุคของ คาราบาว
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 8
เรื่องของคาราบาวมีคนพูดถึงเขียนถึงมาเยอะแยะมากมาย สร้างเป็นหนังไปแล้วสองรอบ (ถึงหนังจะเจ๊งก็เหอะ) ผมจึงจะพูดถึงแต่เพียงสั้นๆ
ก่อนหน้าคาราบาว เพลงแนวเพื่อชีวิตมีคนฟังเพียงเฉพาะกลุ่มเล็กๆคือพวกนิสิตนักศึกษาที่สนใจการเมืองเท่านั้น แต่คาราบาวทำให้เพลงแนวนี้แพร่หลายไปในวงกว้าง และกลายเป็นวงดนตรีที่ดังที่สุดยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของวงการเพลงไทยที่ต้องนับเป็นอีกหลักกิโลเมตรหนึ่ง
คาราบาวผสมผสานดนตรีแบบวงสตริงคอมโบ้เต็มรูปแบบกับเพลงแนวเพื่อชีวิตอย่างลงตัว นับแต่ชุดที่ 3 คือ วณิพก ทำให้คนสนใจชื่อวงนี้ และเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในชุดที่ 4 ท.ทหารอดทน ก่อนจะประกาศความยิ่งใหญ่ในชุดที่ 5 เมดอินไทยแลนด์ เมื่อปี 2527 ทุกเพลงในชุดนี้ ดังมากจนสามารถเป็นหน้าเอเพลงแรกได้ทั้งสิบเพลงเลย
ความสำเร็จของชุดเมดอินไทยแลนด์คือทำยอดขายมากกว่า Grand Ex'O เสียอีก
เหตุหนึ่งที่ทำให้เพลงของคาราบาวประสบความสำเร็จมากกว่าวงอื่น นอกจากการแต่งเพลงที่มีเนื้อหาสะท้อนเหตุการณ์ในสังคมได้โดนใจคนแล้วก็เป็นเพราะได้นักดนตรีฝีมือดีหลายคนมาร่วมวง ส่วนหนึ่งมาจากวงเพรสสิเดนท์ อย่างเล็ก และอ๊อด ส่วน ธนิสร์ นั้น ฝีมือเครื่องเป่าชั้นบรมครูเลยทีเดียว
หลังจากนั้นมา วงดนตรีแนวนี้ก็เกิดขึ้นอีกมากมาย เช่นเดียวกับวงดนตรีแนวอื่นๆที่ทำเพลงไทยออกมาตามแนวทางของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องเล่นเพลงฝรั่งให้เหมือนอีกต่อไป
พูดถึงหน้าเอเพลงแรกเสียหน่อยละกัน สมัยที่เทปคาสเส็ทสี่แทรค เป็นสื่อสำหรับฟังเพลงที่สะดวกที่สุด เพลงชุดหนึ่งส่วนใหญ่จะทำออกมา 10 เพลง  แต่มักจะมีเพลงเด่นๆอยู่แค่ 3-4 เพลง หน้าเอเพลงแรกจะเป็นเพลงที่ดีที่สุด และคาดว่าจะฮิตที่สุด บางครั้ง(และหลายครั้ง)เป็นชื่ออัลบั้มด้วย
หน้าเอเพลงที่สองและสาม เป็นเพลงที่คาดว่าจะดังตามลำดับถัดมา ถ้าเป็นไปได้ โปรดิวเซอร์จะหาเพลงเด่นๆอีกซักเพลงใส่ไว้หน้าบีเพลงแรก นอกเหนือจากนั้น อีก 5-6 เพลง ใส่เข้ามาเพื่อให้เต็มอัลบั้มเท่านั้น
แต่อัลบั้มที่สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ในวงการเพลงอย่าง Grand Ex'O และ เมดอินไทยแลนด์ ทุกเพลงสามารถเป็นหน้าเอเพลงแรกได้ทั้งหมด
มีนักร้อง 2 คนที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยหากพูดถึงความเป็นมาของวงการเพลงไทย คือ ธงชัย แมคอินไตย กับ อัญชลี จงคดีกิจ
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 9
ผมเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่งพอดี ตอนที่อัลบั้มหนึ่งเดียวคนนี้ ของปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ ออกวางตลาด ทำให้คนทั้งประเทศรู้จักเธอพร้อมกับสัญญลักษณ์ เอโพธิ์ดำ
เพลงหนึ่งเดียวคนนี้ ลงตัวมากทั้งเนื้อร้อง ทำนอง และดนตรี เหมาะกับบุคคลิกของอัญชลี ที่เป็นผู้หญิงห้าว แกร่ง มั่นใจในตัวเอง เป็นร๊อคเกอร์หญิงคนแรกของเมืองไทย เปลี่ยนภาพของนักร้องหญิงไทยที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิง ทำให้มีนักร้องหญิงรุ่นต่อๆมาเลียนแบบเธออีกมากมาย
แม้จะประสบความสำเร็จอยู่แค่ชุดเดียว แต่ก็แรงมากพอที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการเพลงไทยในส่วนของนักร้องหญิง จึงต้องนับว่า อัญชลี จงคดีกิจ เป็นหลักกิโลเมตรหนึ่ง ที่จะลืมไปเสียไม่ได้
หนึ่งปีถัดมาคือ ปี 2529 วงการเพลงไทยก็สั่นสะเทือนอีกครั้งจากการวางตลาดของอัลบั้ม บ้าหอบฟาง
อัสนี โชติกุล สั่งสมประสบการณ์ทางดนตรีมานาน นับตั้งแต่ อิสซึ่น แล้วมาอยู่วง โอเรียเต็ล ฟังค์ กับเต๋อ เรวัติ พุทธินันท์ จากนั้นก็มาอยู่วง บัตเตอร์ฟลาย กับสุรสีห์ อิทธิกุล ก่อนจะไปทำงานด้านดนตรีที่ลอนดอน แล้วกลับมาเมืองไทยร่วมกับวสันต์ ผู้เป็นน้องชาย ทำเพลงชุด บ้าหอบฟ้า ออกมา
เพลงในชุดนี้ โดดเด่นมากในด้านดนตรี ทั้งลีลา จังหวะ การเรียบเรียง และการบันทึกเสียง เป็นร๊อคที่ไม่รุนแรงมาก จึงเข้าถึงคนฟังได้ในวงกว้าง เมื่อบวกกับฝีมือกีตาร์ระดับเทพของสองพี่น้อง ทำให้บ้าหอบฟางประสบความสำเร็จอย่างมาก และไม่ใช่แค่อัลบั้มเดียว เพราะอัสนีและวสันต์ ทำผลงานเพลงออกมาอีกมากมายหลายชุด แต่ละชุดล้วนประสบความสำเร็จทั้งสิ้น
ความสำเร็จของอัสนี และวสันต์ โชติกุล ทำให้วงดนตรีไทยในแนวร๊อคและแนวอื่นๆเกิดอีกมากมายหลายวง มีโอกาสมากขึ้นในการนำเสนอผลงานออกมา ผมจึงยกให้พี่น้องคู่นี้เป็นอีกหลักกิโลเมตรหนึ่งที่สำคัญมากของวงการเพลงไทย
แล้วเบิร์ด ธงชัย แมคอินไตย์ ล่ะ ทำอะไร ไม่มีใครในเมืองไทยไม่รู้จัก พี่เบิร์ด เขาเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จที่สุด ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นระยะเวลายาวนานที่สุด ในเมืองไทย นับตั้งแต่ ปี 2529 จนถึงปัจจุบัน จึงจะไม่พูดถึงไม่ได้
แต่เบิร์ดประสบความสำเร็จเพราะตัวเบิร์ด ความเป็น Entertainer ที่เก่งมากของเขา ทำให้เขาร้องเพลงอะไรก็ได้ แนวไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้
เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง 10
หลังจากความสำเร็จของอัสนีและวสันต์ โชติกุล มีวงดนตรีมากมายที่เกิดขึ้น หลายวงฝีมือดี สร้างผลงานเพลงดีๆออกมา บางวงดังในช่วงเวลาสั้นๆ บางวงก็ดังอยู่นาน แต่ไม่มีวงไหนที่โดดเด่นถึงขนาดที่เรียกได้ว่า สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเพลงไทย
8 ปีนับจากชุดบ้าหอบฟาง จึงได้มีวงดนตรีของเด็กหนุ่มจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4 คน ทำผลงานเพลงที่แหวกไปจากรูปแบบเดิมๆของเพลงไทย กลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่รุนแรงจนส่งผลถึงแนวทางของวงการเพลงไทยที่จะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากนั้น
คือวงดนตรีที่ชื่อว่า Moderndog
โครงสร้างของดนตรีที่เรียบง่าย ต่างไปจากวง String Combo ในอดีต หรือดนตรีที่ครบเครื่องอย่างของคาราบาว กับ อัสนีและวสันต์ Moderndog มีเครื่องดนตรีเพียงสามชิ้น คือ กีตาร์ เบส และกลอง แต่เพลงของเขามีพลังอย่างมหาศาล ด้วยความหนักแน่นของเบสและกลอง ผสานกับเสียงกีตาร์ที่กรีดลึกบาดอารมณ์ด้วยฝีมือโซโลที่เก่งอย่างมาก เมื่อมาบวกกับเสียงและลีลาการร้องเพลงของป๊อด นักร้องนำ วงดนตรีวงนี้จึงทำให้วงการเพลงต้องหันมามองว่าพวกเขาคือใคร
ความสำเร็จของ Moderndog ทำให้นักดนตรีรุ่นใหม่มีโอกาสมากขึ้น เพราะโครงสร้างดนตรีที่มีเพียงสามชิ้น ทำให้เกิดวงดนตรีใหม่ๆขึ้นอีกเป็นจำนวนมากที่ใช้รูปแบบเดียวกัน กลายเป็นแนวทางใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจนต้องนับว่า Moderndog เป็นหลักกิโลเมตรที่สำคัญของวงการเพลงไทยวงหนึ่ง
สิบกว่าปีมานี้ วงดนตรีสมัครเล่นและวงดนตรีอาชีพที่เล่นตามสถานบันเทิงยังคง "แกะ" เพลงเพื่อเล่นให้เหมือนอยู่ แต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องแกะเพลงฝรั่งอย่างวงดนตรีรุ่นก่อนหน้า พวกเขาแกะแต่เพลงไทยกันก็พอหากินได้ถมเถ สิ่งนี้เองที่ผมมองว่า เป็นการพัฒนาของวงการเพลงไทย ซึ่งต้องใช้เวลานานร่วมสามสิบปี กว่าจะมาถึง
ความเป็นไปในวงการเพลงไทยหลังจาก Moderndog คงต้องเป็นหน้าที่ของคนอื่นมาบันทึก เพราะเลยวัยของผมไปแล้ว สำหรับผมทำได้แค่นี้ สวัสดีทุกท่านครับ
โฆษณา