24 พ.ย. 2020 เวลา 13:53 • ธุรกิจ
Anne Wojcicki ชื่อนี้เราอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไร แต่เรื่องราวของเธอมีเสน่ห์ให้ชวนติดตามทั้งการเป็นอดีตภรรยาของเซอร์เก ผู้ร่วมก่อตั้ง Google จนมาถึงการที่เธอก่อตั้งบริษัทรับตรวจ DNA จนขึ้นทำเนียบเศรษฐีหญิงที่สร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเอง
1
เรื่องราวความเป็นมาของเธอน่าสนใจขนาดไหน Innowayถีบ จะเล่าให้ฟัง
1) Anne Wojcicki
Anne จัดได้เป็นคนวงในของ Silicon Valley สุดๆคนหนึ่ง เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ของเธอทำงานเป็นอาจารย์อยู่ใน Stanford University นอกจากนี่พรหมลิขิตยังทำให้เธอได้พบกับ เซอร์เก เบนในขณะที่เขาและเเลรี่หอบความฝันในการสร้างโปรแกรมที่จะทำการจัดเรียงข้อมูลต่างๆ มาเช่าโรงรถของพี่สาวเธอในการทำงานของพวกเค้า
1
แม้ปัจจุบันแอนกับเซอร์เกได้แยกทางกัน แต่ครอบครัวก็ยังมีความผูกพันกับกูเกิลโดยซูซาน ซึ่งเป็นพี่สาวของแอน (เจ้าของโรงรถ) ก็ยังเป็นพนักงานของ กูเกิลคนที่ 16 ซึงปัจจุบันเธอยังเป็น CEO ของ Youtube อีกด้วย (ครอบครัวนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ)
ส่วนแอนนั้นหันมาจับธุรกิจทางด้านสุขภาพก็เกิดจากประสบการณ์การเป็นนักวิเคราะห์ใน Wall Street และพบความโหดร้ายของธุรกิจสุขภาพที่มุ่งแต่การสร้างผลกำไร และละเลยการส่งเสริมให้คนดูแลป้องกันสุขภาพ
ในปี 2005 หลังจากที่ได้มีโอกาสรู้จักหุ้นส่วนคนสำคัญของเธอ Linda Avey หลังจากนั้นพวกเธอก็ได้ก่อตั้ง 23andMe และได้วางขายชุดตรวจ DNA บุคคลครั้งแรกในปี 2007 ที่ราคา 999 เหรียญ
ภายในเวลาสี่ปีหลังจากนั้น 23andMe ก็มีลูกค้าเกิน 100,000 รายนอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีที่ในการทำ DNA sequencing พัฒนายิ่งขึ้นก็ทำให้ราคาชุดตรวจปัจจุบันอยู่ที่เพียง 99 เหรียญเท่านั้นเอง
1
ซึ่งปัจจุบันนี้ 23andMe มีข้อมูลรหัสพันธุกรรมกว่า 10 ล้านข้อมูลส่งให้บริษัทของเธอมีมูลค่ามากกว่า 2,500 ล้านเหรียญโดยที่แอนยังกำหุ้นในบริษัทไว้กว่า 30%
ชุดเก็บตัวอย่างของ 23andMe cr:23andMe
2) 23andMe กับเทคโนโลยีการวิเคราะห์สุขภาพด้วย DNA
ปัจจุบันเรามักได้ยินวิวัฒนาการทางการเเพทย์ในการวิเครึรักษาอย่างเฉพาะเจาะจงในแต่ละบุคคล (precision medicine) ซึ่งนอกจากแม่นยำและตรงจุด ก็เชื่อว่าจะมีประสิทธิภาพมากการการรักษาแบบเดิมๆ ข้อมูลส่วนหนึ่งที่จะต้องนำมาใช้ในการรักษาก็คือ ข้อมูลเกี่ยวกับ DNA ของผู้ป่วย
แต่!! การที่จะได้ข้อมูล DNA ของบุคคล (หรือผู้ป่วย) ด้วยกระบวนการ DNA sequencing นั้นยังต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการตรวจวัดจีโนมของผู้ป่วยมะเร็งสักคนมีค่าใช้จ่าย (ที่อังกฤษประมาณ 7,000 ปอนด์)
โดยระบบที่ 23andMe เลือกใช้นั้นก็คือการทำ genotyping ซึ่งอธิบายง่ายๆว่าเป็นการแสกนหาจุดที่ผิดปกติ (ซึ่งเรียกว่า variant) โดยการเทียบกับข้อมูลที่เป็น refernce โดยจุดที่มีความผิดปกตินั้นก็มีความเชื่อมโยงกับโอกาสที่จะเกิดโรคต่างๆได้ แทนที่จะต้องอ่านลำดับของDNA ทุกตัว (ซึ่งแพงและใช้เวลา)
ในร่างกายของคนเรานั้นก็มีองค์ประกอบของข้อมูลมหาศาล ความผิดปกติของรหัสพันธุกรรมก็มีได้มากมายหลายตำแหน่ง การหาความเชื่อมโยงของ variant กับความเสี่ยงในการเกิดโรคก็มีการศึกษาเป็นวงกว้าง ซึ่งหนึ่งในการค้นคว้าก็สามารถบ่งชี้ variant ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจจากการศึกษา variant ที่เกิดขึ้นโดยสถาบันวิจัยในอังกฤษ ซึ่งการศึกษานี้ก็เป็นความร่วมมือในระดับนานาชาติมีชื่อโครงการว่า "Hapmap Project"
Cr: goldbio
แม้ทุกๆอย่างในขีวิตของแอนจะดูดี ราบเรียบแต่พายุใหญ่กลับกำลังก่อตัว
3) มีวันที่หกล้มก็ย่อมมีวันที่ลุกยืน
มีสุภาษิตฝรั่งที่ว่า "lucky in game, but unlucky in love" ไม่มีใครได้ทั้งอย่าง แต่ก็ไม่ควรที่ใครเสียทั้งสองอย่าง?
ในช่วงปี 2013 เธอต้องเจอกับมรสุมครั้งใหญ่ทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิต เมื่อความรักของเธอกับ Brian ต้องจบลง พร้อมกับปัญหาทางข้อกฎหมายเดี่ยวกับชุดตรวจกับ FDA เมื่อถูกคำสั่งให้นำชุดตรวจของบริษัทออกจากการจัดจำหน่าย เนื่องด้วย FDA ตีความว่าเอกสารรายงานสุขภาพที่บริษัทวิเคราะห์จากข้อมูล DNA ไม่มีหลักฐานสนับสนุนมากพอ
ถึงจุดนี้แอนเคยเกือบที่จะเลิกทำบริษัทของเธอต่อเลยทีเดียว
แอนและทีมงานต้องใช้เวลาเกือบสองปีในการที่จะทำให้ชุดตรวจของ 23andMe สามารถขายให้ผู้ใช้โดยตรง (โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์) ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จเมื่อทำพิสูจน์ว่าชุดตรวจสามารถให้ผลการทดสอบที่แม่นยำ โดยการใช้ข้อมูลสนับสนุนจากการตรวจหาโรคที่ชื่อว่า "Bloom syndrome" ซึ่งเป็นโรคหายากที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม โดยจะทำให้ผิวหนังมีโอกาสเกิดผื่นแดงอักเสบได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณใต้ดวงตา และแก้ม นอกจากนี้ยังเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคมะเร็งได้อีกด้วย
ด้วยผลการศึกษาดังกล่าวทำให้ 23andMe เป็นชุดตรวจ DNA ที่สามารถให้ผลการวิเคราะห์เจ้าแรกที่ขายให้แก่ผู้บริโภคได้โดยตรง แบบไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
ถึงจุดนี้ 23andMe ก็ติดลมบนเมื่อมีผู้ใช้ชุดตรวจของบริษัทมากขึ้น ฐานข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นก็เริ่มทรงคุณค่า โดยล่าสุดทาง GSK บริษัทผู้พัฒนารายใหญ่ของโลกก็ได้ประกาศความร่วมมือกับ 23andMe โดย GSK ได้ลงทุนเป็นเงินกว่า 300 ล้านเหรียญในการใช้ฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมในการพัฒนายาชนิดใหม่
1
สำหรับแอนและ 23andMe มันเป็น business model ที่น่าประทับใจที่เดียวเมื่อข้อมูลที่มีคนจ่ายเงินให้พวกเธอรวบรวมสามารถนำไปขายได้เงินเพิ่มขึ้นอีก (แต่เป็นเฉพาะชุดข้อมูลที่เจ้าของยินยอมให้นำไปใช้เพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้นนะครับ ซึ่งก็มีปริมาณเกือบ 10% แต่ก็นับได้ว่าเป็นฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากอยู่ดี)
Cr: Bloomberg
4) การตรวจ DNA กับงานอาชญากรรม
แม้การตรวจ DNA จะเป็นเรื่องราวที่คุ้นชินในปัจจุบันในการตรวจหาผู้กระทำผิด แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกการตรวจ DNA จะสามารถหาคนผิดได้เสมอถ้าผู้ต้องสงสัยไม่มีข้อมูลอยู่ในฐานข้อมูลย่อมเป็นการยากที่จะเจอตัว
แต่การใช้ข้อมูลบนฐานข้อมูลสาธารณะซึ่งเกิดจากการที่ผู้ที่มีข้อมูลรหัสพันธุกรรมของตัวเองนำข้อมูลดังกล่าวไปทำการเปรียบเทียบสร้างเป็นแผนภูมิครอบครัว (family tree) ว่าเป็นใครมาจากไหน บ้างครั้งสามารถสืบหาต้นตระกูลหรือญาติที่ห่างๆกันมากได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่สำหรับการไล่จับเหล่าอาชญากรฐานข้อมูลที่ว่าก็สามารถช่วยไขปริศนาคดีดังๆได้เช่นกัน อย่างกรณีฆาตรกรรมในเมือง California, USA หรือที่รู้จักในนาม Golden State Killer ทางตำรวจก็สามารถระบุตัวบุคคลจากการนำ DNA ที่เก็บได้ในที่เดิดเหตุ ไปตรวจแต่หลังจากพยายามสืบค้นในฐานข้อมูลของราชการกับไม่สามารถระยุตัวคนร้ายได้ ในที่สุดทางตำรวจจึงลองนำข้อมูลไปสืบค้นในฐานข้อมูลเอกชนที่ชื่อ GEDmatch ซึ่งใช้ในการสร้าง Family tree แล้วดันแจ็กพอตมีญาติของผู้ร้ายนำข้อมูลไปสืบค้นไว้ในระบบเหมือนกัน ทำให้การตีวงหาผู้กระทำผิดเกิดขึ้นได้
แม้สุดท้ายจะจับผู้ต้องหาได้ และผู้ต้องหายอมรับผิดได้รับโทษอย่างสาสม แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงถึงการนำข้อมูลไป ใช้ว่าทำอย่างไรที่จะเกิดความรอบคอบและไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่นได้
แถลงการณ์ของ GEDmatch cr: Newyork Times
ความมุ่งมั่นในการสร้างระบบข้อมูลทางพันธุกรรมเป็นความใันที่ยิ่งใหญ่ของเธอ ตัวเธอเองนั้นก็เป็นผู้ป่วยโรคหายาก ที่เกิดจากความผิดปกติของ DNA เช่นกัน
แอน และ 23andMe จึงฝันที่จะนำความก้าวหน้าในการตรวจหาความปิดปกติในระดับยีนเป็นตัวช่วยเตือนล่วงหน้าต่อความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งในระยะยาวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในดารรักษาได้มากทีเดียว
The complete costs of genome sequencing: a microcosting study in cancer and rare diseases from a single center in the United Kingdom, www.nature.com, 30 July 2019
Live Long And Prosper: How Anne Wojcicki’s 23andMe Will Mine Its Giant DNA Database For Health And Wealth, https://www.forbes.com/, 6 June 2019
The Golden State Killer Is Tracked Through a Thicket of DNA, and Experts Shudder, nytimes.com, 27 Apr 2018
โฆษณา