23 พ.ย. 2020 เวลา 08:27 • บ้าน & สวน
ลดมลพิษในบ้านด้วย "พลูด่าง" 3 ชนิด 🍀
ที่ปลูกง่าย 🌱 ดูแลรักษาง่าย ขยายพันธุ์ง่าย
สามารถเลี้ยงได้ทั้งในดิน และในน้ำ
แถมยังช่วยในการฟอกอากาศได้ดีอีกด้วย
"พลูด่าง" มีชื่อภาษาอังกฤษว่า (Golden Pothos)
เป็นไม้เลื้อยที่สามารถพบได้ในป่าเขตร้อนทั่วโลก
นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ หรือตกแต่ง
ภายในอาคาร และตามบ้านเรือนต่าง ๆ
เนื่องจากมีรูปใบที่คล้ายกับรูปหัวใจ 💝
มีสีเขียว แต้มด้วยสีเหลือง ทำให้ดูสวยงาม
โดยเฉพาะเวลามันเลื้อยพัน หรือห้อยย้อยลงมา
จะมีรากงอกออกมาตามข้อของลำต้น
ทำให้รู้สึกสดชื่น และมีชีวิตชีวามากขึ้น
ทั้งยังมีความเชื่อว่า "พลูด่าง" เป็นต้นไม้มงคล
เมื่อปลูกพลูด่างไว้ในบ้าน จะช่วยสร้างบารมี
คุ้มครองให้คนในครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
โดย "พลูด่าง" ที่เราจะมาแนะนำวันนี้
มีด้วยกันทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่
1. พลูด่าง
2. พลูด่างราชินีสีทอง
3. พลูด่างราชินีหินอ่อน
พลูด่าง
พลูด่างราชินีสีทอง
พลูด่างราชินีหินอ่อน
ลักษณะโดยทั่วไปของ "พลูด่าง"
เป็นไม้เลื้อยที่มีลำต้นกลม
ต้นที่อ่อนจะมีลำต้นสีเขียว
ส่วนต้นที่แก่นั้นจะมีสีเขียวออกน้ำตาล
มีรากอากาศยึดเกาะอยู่ตามข้อของลำต้น
ใบของพลูด่างจะมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว
แตกออกตามข้อของลำต้น มีผิวใบเรียบ
ปลายใบแหลม มีรูปทรงคล้ายกับรูปหัวใจ
มีสีเขียวอ่อน สีเขียวอ่อนออกทอง
สีเขียวแก่ สีเหลือง และสีขาว
ดอกของพลูด่างจะออกเป็นช่อ
และจะไม่ยอมออกดอกให้เห็น
จนกว่าต้นของพลูด่างจะสมบูรณ์เต็มที่
พลูด่างเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่าย
และรวดเร็ว นิยมใช้วิธีการปักชำ
ซึ่งอาจจะปักชำลงในดิน หรือนำกิ่งไปแช่ในน้ำ
โดยมีวิธีการปลูกได้หลายรูปแบบ ดังนี้
การปลูกในกระถาง
ต้องใช้วัสดุปลูกที่สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
เช่นขุยมะพร้าว นำมาผสมกับดิน และปุ๋ยคอก
เพื่อให้มีแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโต
และเมื่อพลูด่างเจริญเติบโตได้ในระดับหนึ่ง
ยอดก็จะทอดลงมา หรือไต่ขึ้นไปตามผนัง
ทำให้ดูสวยงามขึ้นไปอีกแบบ
ส่วนการปลูกในน้ำ
นิยมนำไปปลูกในขวดแก้ว หรือแจกัน
ตั้งประดับตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน
ข้อดีคือเราไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน
แต่น้ำที่ใช้ปลูกนั้น ควรเป็นน้ำที่สะอาด
ถ้าใช้น้ำประปา ควรพักน้ำไว้อย่างน้อย 1 คืน
เพื่อเป็นการลดคลอรีนที่มีอยู่ในน้ำประปา
และควรเปลี่ยนน้ำทุก 2 อาทิตย์
การปลูกลงพื้นดินตามธรรมชาติ
คือการปลูกที่เหมาะสมที่สุด
และควรปลูกใกล้กับต้นไม้ใหญ่
เพื่อให้ต้นพลูด่างเลื้อยขึ้นไปได้
การดูแลรักษาพลูด่างนั้นไม่ยาก
โดยเราต้องดูแลเอาใจใส่อย่าให้น้ำแห้ง
เพราะพลูด่างเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก
และควรให้ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ
หรือไฟนีออนบ้าง แต่อย่าให้ร้อนจนเกินไป
ถ้าอากาศโดยรอบร้อนมาก ๆ
เราควรใช้น้ำมาเช็ดที่ใบหมาด ๆ
เพื่อหลีกเลี่ยงการเผาไหม้ของใบ
ปลูกพลูด่างในน้ำก็ได้นะ
ถ้าเราปลูกพลูด่างในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
พลูด่างจะเป็นพืชที่ทนต่อโรค
และแมลงต่าง ๆ ได้ดีในระดับหนึ่ง
แต่เมื่อเรานำมาปลูกเป็นไม้ประดับ
เราอาจจะต้องระวังปัญหา
ที่จะเกิดขึ้นในการเลี้ยงพลูด่าง ดังนี้
ปัญหาใบมีสีเหลือง และไม่เจริญเติบโต
เกิดจากการขาดแร่ธาตุอาหาร
ซึ่งก็ควรที่จะได้รับการใส่ปุ๋ย
และควรให้ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ บ้าง
ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับพลูด่าง
ที่เลี้ยงในน้ำ หรือใส่กระถางเล็ก ๆ วางไว้
ปัญหาใบไหม้ มีสีน้ำตาล
บริเวณขอบ หรือกลางใบ
ซึ่งเกิดจากการโดนแดดที่จัดจนเกินไป
ควรรีบเปลี่ยนสถานที่ตั้งใหม่
ให้ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ
ในช่วงของครึ่งวันเช้า ก็เพียงพอแล้ว
โรครากเน่า โดยใบของพลูด่าง
จะเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียว เป็นสีเหลือง
และเริ่มมีการร่วงหล่น เมื่อเป็นมากขึ้น
ลำต้น และใบ จะเกิดอาการแห้งเหี่ยว
เนื่องจากเชื้อราเข้าไปทำลาย
บริเวณของราก ท่อน้ำ และท่ออาหาร
รากเป็นสีน้ำตาล มีอาการเน่าชัดเจน
มีสาเหตุมาจากความชื้นในวัสดุที่ปลูก
อาจมีน้ำขัง หรือแฉะมากเกินไป
ควรเลือกวัสดุ ที่สามารถระบายน้ำได้ดี
ประโยชน์ของ "พลูด่าง"
1. เป็นต้นไม้ที่ช่วยในการฟอกอากาศ
และดูดซับสารพิษในอากาศ ได้เป็นอย่างดี
ทำให้อากาศบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น
ผู้อยู่อาศัยจะมีความรู้สึกสดชื่น เย็นสบาย
และสถานที่นั้นก็จะดูมีความร่มรื่นน่าอยู่มากขึ้น
2. เป็นต้นไม้ที่มีความสวยงาม
สามารถจัดแต่งให้ดูสวยได้ง่าย
มีวิธีปลูก และการดูแลที่ไม่ยาก
เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตได้ไว
เหมาะกับคนทั่วไป ที่พึ่งจะหัดเรียนรู้
ในการที่จะปลูกต้นไม้ต่าง ๆ
3. เป็นต้นไม้ที่มีความเป็นสิริมงคล
มีความเชื่อว่า เมื่อปลูกพลูด่างไว้ในบ้าน
จะช่วยเสริมสร้างบารมีคุ้มครอง
ให้คนในครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
ตกแต่งพลูด่าง บนผนัง
โฆษณา